หนึ่งปีผ่านไป ความสนใจใน Generative AI และโมเดลภาษาใหญ่อย่าง Large Language Models (LLMs) กลับทวีความร้อนแรงขึ้นไปอีกหลายเท่า การลงทุนที่เกี่ยวข้องพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลทั่วโลกมีการกำหนดท่าทีและออกนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ และบางส่วนของสังคมถึงขั้นเชื่อว่าอนาคตของมนุษยชาติกำลังอยู่ในมือของ AI
ด้วยความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทาง HBR นิตยสารในเครือของ Harvard Business School ได้จัดทำผลสำรวจในปีนี้ และพบว่า ใน Top 100 Use Cases มีหัวข้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้นถึง 38 รายการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
10 อันดับ Use Cases ของ Gen AI ที่มาแรงที่สุดในปี 2025
ปีนี้ Use Cases อันดับต้น ๆ มีการเปลี่ยนผ่านจากการใช้งานด้านเทคนิค มาเป็นการใช้งานที่ตอบโจทย์ทางอารมณ์และจิตใจมากขึ้น โดย 10 อันดับแรกคือ
- การบำบัดและมิตรภาพ (Therapy/companionship)
- จัดการชีวิตให้มีระเบียบ (Organizing my life)
- ค้นหาจุดมุ่งหมายชีวิต (Finding purpose)
- การเรียนรู้ที่ดีขึ้น (Enhanced learning)
- เขียนโค้ดอัตโนมัติ (Generating code)
- สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ (Generating ideas)
- ความสนุกสนานและความไร้สาระ (Fun and nonsense)
- ปรับปรุงโค้ด (Improving code)
- การเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
- การใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีขึ้น (Healthier living)
ที่น่าสังเกตคือ 3 อันดับแรกที่มาแรงในปีนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับความต้องการเชิงจิตใจ และสะท้อนการเปลี่ยนผ่านของสังคมสู่การมองหาความหมายในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น
แนวโน้มใหญ่จาก Use Cases
เมื่อนำ Use Cases ทั้งหมดมาจัดหมวดหมู่ใหม่ พบว่าหมวดหมู่ที่โดดเด่นที่สุดคือ “Personal and Professional Support” (การสนับสนุนชีวิตส่วนตัวและการทำงาน) ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 31% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก โดยลดสัดส่วนการใช้เพื่อช่วยเหลือทางเทคนิคลงมาอย่างเห็นได้ชัด
หมวดหมู่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การสร้างเนื้อหาและแก้ไข (Content Creation and Editing) 18%, การเรียนรู้และการศึกษา (Learning and Education) 16%, การช่วยเหลือทางเทคนิค (Technical Assistance and Troubleshooting) 15%, ความคิดสร้างสรรค์และการผ่อนคลาย (Creativity and Recreation) 11%, และ การวิเคราะห์วิจัยและการตัดสินใจ (Research, Analysis and Decision-making) 9%
ตัวอย่างการใช้งานเด่นของปีนี้
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนที่สะท้อนการใช้งานที่น่าสนใจของผู้คนในปี 2025
- การบำบัดจิตใจและเป็นเพื่อน (#1)
“ในแอฟริกาใต้ที่ผมอาศัยอยู่ จิตแพทย์และนักจิตวิทยาขาดแคลนสุด ๆ โมเดลภาษาสามารถให้คำปรึกษาได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง ราคาถูก (หรือแม้แต่ฟรี) และไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกตัดสินจากมนุษย์ด้วยกัน”
- จัดการชีวิตให้มีระเบียบ (#2)
“ฉันให้มันสร้างตารางเวลาการทำความสะอาดบ้านก่อนมีแขกมาพัก”
- เรียนรู้ได้ดีขึ้น (#4)
“ฉันเรียน Data Analysis ด้วยตนเอง โดยใช้ ChatGPT อธิบายเพิ่มเติมสิ่งที่หลักสูตรออนไลน์อธิบายไม่ชัดเจน ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น”
- ชีวิตที่สุขภาพดี (#10)
“จากเดิมที่ต้องนั่งคำนวณสารอาหาร ตอนนี้แค่สั่งให้ AI แนะนำเมนูอาหารตามโภชนาการที่ต้องการ แล้วนำไปซื้อของทำกินได้เลย”
การตั้งคำถามต่อผลกระทบระยะยาว
ท่ามกลางเสียงชื่นชมและการใช้งานที่หลากหลาย ก็มีเสียงสะท้อนถึงความกังวลในผลกระทบเชิงลบ เช่นความกังวลว่า Gen AI อาจทำให้ผู้คนขี้เกียจคิด หรือเด็กนักเรียนจะไม่เรียนรู้อย่างเต็มที่เมื่อ AI สามารถช่วยเขียนรายงานส่งครูได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเห็นว่า การใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้มนุษย์สามารถคิดได้ชัดเจนและลึกซึ้งขึ้น
อนาคตของ Gen AI
แม้จะมีเสียงทั้งเห็นด้วยและต่อต้านสุดโต่ง แต่อนาคตของ Generative AI น่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง ผู้คนยังจะค้นพบวิธีใหม่ ๆ ในการนำมาใช้อยู่เสมอ และ AI จะขยายบทบาทไปสู่การทำหน้าที่ที่ซับซ้อนและมีลักษณะเป็น Agentic มากขึ้น เช่น สามารถยกเลิกบริการต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
บทสรุปในปี 2025 จึงไม่ต่างจากปีก่อนหน้านี้ คือ Gen AI จะยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ และผู้คนจะยังคงปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แล้วพบกันใหม่ในปี 2026