หลายคนที่กระโดดเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และสินทรัพย์ดิจิทัล อย่าง คริปโทเคอเรนซี่ ย่อมรู้ดีว่า มีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างสูง ฉะนั้นหากนักลงทุนหน้าใหม่อยากประสบความเสร็จในการลงทุน ต้องรู้จักวางแผนที่ดีกว่าตัดสินใจ
7 พฤติกรรมการลงทุนหุ้น – คริปโทฯ ที่เพิ่มโอกาสในการทำกำไร
1.มีความรอบรู้ข่าวสารด้านการลงทุน
หากเราเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนในหุ้น และคริปโทฯ แล้ว สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงนั่นก็คือ การติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะโลกแห่งการลงทุนนั้นล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงกัน ซึ่งในบางเหตุการณ์อาจส่งผลกระทบทั่วโลก ก็จะส่งผลมายังตลาดหุ้นบ้านเรา และการลงทุนในคริปโทฯ ด้วย เช่น ล่าสุดเมื่อเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน ที่มีความยื้ดเยื้ออยู่ ณ ขณะนี้ก็ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้น และตลาดคริปโทฯ อาจจะเกิดความผันผวนได้ ทำให้นักลงทุนเกิดแรงเทขายออกมา เป็นต้น ฉะนั้นแล้วการที่เราสนใจข่าวสารบ้านเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศก็จะทำให้เราสามารถดูแลพอร์ต รักษาพอร์ตของเราได้เพื่อไม่ให้เงินต้นนั้นสูญหายไป หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ติดดอย” นั่นเอง ขณะที่คริปโท มีความผันผวนและความเสี่ยงที่สูง และมีความที่ซับซ้อนมากกว่า อีกทั้งยังสามารถทำการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง แหล่งข้อมูลข่าวสารส่วนใหญ่แล้วล้วนมาจากต่างประเทศ เป็นหลัก ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างจากการลงทุนในบ้านเรา
2.ช่างสังเกต วิเคราะห์สถานการณ์ได้
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั่นจะต้องเป็นคนที่ชอบสังเกตในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ว่ามีผลกระทบต่อตลาดหุ้น หรือคริปโทฯ อย่างไร รวมถึงนักลงทุนมีพฤติกรรมอย่างไรด้วย เพราะในทุก ๆ สถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ต่อผลกระทบในการลงทุนปัจจุบันได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้พอร์ตของเรานั่นไม่พังนั่นเอง เช่น การลงทุนในหุ้นหากมีปัญหาทางการเมืองในประเทศเกิดขึ้น มีการปฎิวัติรัฐประหาร นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศอาจมีการเทขายออกไป ตลาดหุ้นร่วงแดงเถือก ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เราต้องสามารถวิเคราะห์ได้กับเหตุการณ์ที่มีคล้าย ๆ กันในทุกช่วงของการลงทุนที่มีเหตุการณ์เช่นนี้ เป็นต้น
3.สร้างวินัยที่ดีให้กับการลงทุน
วินัยการลงทุนในที่นี่หมายถึง ต้องรู้จักทำการบ้าน ตรวจสอบความผิดพลาด โดยการเขียนบันทึกจดรายงานหุ้นแต่ละตัวที่เราซื้อ และขาย รวมถึงในช่วงนั่นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำไมถึงซื้อ ทำไมถึงขาย และที่สำคัญเมื่อซื้อหุ้น หรือลงทุนคริปโทฯ ไปแล้วต้องหมั่นตรวจสอบพอร์ตของเราอยู่เสมอ หากมีข้อมูลที่มาซัพพอร์ตให้เหรียญนั้น ๆ ทีเราลงทุน หรือหุ้นตัวนั้น มีความเปลี่ยนแปลงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราในฐานะที่เป็นนักลงทุนต้องกล้าตัดสินใจ โดยการตั้งจุด Cut Losses หรือที่เรียกว่า การตัดขาดทุน ที่เราสามารถยอมรับการขาดทุน เช่นอาจจะ 1 – 5% เพื่อให้พอร์ตไม่พังลงไป หรือถ้าใครเป็นสายเทคนิคอล เมื่อกราฟสั่งว่าควรทำการขายได้แล้ว นักลงทุนก็ต้องขายออกมาเพื่อเป็นการทำกำไรเพิ่มนั้นเอง ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้ขาดทุนได้เช่นกัน
4.กระจายการลงทุน
การกระจายการลงทุนไปยังหลาย ๆ สินทรัพย์ ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ไม่ได้อยู่เพียงสินทรัพย์เดียว เช่น หากช่วงระยะเวลาขณะนี้ หุ้นมีความผันผวนสูง นักลงทุนอาจจะนำเงินไปพักไว้ก่อนในตราสารหนี้ กองทุนรวม พันธบัตรรัฐบาล หรือทองคำ เป็นต้น เป็นการสร้างผลตอบแทนในอีกช่องทางหนึ่ง ก็จะทำให้พอร์ตการลงทุนของเรานั้นไม่เสียหายมากนัก หรือที่เรียกว่า อย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าเพียงใบเดียว นั่นเอง
5.ต้องรู้จักสไตส์การลงทุนของตัวเอง
การรู้จักสไตส์การลงทุนของตัวเองถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญสามารถรับความเสี่ยงได้มาก หรือน้อย ชอบลงทุนระยะสั้น หรือระยะยาว หรือชอบลงทุนแบบเก็งกำไร เป็นต้น เราต้องทำความเข้าใจตัวเองก่อน ๆ ที่จะเข้าไปลงทุนเพราะแต่ละคนนั่นมีสไสต์ที่แตกต่างกันออกไป หากเราไปลองเลียนแบบบุคคลอื่น ๆ ที่เห็นว่าสามารถทำไรได้หลายร้อยล้านบาท แต่เมื่อเราไปลงทุนตามอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ และอาจจะทำให้หมดตัวไปเลยก็ได้
6.หมั่นศึกษาเรียนรู้วิธีการเทรด
เมื่อคิดจะก้าวเข้ามาลงทุนแล้ว ต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง หมั่นคอยศึกษาเกี่ยวกับการเทรดในรูปแบบต่าง ๆ อยู่ตลอด เรียนรู้ ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ และมีการปรับปรุงแก้ไขการเทรดให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพราะให้เข้ากับสไตส์การลงทุนของเรา ซึ่งในปัจจุบันคอร์สเรียนต่าง ๆ มีมากมาย หลากหลายราคา แต่นักลงทุนมือใหม่ ก็ต้องเลือกเรียนให้ดี ให้ถูกที่ เพื่อจะได้ไม่โดนหลอกได้
7.ปรับสมดุลในการใช้ชีวิต
ไม่เคร่งเครียดกับการเทรดมากจนเกินไป นักลงทุนที่ดีต้องมีการปรับสมดุลให้แก่ชีวิตพยายามใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ตามปกติ เพื่อเป็นการผ่อนคลายโดยการหากิจกรรมอื่น ๆ บ้าง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย เพราะตามหลักแห่งความจริงแล้ว หากเราสามารถหากเงินจากตลาดคริปโทฯ หรือตลาดหุ้นได้มากแค่ไหน หากมีสุขภาพที่ไม่ก็ถือว่า ไม่ประสบความสำเร็จที่แท้จริง เพราะนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาเหล่านั้นไม่มานั่งเฝ้าดูหน้าจอตลอดทั้งวัน แค่ทำตามระบบการเทรด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้ และใช้ชีวิตให้มีความสุข
อย่างไรก็ตาม หากใครที่เป็นมือใหม่และคิดที่จะเริ่มเข้ามาลงทุน เพียงปฎิบัติได้เท่านี้ ก็จะสามารถทำให้ได้ทั้งความสุข และอาจจะทำให้พอร์ตของคุณนั้นเติบโตได้อย่างสวยหรูได้เช่นกัน
