อาจเรียกได้ว่า “รถเต่า” ถือกำเนิดมาจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง “โฟล์คสวาเก้น (Volkswagen)” แต่ปัจจุบันรถเต่ากลายเป็นตำนานของรถยนต์ที่เกิดขึ้นในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สามารถประกาศกร้าวในเวทียานยนต์ระดับโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 80 ปี แม้จะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เพื่อสอดรับกับความทันสมัย แต่รถเต่าดีไซน์ดั้งเดิมก็ยังคงเอกลักษณ์และความคลาสสิคแบบไม่เสื่อมคลาย
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา Volkswagen ประกาศปิดตำนาน “รถเต่า” ด้วยการผลิตรถยนต์รุ่นสุดท้ายในชื่อ “Final Edition” โดยจะผลิตจำนวน 65 คันเท่านั้น พร้อมด้วยการตอกหมายเลขคันที่ผลิตออกมา และรถเต่าคันที่ 65 ก็ถูกผลิตออกมาเสร็จสิ้นที่โรงงานผลิตรถยนต์ของ Volkswagen ในแม็กซิโกปิดตำนานรถเต่าสุดคลาสสิค ซึ่งประวัติความเป็นมาของรถเต่าก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ใครจะเชื่อว่านี่คือมรดกสมบัติทางความคิดของเผด็จการโลกอย่าง Adolf Hitler และใครจะรู้บ้างว่ารถเต่านี่แหละคือต้นแบบของรถยนต์สุดหรูอย่าง Porsche
แนวคิด Adolf Hitler รถยนต์เพื่อประชาชน
รถเต่าถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1933 ภายใต้ความคิดของผู้นำพรรคนาซีอย่าง Adolf Hitler ซึ่ง Hitler มองว่ารถยนต์ในช่วงเวลานั้นเป็นสินค้าที่มีราคาแพง โดยเน้นไปที่ความหรูหราและรถยนต์ส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นประเทศผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ขณะที่ประเทศเยอรมันในยุคนั้นต้องประสบสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเป็นผลพวงมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นกัน
Hitler จึงมีแนวความคิดในการที่จะสร้างรถยนต์เพื่อให้เหมาะสมกับคนเยอรมัน แม้ว่าเยอรมันเองจะมีบริษัทรถยนต์อย่าง Mercedes Benz แต่ก็ถือเป็นรถที่มีราคาแพง Hitler จึงมอบหมายให้ Ferdinand Porsche ผู้ออกแบบดีไซน์รถยนต์ให้กับ Mercedes Benz มาช่วยออกแบบและพัฒนารถยนต์เพื่อประชาชนชาวเยอรมัน ซึ่งภายหลังมีการตั้งชื่อว่า Volkswagen โดยคำว่า Volk ในภาษาเยอรมันแปลว่า “ประชาชน” และ Wagen ในภาษาเยอรมันแปลว่า “รถยนต์” นั่นจึงทำให้ Volkswagen จึงหมายถึง “รถยนต์เพื่อประชาชน”
โดยรถยนต์รุ่นที่ Ferdinand Porsche ออกแบบให้มีชื่อว่า Type 1 นั่นทำให้ธุรกิจของ Volkswagen เติบโตขึ้นอย่างมากภายในประเทศเยอรมนี จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Volkswagen Type 1 ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นรถยนต์เพื่อใช้ในกิจการสงคราม เป็นที่มาที่ทำให้รถเต่าบางรุ่นมีการดีไซน์เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในด้านสงคราม หลังสิ้นสุดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี 1945 Volkswagen ก็อยู่ในช่วงตกต่ำ ด้วยกฎข้อบังคับของผู้แพ้สงคราม ที่บังคับให้ Volkswagen สามารถผลิตรถยนต์ได้เพียง 10% จากยอดผลิตในปี 1936
ยุคเบ่งบาน หลังผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2
อีกไม่กี่ปีต่อมาในช่วงปี 1951 กฎระเบียบในการผลิตรถยนต์ไม่เกิน 10% ก็ถูกยกเลิก และส่งผลให้ Volkswagen เริ่มดำเนินธุรกิจรถยนต์อีกครั้ง โดยยังคงนำรุ่น Type 1 ออกสู่ตลาด พร้อมด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีสมรรถภาพเทียบเท่ากับรถยนต์ค่ายอื่นๆ ในช่วงนั้น และในช่วงปี 1952 Volkswagen ก็เข้าสู่ประเทศไทยภายใต้ชื่อที่ทุกคนรู้จักและมักเรียกว่า “รถเต่า”
เมื่อ Volkswagen Type 1 กลายเป็นที่รู้จักของทั่วโลก คนทั่วโลกก็เริ่มได้ยินคำว่า “Käfer” ซึ่งเป็นสมญานามที่ชาวเยอรมันใช้เรียกรถ Volkswagen Type 1 คำดังกล่าวในภาษาเยอรมันแปลว่า “ตัวด้วง” เป็นการเปรียบเทียบและบ่งบอกถึงรูปร่างลักษณะของ Volkswagen Type 1 ได้อย่างชัดเจน ซึ่งในเวลาต่อมาทั่วโลกก็เริ่มเรียกรถยนต์รุ่นนี้ว่า “Beetle”
The Love Bug ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ Volkswagen Type 1 ปรากฎตัวในชื่อ Herbie ในปี 1963
Volkswagen Beetle เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อ Volkswagen Beetle ถูกนำมาแต่งองค์ทรงเครื่องและสร้างภาพยนตร์ภายใต้การดูแลของ Walt Disney ซึ่งเป็นเรื่องราวของ Volkswagen Beetle มีชีวิตและมีชื่อว่า “เฮอร์บี้ (Herbie)” ที่มีเอกลักษณ์หมายเลข 53 เป็นจุดเด่น โดยภาพยนตร์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ Volkswagen Beetle เพิ่มสูงขึ้น และยังส่งผลให้ Walt Disney สร้างภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายภาค
ความทันสมัยสู่ยุคความเสื่อม
Volkswagen Beetle ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดรถยนต์ทั่วโลก ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องรวมไปถึงระบบต่างๆ ของรถยนต์ แต่ดีไซน์ของรถยนต์ก็ยังคงเป็นสไตล์เดิมของรถ Volkswagen Type 1 ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นจึงทำให้รถเต่าค่อยๆ เสื่อมคลายความขลังของรถยนต์คลาสสิค จนกระทั่งในปี 1998 Volkswagen ก็มีการปรับเปลี่ยนโฉม Volkswagen Type 1 ใหม่หมด เพื่อตอบโจทย์รูปลักษณ์ของรถยนต์ให้ทันสมัย ภายใต้ชื่อรุ่น Volkswagen New Beetle
เพราะว่าการปรับเปลี่ยนใหม่หมายถึงการทิ้งความเป็นรถตำนานรุ่นคลาสสิคโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบดีไซน์ของ Ferdinand Porsche ที่จัดวางให้เครื่องยนต์อยู่ด้านท้ายรถและช่องเก็บของอยู่ด้านหน้ารถ ก่อนที่ Ferdinand Porsche จะหันไปผลิตรถยนต์เองภายใต้ชื่อ Porsche ซึ่งยังคงดีไซน์คล้ายเอกลักษณ์ของ Volkswagen Type 1 ทั้งการวางเครื่องไว้ด้านหลังและหลังคาสโลปไปกับฝากระโปรงท้าย
โดย Volkswagen New Beetle วางเครื่องยนต์เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้า รวมไปถึงราคาของรถยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้จะพยายามคงดีไซน์รูปลักษณ์ไว้ใกล้เคียงกับของเดิมให้มากที่สุด แต่หลายคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Volkswagen Beetle ก็มองว่านี่ไม่ใช่ Volkswagen Beetle แบบเดิมที่หลายคนเคยรู้จัก และไม่ใกล้เคียงกับความเป็น “รถยนต์ของประชาชน”
ส่งผลให้ Volkswagen New Beetle ได้รับกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ขณะที่แฟนพันธุ์แท้ Volkswagen Beetle สามารถหาซื้อรถได้ที่ประเทศเม็กซิโกเท่านั้น เนื่องจากเหลือโรงงานผลิต Volkswagen Type 1 หรือ Volkswagen Beetle เพียงแห่งเดียวในโลก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าโรงงานแห่งนี้กำลังจะยุติการผลิตลง และถือเป็นการปิดฉากตำนาน “รถเต่า” ที่มีอายุมายาวนานกว่า 80 ปี
