ปฎิเสธไม่ได้ว่า การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อบานปลาย จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญพลังงานทั่วโลก ล่าสุดสหภาพยุโรป หรือ EU ประกาศสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซียบางส่วน สำหรับมาตรการชุดที่หกของการคว่ำบาตรมอสโก โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะห้ามไม่ให้ซื้อน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากรัสเซียที่ส่งไปยังประเทศสมาชิกทางทะเล ซึ่งครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันมากกว่า 2/3 จากรัสเซียในทันที เพื่อเป็นการตัดแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ที่รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงคราม
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันจากการวิเคราะห์ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 สัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะสหรัฐที่ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมาก ส่งผลให้หลายโรงกลั่นเร่งปรับเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้น
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 8 มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 122.11 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.70 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 123.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +3.01 เหรียญสหรัฐ ขณะที่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสอยู่ที่ 121.51 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เปลี่ยนแปลงลดลง -0.60 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 123.07 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เปลี่ยนแปลงลดลง -0.51 เหรียญสหรัฐ
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจีนเริ่มเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมืองใหญ่ที่พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันในจีนปรับเพิ่มขึ้นราว 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มิถุนายน 2565
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เผยสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐสิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 416.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สำหรับสต๊อกน้ำมันดีเซลของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 109 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐปรับตัวลดลง 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 218.2 ล้านบาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคาดอุปทานน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน มิถุนายน 2565 หลังจีนประกาศตัวเลขโควต้าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรอบที่ 2 ของปี 2565 อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลขับขี่ที่เริ่มตั้งแต่เดือน มิถุนายน – สิงหาคม 2565
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคาดอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน มิถุนายน 2565 หลังจีนประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรอบที่ 2 ของปี 2565 ขณะที่ตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มตึงตัวในฝั่งยุโรป หลังยุโรปมีแผนยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
5 หุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) รับอานิสงค์ราคาน้ำมันพุ่ง
สำหรับราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2565
1.บริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MDX
MDX บริษัทและบริษัทในเครือดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภคพื้นฐานและพลังงาน โครงการของบริษัทและบริษัทย่อย ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรม โครงการผลิตกระแสไฟฟ้า โครงการผลิตน้ำประปา รวมทั้งรับบริหารโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์
• มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 2,663.32 ล้านบาท
• ราคาปิดที่ 5.60 บาท (10 มิ.ย.65)
• ค่า P/E อยู่ที่ 6.57 เท่า
• ค่า P/BV 0.64 เท่า
2.บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO
ESSO เป็นผู้ประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร (integrated) อีกทั้งบริษัทฯ ทำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องได้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 120 ปี บริษัทฯ ขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแก่ลูกค้ารายย่อยผ่านทางเครือข่ายที่กว้างขวางของสถานีบริการน้ำมันค้าปลีกภายใต้ชื่อการค้าเอสโซ่ รวมทั้งขายโดยตรงให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ค้าส่ง การบินและการเดินเรือ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทฯ ผลิตให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเพี่อจำหน่ายไปยังต่างประเทศ
• มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 42,222.47 ล้านบาท
• ราคาปิดที่ 12.20 บาท (10 มิ.ย.65)
• ค่า P/E อยู่ที่ 5.59 เท่า
• ค่า P/BV 1.68 เท่า
3.บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP
SSP ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้มีบริษัท เสริมสร้าง พลังงาน จำกัด เป็นบริษัทแกน ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่ จ.ลพบุรี มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 40 เมกะวัตต์
• มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 12,426.88 ล้านบาท
• ราคาปิดที่ 9.95 บาท (10 มิ.ย.65)
• ค่า P/E อยู่ที่ 12.80 เท่า
• ค่า P/BV 1.83 เท่า
4.บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO
SUSCO และบริษัทย่อย ได้มุ่งเน้นการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ และจำหน่ายสู่ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการบิน การผลิตไฟฟ้า การก่อสร้าง การขนส่งและบริการ ทั้งที่เป็นผู้ใช้โดยตรงและแก่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นที่ซื้อน้ำมันไปจำหน่ายแก่ผู้บริโภคอีกทอดหนึ่ง ซึ่งรวมการจำหน่ายให้ผู้ค้าน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
• มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 4,180.02 ล้านบาท
• ราคาปิดที่ 3.80 บาท (10 มิ.ย.65)
• ค่า P/E อยู่ที่ 14.33 เท่า
• ค่า P/BV 1.04 เท่า
5.บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP
PTTEP เป็นกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจขนส่งก๊าซทางท่อในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง
• มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 686,807.47 ล้านบาท
• ราคาปิดที่ 173.00 บาท (10 มิ.ย.65)
• ค่า P/E อยู่ที่ 18.15 เท่า
• ค่า P/BV 1.66 เท่า
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกขณะนี้ยังถือว่า มีความผันผวนสูงมาก เพราะจากหลายปัจจัยที่มีผลมากกระทบ ดังนั้นแล้วหากคิดจะเข้ามาลงทุนก็ต้องทำการศึกษาให้ดีอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน