เคยได้ “ปฏิทินแจก” จากแบรนด์ต่างๆ กันไหมได้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง? เรื่องของ “ปฏิทินแจก” กลับมาเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อมีกรณีดราม่าการผลิตปฏิทินของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการแจกปฏิทินในยุคนี้
อย่างไรก็ตามทุกวันนี้เราก็ยังคงได้รับ “ปฏิทินแจก” ในทุกๆปีเช่นกัน โพสต์นี้เราจะมาวิเคราะห์ว่า ทำไม “ปฏิทิน” ถึงยังเป็นกลยุทธ์ Marketing สุดคลาสสิก ที่หลายแบรนด์ยังคงเลือกใช้อยู่ในปัจจุบัน
รู้หรือไม่ว่า.. การพิมพ์ปฏิทินในไทย เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดยหมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการพิมพ์ปฏิทินแจก มีลักษณะเป็นปฏิทินพกเล่มเล็กๆ แจกเป็นของของชำร่วยในวันปีใหม่
แจกปฏิทิน กลยุทธ์สุดคลาสสิค
ปฏิทินถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารสร้างความสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยแบรนด์ต่างๆ นิยมทำปฏิทินแจกเป็นของขวัญปีใหม่ หรือของพรีเมียมสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เช่น
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างแบรนด์แม่โขง แบรนด์สุราระดับตำนานที่มีปฏิทินพร้อมภาพวาบหวิวในยุคอดีต ไล่มาจนถึงยุคนี้ที่แบรนด์อย่าง เบียร์ช้าง สิงห์, Leo มักใช้ปฏิทินเป็นสื่อในการโฆษณาผลิตภัณฑ์และสร้างการรับรู้แบรนด์
ธุรกิจธนาคาร ก็เป็นอีกธุรกิจที่มักแจกปฏิทินเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้า โดยเน้นภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือ มั่นคง และเป็นมืออาชีพ เช่นเดียวกับธุรกิจประกันภัย ที่ใช้ใช้ปฏิทินเพื่อสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
หรือแม้แต่หน่วยงานของรัฐอย่าง “ตำรวจ” เอง ก็เคยใช้ประโยชน์จากปฏิทินแจก “ปฏิทินโจร” ในการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลผู้ต้องหาที่เป็นที่ต้องการตัว ให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสในช่วงปี 2554 มาแล้ว
จะเห็นว่า “ปฏิทิน” อยู่คู่คนไทยมานาน และถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์ และประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด
ปฏิทินแจก ทำไมยังฮิต?
แม้ในยุคดิจิทัล แต่ปฏิทินก็ยังเป็นที่นิยม ด้วยข้อดีมากมาย ทั้งในมุมมองของผู้ให้ และผู้รับ
มุมมองของผู้ให้ (แบรนด์) หนึ่งคือเหตุผลของการแจกปฏิทินก็คือ สร้าง Brand Awareness เพราะ โลโก้ ชื่อแบรนด์ บนปฏิทินที่ผู้คนใช้งานทุกวัน ช่วยให้จดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
ปฏิทินสามารถเลือกแจกให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง และยังสร้าง Engagement หรือ “การมีส่วนร่วมจากลูกค้า” ได้เพราะ ปัจจุบันปฏิทินเป็นมากกว่าแค่ของแจก แต่สามารถใส่ลูกเล่นต่างๆ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ได้ เช่น QR Code, คูปองส่วนลด
ที่สำคัญก็คือเรื่องของการประหยัด “ต้นทุนด้านการตลาด” เมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาประเภทอื่นๆ ปฏิทินมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ แถมยังใช้งานได้นานตลอดปี คิดมีต้นทุนต่อการมองเห็นหนึ่งครั้งราว 1 ใน 10 ของต้นทุนการผลิตปฏิทินเท่านั้น
มุมมองของผู้รับ
จากผลสำรวจ Ads Impressions Study 2023 พบว่า 62% ของผู้บริโภคจะเก็บและใช้ปฏิทินแจกเป็นเวลา 1 ปีหรือนานกว่านั้น ขณะที่ปฏิทินยังสร้างการมองเห็นหรือ Impression มากถึง 673 ครั้งตลอดอายุการใช้งาน
นอกจากนี้ยังพบว่า 25% ของผู้บริโภคที่ได้รับปฏิทินมีแนวโน้มที่จะทำธุรกิจกับบริษัทที่แจกปฏิทินให้มากขึ้น ในขณะที่ 77% ของผู้บริโภคบอกว่า “ประโยชน์ใช้สอย” ของสินค้าแจกเป็นเหตุผลอันดับ 1 ที่ทำให้พวกเขาเก็บสินค้าไว้
ปฏิทินแจกในยุคดิจิทัล
ถึงแม้ปฏิทินจะมีข้อดีมากมาย แต่ในยุคดิจิทัลที่ใครๆ ก็ใช้ Smart Phone การจะทำให้ปฏิทินแจกให้มีประสิทธิภาพ อาจต้องปรับตัว
ทั้งในเรื่องของ ดีไซน์ที่ต้องสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ มีฟังก์ชันพิเศษ ช่น QR Code เชื่อมต่อกับ Content Online, Augmented Reality (AR) สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงเชื่อมต่อกับ Social Media, Application ต่างๆได้
ทั้งหมดคือเรื่องราวของ ปฏิทินแจก อีกหนึ่งกลยุทธ์ Marketing ที่น่าสนใจที่ยังคงใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน