marimekko (มารีเมกโกะ) บริษัทดีไซน์จากฟินแลนด์ เป็นที่รู้จักในเรื่องการใช้สีสันและงานพิมพ์ สร้างชิ้นงานออกมาหลากหลายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับตกแต่งหลายอย่าง รวมไปถึงของแต่งบ้าน marimekko ก่อตั้งขึ้นปี 1951 ผลิตภัณฑ์ของ marimekko ถูกวางขายอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก ในปี 2016 แบรนด์ marimekko มียอดขายรวมจากทั่วโลกราวๆ 194 ล้านยูโร ส่วนยอดขายสุทธิของบริษัท อยู่ที่ 100 ล้านยูโร ปัจจุบันมีร้านสาขาของ marimekko ราวๆ 160 แห่ง ตั้งอยู่ทั่วโลกและมีพนักงานราว 400 คน โดยตลาดหลักจะอยู่ในแถบยุโรปเหนือ อเมริกาเหนือ และเอเซียแปซิฟิก
จุดกำเนิด marimekko
เรื่องราวของ marimekko เริ่มขึ้นปี 1949 ใน Printex บริษัทเล็กๆที่ทำเกี่ยวกับการพิมพ์ลายผ้าตั้งอยู่ในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ แม้ว่า Printex จะเป็นบริษัทของ Viljo Ratia แต่คนที่บุกเบิก marimekko คือภรรยาของเขานามว่า Armi Ratia ที่มองเห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคตของการออกแบบลายผ้า ไม่รอช้า Armi รวบรวมศิลปินรุ่นใหม่ที่มาร่วมกันสร้างงานที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำมา และภาพล่างคือผลงานออกแบบผ้าพิมพ์ลายแรกโดยศิลปินรุ่นใหม่นามว่า Maija Isola
โฉมหน้าของ Armi Ratia ผู้ก่อตั้ง marimekko
บรรยากาศในโรงพิมพ์ผ้าของบริษัท Printex ในเฮลซิงกิ ปี 1949
คนชอบแต่ไม่ซื้อ
ผ้าพิมพ์ลายของ Printex ต่างได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมจากคนในเมือง แต่ทว่ากลับไม่ค่อยมีใครซื้อ ทีนี้จำทำอย่างไรล่ะ? วิธีการแก้ปัญหาคือ Armi คือ จัดแฟชั่นโชว์ Armi ดึงตัวแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง Riitta Immonen มาออกแบบชุดที่ทำจากผ้าพิมพ์ลายของ Printex และทุกชุดที่ใส่โชว์ก็ขายหมดทันทีในวันเดียวกันนั้น จุดสำเร็จเล็กๆนั้นทำให้ บริษัท Marimekko ถูกจัดตั้งขึ้นทันทีใน 5 วันถัดมา คือวันที่ 25 พฤษภาคม 1951 และในปีถัดมาร้านค้าแห่งแรกของ Marimekko ก็เปิดในเฮลซิงกิ
แฟชั่นโชว์ครั้งแรกของ Marimekko เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1951 ในเฮลซิงกิ
Logo ของ marimekko ในปี 1954 ปัจจุบันยังคงใช้ logo เดิม
Finland design company
วิสัยทัศน์ของ marimekko คือการเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะแบรนด์ผู้ออกแบบลวดลาย หรือ pattern designer และดีไซน์แบรนด์ที่ให้แรงบันดาลใจแก่ทุกคน จุดแข็งของ marimekko คือ อัตลักษณ์ ลวดลายอันหลากหลายที่สร้างความน่าสนใจให้ตัวแบรนด์ รวมถึงความเป็นออริจินัลในการสร้างสรรค์งานสดใหม่อยู่เสมอ และยังคงยึดปรัชญาเรียบง่ายของแบรนด์คือ “Design is inspired by beautiful everyday” หรือแปลว่า “ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามในชีวิตประจำวัน”
แม้ตอนนี้บริษัทจะกลายเป็น international company แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งจิตวิญญาณและปณิธานตั้งต้นของแบรนด์โดยยังคงชูภาพของความเป็น Finland design company ส่วนในแง่ของธุรกิจ (business development) marimekko โฟกัสจุดใหญ่ที่การเติบโตในฟินแลนด์ และเลือกเฟ้นตลาดเพื่อส่งออก โดยตอนนี้โฟกัสไปที่แถบยุโรปเหนือ อเมริกาเหนือ และเอเซียแปซิฟิก
Unikko ลายดอกที่เบ่งบานไปทั่วโลก
marimekko ดีไซน์ผ้าพิมพ์ออกมาหลายลาย แต่ลายที่เสมือนเป็นตัวแทนของแบรนด์นั้นคงหนีไม่พ้น Unikko ลายดอกป๊อปปี้ดอกใหญ่สีสันสดใส ซึ่งคุณรู้ไหมว่าเดิมที่ Armi ผู้ก่อตั้งแบรนด์นั้นไม่อยากทำผ้าลายดอก เพราะเธอเชื่อเราควรมองเห็นดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ตามธรรมชาติจริงๆไม่ใช่บนสิ่งพิมพ์ แต่ดีไซน์เนอร์คนหนึ่งในทีมของเธอไม่เชื่อเช่นนั้น Maija Isola หนึ่งในดีไซเนอร์ของ marimekko ต่อต้านสิ่งที่เจ้านายเธอเชื่อ และออกแบบผ้าลายดอกของเธอขึ้นมา ซึ่งก็คือลาย Unikko ที่กลายมาเป็นลวดลาย iconic ของแบรนด์ในทุกวันนี้
ภาพล่างคือ Maija Isola ดีไซเนอร์จอมดื้อที่ออกแบบลายดอก Unikko
แก่นแห่งคุณค่าของ marimekko
หลายแบรนด์ในโลกที่สตรองในเรื่องการสร้างอัตลักษณ์ และสร้างคุณค่า มักจะกำหนด Core value ของแบรนด์ขึ้นมา เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ช่วยให้บ้านแข็งแรง เช่นเดียวกันกับ marimekko ที่กำหนด Core value หรือแก่นแท้ที่เป็นบรรทัดฐานในการสร้างและพัฒนาแบรนด์ตัวเองขึ้นมา 6 ข้อ ภายใต้ชื่อเรียก marimekko spirit
Living, not pretending
marimekko เสาะหาความสวยงามที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และสนับสนุน “การใช้ชีวิตแบบไม่เสแสร้ง” ซึ่งหมายความว่า marimekko เชื่อในการเป็นตัวของตัวเอง ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองพึงพอใจ โดยไม่พยายามเป็นคนอื่น หรือปรุงแต่งเพื่อให้ตนเองเป็นที่ยอมรับในพื้นที่ที่ตัวเองไม่ได้ต้องการ ดังนั้นสำหรับ marimekko แล้ว ตัดคำว่าแฟชั่นออกไปได้เลย
Fairness to everyone and everything
marimekko สร้างสรรค์ผลงานไปพร้อมกับนำพาความสนุกมาสู่ทุกคนในที่ทำงาน ภายใต้ชื่อของ marimekko ทีมงานทุกคนอยู่บนเส้นทางที่มีเป้าหมายเดียวกัน และสิ่งสำคัญคือการควบคุมการผลิตให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
Common sense
marimekko สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริงมากกว่าพยายามสร้างผลงานแฟนตาซีซับซ้อน คุณภาพต้องมาพร้อมกับความสมเหตุผลที่เรียบง่าย พวกเขาไม่สร้างสินค้าที่ใช้ได้แค่บางครั้งบางโอกาส marimekko เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต้องสวยงาม และสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Getting things done – together
มีคำกล่าวนึงในฟินแลนด์กล่าวว่า “เราไม่ทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง” เป็นประโยคสั้นๆที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายอย่างในโลก และการร่วมมือกันก็คือกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ marimekko เอาชนะอุปสรรคใหญ่และโจทย์ที่ท้าทายมาตลอดการดำเนินธุรกิจ
Courage, even at the risk of failure
ปราศจากความกล้า งานสร้างสรรค์ก็ไม่เกิด จงกล้าแม้จะเสี่ยงพบกับความล้มเหลว คือสิ่งที่ marimekko เชื่ออย่างจริงจัง ที่ marimekko ทุกคนยอมรับได้กับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน นั่นคือเคล็ดลับง่ายๆที่ทำให้พนักงานทุกคนระเบิดความสร้างสรรค์ในตัวเองออกมา อย่างเคสที่ Maija Isola ไม่เชื่อเจ้านายตัวเอง แล้วแอบออกแบบลายดอก Unikko ขึ้นมา ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของประโยคที่ว่า “Courage, even at the risk of failure”
Joy
ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความสำหรับคำนี้ สนุก สนุก สนุก คือหนึ่งในแก่นที่ marimekko ยึดมั่นในการสร้างสรรค์งาน
6 แก่นแห่งการดีไซน์สไตล์ marimekko
marimekko แบ่งสินค้าออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ Clothing, Accessories, Bags, Home และ Fabric ซึ่งงานทุกชิ้นออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่ถูกหล่อหลอมด้วย 6 แก่นแห่งการดีไซน์ที่สร้างขึ้นด้วยปรัชญาง่ายๆของแบรนด์ “Design is inspired by beautiful everyday” หรือแปลว่า “ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามในชีวิตประจำวัน”
Joy of everyday life
มองโลกให้สนุก ทำงานให้สนุก และเผยแผ่อารมณ์บวกให้คนรอบข้าง คือสิ่งที่ดีไซเนอร์ทุกคนยึดมั่น
Patterns & colours
marimekko เชื่อมั่นในการสร้างสรรค์งานของตัวเอง พวกเขามุ่งดีไซน์ลวดลายที่โดดเด่นสร้างสรรค์ไปพร้อมกับการเลือกใช้สีอย่างชาญฉลาด กลับไปที่แก่นแรก “Joy of everyday life” คือสิ่งตั้งต้นของงานดีๆที่ marimekko
Timeless
“marimekko ไม่ใช่เรื่องของกระแสหรือแฟชั่น แต่ผลิตภัณฑ์ของเราไร้กาลเวลา และจะใช้ได้ตราบนานเท่านาน” – Armi Ratia
Genuieness
อยู่กับความเป็นจริง เพราะ marimekko คือการใช้ชีวิตโดยไม่เสแสร้ง เราทำความเข้าใจและยอมรับความสวยงามที่ผ่านเข้ามาในทุกวันของชีวิต
Functionality
ท้ายที่สุดแล้วงานที่สวยงามต้องตอบโจทย์การใช้ในชีวิตประจำวัน
ข้อมูลอ้างอิง: marimekko
ข้อมูลอ้างอิง: Investis
Copyright © MarketingOops.com