แบรนด์ที่หยิบมาพูดรอบนี้เป็นแบรนด์ที่มีอายุและระดับโลกพอสมควร ความบันเทิงของแบรนด์เก๋าๆพวกนี้คือ จะมีเรื่องราวที่เป็น fun fact มาให้เราได้ประหลาดใจกันอยู่ไม่น้อย หลายเรื่องอาจจะพอได้ยินกันมาบ้าง แต่บางเรื่องเราก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ วันนี้เลยหยิบมามัดรวมแล้วเล่ากันให้พอบันเทิงแบบได้ความรู้กัน 5 แบรนด์ 5 สตอรี่
Lamborghini
ก่อน Ferruccio Lamborghini จะมาเป็นผู้ก่อตั้งรถพันธุ์กระทิงดุอย่าง ลัมโบกินี เขาเคยเป็นคนทำไร่ และทำธุรกิจการเกษตรมาก่อน วันนึงเขาได้พบปัญหาบางอย่างกับรถที่เขาใช้งานอยู่ เขารู้สึกว่าครัชท์มันลื่นเกินไป จึงเดินทางไปที่ศูนย์จำหน่ายรถยนต และแจ้งปัญหาที่เขาเจอ แต่ไม่มีใครที่แม้แต่จะฟังปัญหาหรือช่วยเหลือ ซ้ำยังถูกปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
Lamborghini จึงเกิดไอเดียอย่างขึ้นมา เขากลับมาบ้านและศึกษาค้นคว้าลงแรงกับบางอย่างอยู่ประมาณครึ่งปี Lamborghini คันแรกก็เกิดขึ้น เขาสร้างรถยนต์สำหรับนั่ง ที่สมรรถนะดี ห้องโดยสารสะดวกสบาย และแน่นอนครัชท์ไม่ลื่น เขาสร้างรถเพื่อใช้งานเอง เพราะรถในตลาดไม่ตอบโจทย์เขา ทั้งยังเคยถูกผู้ขายปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างไม่ใยดี
ประมาณ ห้าปีต่อมา Lamborghini กลายเป็นชื่อของรถยนต์กระทิงดุหน้าใหม่ที่โด่งดังที่สุดบนท้องถนน และเป็นรถยนต์แบรนด์เดียวที่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งเทียบชั้นกับ Ferrari ยนตรกรรมม้าพยศเจ้าดัง ที่ก่อตั้งโดยนาย Enzo Ferrari ชายคนเดียวกันกับที่ปฏิเสธจะรับฟังและช่วยเหลือลูกค้า ในวันที่ Ferruccio Lamborghini เดินเข้าไปบอกว่า “ครัชท์คุณลื่นเกินไป”
FedEx
คุณจะทำอย่างไรถ้ากิจกรรมคุณต้องดำเนินต่อด้วยเงินที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดไม่พอจะจ่ายค่าไฟด้วยซ้ำ หนำซ้ำบิลค่าอะไรต่ออะไรก็กำลังจะมาหย่อนในตู้จดหมายอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงมากๆ บริษัท FedEx ขาดทุน 1 ล้านเหรียญในทุกๆเดือน จุดพีคมาถึงเมื่อบริษัทกำลังจะต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงเครื่องบินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่บริษัทเหลือเงินไม่ถึง 5,000 เหรียญ
Fred Smith ซีอีโอของ FedEx รับมือกับสถานกาณ์หินๆแบบนี้ยังไง กู้ธนาคารหรอ ? เปล่าเลย เขากำเงินที่เหลือบินไป ลาส เวกัส ในช่วงสุดสัปดาห์ ไม่กี่วันจากนั้นเขาบินกลับจากเวกัสพร้อมเงินกว่า 32,000 เหรียญ ได้มาจากการเล่นแบล็คแจ๊คแบบข้ามวันข้ามคืน เงินที่ได้จากเวกัสมากพอจะทำให้กิจการของเขาเดินหน้าต่อได้ และ 10 ปีต่อมา Smith ก็ได้เงินมากว่า 2,000 ล้านเหรียญ แต่ไม่ใช่จากคาสิโน ทรัพย์สินของเขาทั้งหมดมาจากกำไรในธุรกิจ FedEx ของเขานี่เอง
Puma
เรื่องราวมันเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องของพี่น้องตระกูล Adolph (ไม่เกี่ยวอะไรกับ Adolph Hitler) คือ Adi และ Rudolf ที่ช่วยกันปลุกปั้นกิจการรองเท้ากีฬาจนโด่งดังไปทั่วทั้งเยอรมันและในยุโรป แต่ความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้มาแตกหักเมื่อช่วงเกิดสงคราม
Rudolf ถูกเรียกให้เข้ากองทัพไปเป็นกองกำลังในการสู้รบ ส่วน Adi ต้องบริหารโรงงานภายใต้การควบคุมของกองทัพเยอรมัน เพื่อผลิตรองเท้าบูทคอมแบทให้ทหาร
พอจบสงคราม Rudolf เดินทางกลับมายังบ้านเกิด เขามีปากเสียงกับ Adi และคนในบ้าน ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด บ้างก็ว่าเพราะ Adi และที่บ้านไม่พยายามจะช่วยเหลือเขาตอนที่เขาถูกสั่งให้ต้องไปรบ บ้างก็ว่าเป็นเรื่องผู้หญิง แต่ที่แน่ๆคือ Rudolf ตัดสินใจแยกตัวออกจากครอบครัว และยุติความสัมพันธ์พี่น้องกับ Adi เขาก่อตั้งแบรนด์รองเท้ากีฬาขึ้นมาด้วยตัวเอง เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Puma ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และกลายเป็นคู่แข่งกับ Adidas แบรนด์ของพี่ชายตัวเอง ที่เขาเคยร่วมเป็นเจ้าของและช่วยกันปลุกปั้นขึ้นมาตั้งแต่แรก นับจากนั้นมามีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นหลายครั้งระหว่าง Puma และ Adidas ในเรื่องลิขสิทธ์
*หากสนใจสตอรี่ของแบรนด์ Adidas เชิญเสพกันต่อได้ที่ 30 เรื่องจริงจากแบรนด์ “Adidas” ที่แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาด
Fanta
อาจจะพอทราบกันว่า Coca-cola เป็นเจ้าของ Fanta น้ำอัดลมที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วโลก แต่เดิมที Fanta ไม่ได้ถูกผลิตโดยโคคาโคล่า จุดเริ่มต้นของ แฟนต้า เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (อีกแล้ว) พรรคนาซีเยอรมันถูกคว่ำบาตรจากกลุ่มพันธมิตร น้ำอัดลมโคคาโคล่าที่ผลิตและขายในเยอรมันได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าไซรัปที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตได้ จนถึงจุดที่ไม่มีโคคาโคล่าขายอยู่ในเยอรมันเลยแม้แต่ขวดเดียว
ผู้ผลิตในเยอรมันตอนนั้นกำลังเจอกับสถานการณ์เ ‘มีอะไรที่ใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน’ จึงมีการผลิตหัวเชื้อน้ำหวานขึ้นเองจากน้ำตาล ผสมกับกากผลไม้ที่คั้นเอาน้ำออกแล้ว และ ณ ตอนนั้นเองที่เครื่องดื่มชนิดใหม่ได้ถูกผลิตขึ้นภายใต้ชื่อการค้าว่า Fanta เป็นน้ำอัดลมที่ผลิตในเยอรมัน เพื่อคนเยอรมัน ในวันที่หาโคคาโคล่ากินไม่ได้
เมื่อสงครามสงบลง บริษัทแม่โคคาโคล่าได้กลับมาติดต่อกับ โคคาโคล่าในเยอรมันอีกครั้ง และเมื่อได้พบกับแฟนต้า ก็ตัดสินใจซื้อแฟนต้าเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโคคาโคล่าทันที จากนั้นมาโคคาโคล่าก็ทำให้ แฟนต้า เป็นที่รู้จักและวางจำหน่ายอยู่ใน 90 ประเทศทั่วโลกมาจนวันนี้
Barbie
ถ้าให้คุณนึกถึงคาแรคเตอร์ของ Barbie สิ่งแรกที่คุณบอกได้คืออะไร? นานมาแล้ว…ก่อนที่บาร์บี้จะกลายมาเป็นตุ๊กตาที่เติมเต็มจินตนาการของเด็กๆทั่วโลก บาร์บี้เคยเป็นตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์บางประเภทที่คุณอาจจะไม่อยากให้ลูกเข้าใกล้เลยทีเดียว
บาร์บี้มีต้นแบบมาจาก Bild Lilli ตัวการ์ตูนคอมิคจากเยอรมัน ที่มีคาแรคเตอร์เป็นสาวมั่น สวย เผ็ด เซ็กซี่ เป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยใหญ่ มีสกิลในการทำให้ผู้ชายหลงใหล ซึ่งภาพรวมของคาแรคเตอร์ตัวนี้จะถูกมองไปทางเรื่อง sex ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าบาร์บี้เจนแรกๆ มีความคล้ายคลึงกับ Bild Lilli อย่างมาก ไม่ว่าจะหน้าตา ทรงผม ทรวดทรงองค์เอว และในช่วงแรกก็ไม่มีผู้ปกครองคนไหนอยากซื้อบาร์บี้ให้ลูกเล่นด้วย ซึ่ง Mattle บริษัทผู้ผลิตบาร์บี้ ก็ตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงมีการปรับโฉมปรับคาแรคเตอร์ใหม่ให้บาร์บี้อยู่เรื่อยๆ จนกลายมาเป็น บาร์บี้ตุ๊กตาเติมเต็มจินตนาการของเด็กๆทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน
COPYRIGHT | Marketing Oops!