Facebook กำลังตั้งตัวเป็น “สำนักข่าว” อย่างจริงจัง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Facebook-Factory-Thumb

ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของ Facebook ทำให้เราเชื่อขนมกินได้ว่าเจ้าพ่อโซเชียลมีเดียกำลังหันเหแฟลตฟอร์มของเขาสู่การเป็น “สำนักข่าว” ที่มีความเคลื่อนไหวและเท่าทันต่อเหตุการณ์มากที่สุดสำนักข่าวหนึ่ง (ด้านความน่าเชื่อถือล่ะ? อย่าไปพูดถึงมันดีกว่า)

ย้อนความสักนิดเราจะเห็นว่าเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว FB เปิดตัว FB Newswire ที่เป็นเพจสำหรับอัพเดทข่าวสารทั่วไป มาตอนนี้พวกเขาเปิดตัว FB Techwire ซึ่งเน้นเฉพาะข่าวเทคโนโลยีเป็นสำคัญ ผลิตคอนเทนต์โดยเจ้าเก่า Storyful คำถามคือข่าวสารเหล่านี้มาจากไหน? FB ระบุว่าพวกเขารวบรวมข่าวสารมาจาก tech influencers ดังๆ บน Facebook รวมถึงรูปภาพ วีดีโอ สเตตัสที่เหล่านักข่าวดังๆ ของโลกส่งข่าวบนหน้าเพจ และสำนักข่าวระดับโลกอย่าง BBC, The Washington Post, the New York Times และอื่นๆ อีกมาก

สรุปว่าเขาไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียวในการออกไปหาข่าว ก็เหมือนแค่แชร์ข่าวสำเร็จลงบนเพจของพวกเขาเท่านั้นเอง

เสริมภาพลักษณ์แฟลตฟอร์มเพื่อการนำเสนอข่าว

การเกิดขึ้นของ Techwire นั้นไม่ต้องคิดให้มากก็เห็นว่า Facebook พยายามแย่งฐานะ “โซเชียลมีเดียยอดนิยมของนักข่าว” จาก Twitter อย่างแน่นอน นักข่าวทุกคนต่างก็มีไอดีของ Twitter เพื่อส่ง breaking news ให้ทันท่วงทีแต่โอกาสที่เสียไปคือไม่สามารถเสนอข่าวยาวๆ ได้ และเมื่อพิจารณาว่า Facebook มีผู้ใช้กว่า 1.35 พันล้าน active users ต่อเดือนซึ่งมากกว่า Twitter กว่า 4 เท่า การที่เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียจะพยายามแย่งบังลังก์ขวัญใจนักข่าวจาก Twitter มานั้นก็ดูเหมือนจะไม่เป็นเรื่องยากเย็นเท่าไหร่นัก

สำทับด้วยการทดลองใหม่จาก Pew Research ระบุว่าผู้ใช้ได้รับข่าวการเมืองจาก Facebook เป็นช่องทางแรกและมีแนวโน้มจะได้รับมากกว่าช่องทางอื่นยกเว้นข่าวทีวี

แล้วอนาคตของ Twitter ล่ะ

หลังจากที่เริงรื่นกับการเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียอันเดียวที่เน้นหนักทางด้านข่าวสารและเทคโนโลยี (Twitter เคยเปิดเผยว่าได้รับรายได้กว่า 554 ล้านดอลล่าร์ต่อเดือนจากทวิตที่เกี่ยวข้องกับข่าวเทคโนโลยี) หาก Facebook มาแย่งบังลังก์นี้ของพวกเขาไป Twitter ในอนาคตก็น่าจะมีหัวข้อเกี่ยวกับอาหารเป็นส่วนใหญ่ คะเนว่ากว่า 66 ล้านทวิตต่อเดือนจะเกี่ยวกับ

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง