ต้องยอมรับว่าในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด จะเห็นได้ว่ามีการเปิดบัญชีเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่เกิดขึ้นกว่า 3.7 ล้านบัญชี โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
หากใครที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การลงทุนในหุ้น แต่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ และคิดว่าการลงทุนในหุ้นนั้นอาจจะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว แค่มีเงินเพียง 1,000 บาทก็สามารถเข้ามาชิมลางในตลาดหุ้นได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะเข้ามาในรูปแบบของ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average หรือ DCA)
การออมหุ้นแบบ DCA เป็นอย่างไร
การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average หรือ DCA) เป็นการออมในหุ้นรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำเงินมาลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท โดยบริษัทหลักทรัพย์ หรือ บล. ที่เราเข้าไปลงทุนนั้น จะมีหุ้นให้เลือกเข้าไปลงทุนประมาณ 20 – 30 หลักทรัพย์ให้นักลงทุนได้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหุ้นในกลุ่ม SET100 หรืออยู่ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งผลประกอบการดีเวลาเจอมรสุมด้านเศรษฐกิจหรือการเมืองมากระทบก็จะไม่โดนเหวี่ยงมากเหมือนหุ้นขนาดเล็ก ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 3.1%
การออมในรูปแบบ DCA เป็นการลงทุนระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก และช่วยสร้างวินัยในการลงทุนสำหรับคนที่ไม่มีเงินลงทุนเป็นก้อนใหญ่ และจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสูงที่สุดกว่ารูปแบบอื่นๆ ซึ่ง DCA เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน กำหนดวงเงินลงทุนเป็นงวดๆ ละเท่า ๆ กัน ลงทุนเป็นรายเดือน รายวัน หรือรายสัปดาห์ แบบสม่ำเสมอ โดยที่ไม่สนใจว่าราคาหุ้นที่เราต้องการซื้อจะขึ้นหรือลง เป็นการลงทุนแบบอัตโนมัติ
หุ้นกลุ่ม SET100 ที่นำ DCA
หุ้น SET100 ที่ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์คัดสรรมาให้นักลงุทน ได้แก่
• PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
• PTTGC บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
• AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
• BBL ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
• BDMS บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
• BEM บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
• CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
• BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
• CPN บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
• KBANK ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• INTUCH บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
• KTB ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
• MINT บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ที่ลงทุน DCA ได้
1.บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป มีนโยบายการลงทุน เลือกหุ้นที่่ต้องการลงทุน โดยเลือกจากลิสต์รายชื่อ 36 หุ้นแนะนำ เลือกได้สูงสุด 20 ตัว โดยฝ่ายวิเคราะห์จะรีวิวทุก ๆ 6 เดือน กำหนดวันลงทุน ทุกวันที่ 5,20 และ 28 ของเดือน เริ่มออมได้ด้วยจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อเดือน โดยคิดค่าธรรมเนียม 0.257% ของจำนวนเงินที่ลงทุน ขั้นต่ำ 30 บาทต่อรอบการลงทุน (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
2.บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ มีนโยบายการลงทุน SETHD และ หุ้นที่ CNS ประกาศไว้คือ AOT, KTC , BDMS, BH, BTS, BJC, CPALL, CPN, GLOBAL, BEM, CPF, HMPRO, มีเงื่อนไขการลงทุน ออมทุกเดือน วันทำการแรกของเดือน จำนวนเงินลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท อัตราค่าธรรเมนียม 0.25% ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นและ VAT
3.บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) มีนโยบายการลงทุน SET 100 ,TDEX และ BMSCITH เงื่อนไขการออมนั้นมีทั้งรายเดือนและรายสัปดาห์ จำนวนเงินลงทุนเริ่มต้น 2,000 บาท ช่องทางการลงทุน Settrade Streaming เมนู Settrade DCA Order ค่าธรรมเนียม หากส่งคำสั่งเองผ่านอินเตอร์เน็ต 0.157% ของมูลค่าการซื้อขาย แต่หากมีการส่งคำสั่งผ่านผู้ดูแลบัญชี 0.257% ของมูลค่าการซื้อขาย
4.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี มีนโยบายการลงทุน หุ้นใน SET 100 เงื่อนไขการลงทุน รายเดือนและรายสัปดาห์ จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท อัตราค่าธรรเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน
5.บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มีนโยบายการลงทุน ซื้อหุ้นที่อยู่ใน SET 100 หรือ ETF จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ช่องทางการลงทุนผ่าน K-Cyber Trade หรือ Settrade Streaming เงื่อนไขการลงทุน มีทั้งรายเดือนหรือรายสัปดาห์ และค่าธรรมเนียม สำหรับบัญชี Cash Balance 0.157% และบัญชี Cash Account 0.207% ไม่รวมค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ และขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน
6.บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง มีนโยบายการรลงทุนใน BSET100 , BMSCITH E1VFVN3001 เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์เวียดนาม ด้วยระบบตัดเงินเป็นรายเดือน จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อเดือน ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Commission Rate) อยู่ที่ 0.30% และค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาการลงทุน ราย 2 ปี โดยชำระเดือนแรกของรอบการลงทุน
อย่างไรก็ตาม การการลงทุนแบบ DCA เหมาะกับการออมเงินระยะยาว เป็นการสะสมเงินเพื่อให้เกิดดอกออกผลที่มากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งการลงทุนในรูปแบบนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยงน้อยถือว่า เหมาะกับผู้เริ่มต้นลงทุนในหุ้น และยังเหมาะกับผู้มีเวลาน้อย ไม่ต้องมาคอยนั่งเฝ้าจอหุ้นขึ้นลงอีกด้วย