สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ The Digital Advertising Association of Thailand (DAAT) ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) บริษัทวิจัยการตลาดและที่ปรึกษากลยุทธ์ด้านแบรนด์ชั้นนำของโลก เผยผลสำรวจรายงานมูลค่าโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของประเทศไทยประจำปี 2567 และคาดการณ์มูลค่างบประมาณปี 2568 ผ่านความร่วมมือจาก 33 เอเยนซีสมาชิกของ DAAT โดยเจาะลึก 70 อุตสาหกรรม และ 18 ประเภทสื่อดิจิทัล สรุปผลสำรวจการลงโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลในประเทศไทยพบว่า
เม็ดเงินลงทุนโฆษณาดิจิทัลในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง
– ปี 2024 ตัวเลขการลงทุนจริงได้แตะที่ 31,544 ล้านบาท หรือที่อัตราการเติบโตที่ 8% จากเดิมที่คาดการณ์โต 16% ปีที่แล้วจึงถือว่าโตต่ำกว่ามาตรฐานปกติที่ต้องโตระดับ double digit
ปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินลงทุนโฆษณาดิจิทัลในไทยโตเพียง single digit มาจากด้านเศรษฐกิจ สะท้อนได้จากเม็ดเงินลงทุนสื่อโฆษณาในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ FMCG ยังเติบโต เนื่องจากเป็นสินค้าชิ้นเล็ก และเป็น Low Involvement Product ทำให้ตลาดนี้ยังไปได้ดี ตรงกันข้างกับกลุ่มสินค้า High Involvement Product เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ประกัน มีแนวโน้มชะลอตัว
– ปี 2025 คาดการณ์ว่าจะกลับมาเติบโตที่ double digit เช่นเดิม โดยอยู่ที่ 10% คิดเป็นมูลค่า 34,556 ล้านบาท
Top 10 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้งบในสื่อโฆษณาดิจิทัลสูงสุด
สำหรับ Top 5 ยังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมจากปี 2024 ได้แก่
#1 สกินแคร์
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 5,066 ล้านบาท โต 46%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 6,128 ล้านบาท โต 21%
เป็นตลาดที่มีการใช้เม็ดเงินลงทุนสื่อโฆษณามากที่สุด เนื่องจากหลัง COVID-19 คนออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ประกอบกับผู้บริโภคมีทางเลือกในแบรนด์-ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น มีการบำรุงดูแลผิวหลายขั้นตอนมากขึ้น ผนวกกับการเติบโตของเทรนด์ Influencer รีวิวและทำ Affiliate ให้กับแบรนด์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และอีคอมเมิร์ซ เป็นปัจจัยผลักดันให้เม็ดเงินการลงทุนสื่อโฆษณาในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยังคงเป็นอันดับ 1
#2 ยานยนต์
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 3,016 ล้านบาท โต 1%
- ปี 2025; เม็ดเงินโฆษณา 2,981 ล้านบาท ลดลง 1%
ยานยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาอันดับต้นๆ ของสื่อโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย อย่างไรก็ตามแม้อัตราการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มยานยนต์ค่อนข้างคงที่ เนื่องจากค่ายญี่ปุ่นชะลอการโปรโมทรถยนต์ ในขณะที่แม้ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มีการแข่งขันรถยนต์ในกลุ่ม EV จากหลายค่าย หลายแบรนด์อย่างดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายจีน แต่กลับพบว่ารถยนต์ EV ใช้งบไปกับสงครามราคาและโปรโมชั่นมากกว่า
#3 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 2,513 ล้านบาท โต 5%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 2,942 ล้านบาท โต 17%
#4 การสื่อสาร
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 2,035 ล้านบาท โต 9%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 2,525 ล้านบาท โต 3%
ทั้งนี้ในหมวดการสื่อสาร (Communication) ส่วนใหญ่เม็ดเงินโฆษณาอยู่ในกลุ่ม Device ใช้งบสื่อโฆษณา 1,533 ล้านบาทในปี 2024 มากกว่าบริษัทเครือข่ายโทรคมนาคม ใช้งบสื่อโฆษณา 502 ล้านบาทในปี 2024
#5 ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 2,035 ล้านบาท
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 2,104 ล้านบาท
ขณะที่อันดับ 6 – 10 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้งบสื่อโฆษณาดิจิทัลสูงสุด ประกอบด้วย
#6 รีเทล
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 1,751 ล้านบาท
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 1,990 ล้านบาท
#7 ธนาคาร
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 1,028 ล้านบาท ลด 11%
- ปี 2025: เม็นเงินโฆษณา 1,227 ล้านบาท โต 19%
#8 อสังหาริมทรัพย์
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 1,136 ล้านบาท โต 22%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 1,126 ล้านบาท ลดลง 1%
#9 วิตามินและอาหารเสริม
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 1,034 ล้านบาท โต 6%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 1,107 ล้านบาท โต 7%
#10 ร้านอาหาร
- ปี 2024: เม็ดเงินโฆษณา 819 ล้านบาท โต 14%
- ปี 2025: เม็ดเงินโฆษณา 950 ล้านบาท โต 16%
ช่องทางโฆษณาดิจิทัล ปี 2024 “Meta” ครองแชมป์แพลตฟอร์มหลัก
เมื่อพิจารณาการลงทุนตามช่องทางโฆษณาดิจิทัลในปี 2024 พบว่า
– Meta (Facebook, Instagram) ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักอันดับ 1 ที่นักการตลาดเลือกใช้ ด้วยมูลค่า 8,731 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 28%
– ตามมาด้วย YouTube 4,346 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 คิดเป็นสัดส่วน 14%
– TikTok เป็นอันดับ 3 ด้วยมูลค่า 4,167 ล้านบาทเป็นอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน 13%
– Social อันดับ 4 มูลค่า 2,942 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9%
– Creative อันดับ 5 มูลค่า 2,287 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7%
ช่องทางโฆษณาดิจิทัล ปี 2025 “TikTok” แซง “YouTube” ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มอันดับสอง
สำหรับการลงทุนตามช่องทางโฆษณาดิจิทัลในปี 2025 คาดการณ์ว่า
– Meta (Facebook, Instagram) ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 เช่นเดิมที่นักการตลาดเลือกใช้ในการลงโฆษณาดิจิทัล คาดว่ามูลค่าจะอยู่ที่ 9,088 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 26%
– คาดการณ์ว่าปีนี้ TikTok จะขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มที่มีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอันดับ 2 ด้วยมูลค่า 5,510 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16% แทนที่ YouTube ซึ่งตกไปอยู่อันดับ 3 ด้วยมูลค่า 5,155 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 15%
– ขณะที่อันดับ 4 Creative มูลค่า 2,714 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8%
– Online Video อันดับ 5 มูลค่า 2,463 คิดเป็นสัดส่วน 7%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ “TikTok” กลายเป็นสื่อดิจิทัลอันดับ 2 เนื่องจาก TikTok มีจุดเด่นการเป็น “Shoppertainment” (Shopping + Entertainment” ที่ผสานระหว่างความบันเทิง กับคอมเมิร์ซผ่าน TikTok Shop เข้าด้วยกัน ตอบโจทย์คนไทยที่ชื่นชอบคอนเทนต์ความบันเทิง – ช้อปปิ้งครบในแอปฯ เดียว
ประกอบกับมีผู้ใช้ในหลายช่วงวัย และมีผู้ประกอบการรายย่อยอยู่บนแพลตฟอร์ม TikTok จำนวนมาก ขณะเดียวกันสินค้าหมวดสกินแคร์ ซึ่งเป็นหมวดที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุดนั้น ก็นิยมซื้อสื่อโฆษณา TikTok
เครื่องมือดิจิทัลมีเดีย “AI” มีบทบาทมากขึ้น
สำหรับ Digital Media Tools ที่น่าสนใจและจะมีบทบาทในปี 2025 แน่นอนว่า “AI” มาเป็นอันดับ 1 (75%) ยิ่งปัจจุบันสิ่งที่สร้างการเติบโตให้กับ AI มากขึ้นไปอีกคือ Open Source AI ทำให้นักพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ใหม่ๆ มากขึ้น
ตามมาด้วยเครื่องมือ Real-time Media, Dashborad, Monitoring (69%), เครื่องมือ E-Commerce Marketing (63%), Social Media Listening (56%) และ Data Analytic Platform (56%)
ดร. อาภาภัทร บุญรอด กรรมการผู้จัดการฝ่ายลูกค้า และประธานฝ่ายการเจริญเติบโตแห่งเอเชียอาคเนย์ คันทาร์ (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และการจำกัดงบประมาณการโฆษณาของกลุ่มแบรนด์ต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2024 มีผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาทางดิจิทัลไม่ได้เติบโตเท่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้
“หากมองในมุมของกลุ่มอุตสาหกรรม จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีการเติบโตในการลงทุนเม็ดเงินโฆษณาสูง ซึ่งสะท้อนไลฟ์สไตล์ในเรื่องการทำงานและการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น รวมถึงเทรนด์ของเรื่องสุขภาพและความงามที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญและใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมากขึ้น
ส่วนด้านช่องทางการลงโฆษณานั้นเป็นไปตามที่คาดว่า TikTok จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการเติบโตจากเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มของผลิตภัณฑ์สกินแคร์”
นอกจากนี้ คุณพิสิษฐ์ จาตุรพันธ์ นักวิจัยการตลาดอาวุโส คันทาร์ (ประเทศไทย) ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “ปัจจัยส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 12 ปีที่ผ่านมาคือสัดส่วนการเข้าถึงสื่อดิจิทัลและการใช้เวลาบนโลกออนไลน์ที่สูงมากของคนไทย
“ในรอบปี 2024 และ 2025 เรามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเก็บผลวิจัย โดยแยกระหว่างกลุ่มโทรคมนาคม และอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ออกจากกัน ทำให้พบว่า กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง ส่งผลมาจากการที่แบรนด์ออกอุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ ๆ ในขณะที่กลุ่มโทรคมนาคมมีแนวโน้มที่จะหดตัวลงเล็กน้อย เกิดมาจากการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนความสนใจจากทำแบรนด์ดิ้ง เป็นการเน้นที่รักษาฐาน และเพิ่มความภักดีของลูกค้าปัจจุบัน”