การจะใส่ใจสุขภาพของตัวเองไม่จำเป็นต้องยึดติดแต่ตัวเลขที่นิยามว่า ‘สูงวัย’ เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะคนวัยไหนก็สามารถตื่นตัวด้านสุขภาพได้ทั้งนั้น ซึ่งเทรนด์ที่เรียกว่า ‘Health conscious’ นี้มีต้นตอมาจากยุคสมัยปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบและต้องคอยใช้ชีวิตแข่งกับเวลา เลยต้องหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้บริโภคหลายคนจะรู้สึกตื่นตัว อยากเติมเต็มความ healthy ให้ไลฟสไตล์ของตัวเอง แต่ด้วยความที่ ‘เวลา’ ยังคงเป็นอุปสรรคตัวแม่ พร้อมกับราคาของการมีไลฟสไตล์แบบนี้ที่มักจะไม่ค่อยน่ารัก (ยังไม่นับคุณภาพอีก) จึงกลายเป็น pain point ที่ผู้บริโภคมองว่าการมีไลฟสไตล์เช่นนี้นั้นอาจยากเกินไป แต่แน่นอนว่าด้วยใจที่ไม่ยอมแพ้ ในหลายครั้งก็ต้องหาอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเติมเต็มความอยาก เช่น การกินน้ำผลไมปั่น ‘เพื่อสุขภาพ’
เมื่อเอ่ยถึงน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพสุดฮิตในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น Boost Juice แบรนด์เครื่องดื่มส่งตรงจากออสเตรเลีย ที่หลายคนน่าจะรู้จักหรือเห็นผ่านมาตามาแล้ว ใครจะไปคิดว่าน้ำผลไม้ปั่นที่ดูธรรมดา แต่ Boost Juice กลับสามารถสร้างแบรนด์น้ำผลไม้ปั่นให้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้ โดยเห็นได้จากการขยายสาขาไปเป็นหลายร้อยแห่ง เพราะฉะนั้นในวันนี้ Marketing oops! จะมาเปิดเผยเส้นทางสู่ความสำเร็จของแบรนด์น้ำผลปั่นเพื่อสุขภาพเจ้าดังจากดินแดนจิงโจ้กัน
รูปภาพจาก : เว็บ VXH
จุดกำเนิดของ Boost Juice
ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1999 คุณ ‘Janine Allis’ ผู้หญิงชาวออสเตรเลียกำลังเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ระหว่างนั้นเธอก็ได้สังเกตเห็นและรู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมผู้คนส่วนใหญ่ถึงดื่มแต่น้ำผลไม้ปั่นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เองทำให้เธอกลับมามองยังบ้านเกิดของตน ว่าทำไมธุรกิจอาหารจานด่วนที่เป็นแนวอาหารฟาสฟู้ด มักจะชอบเสริ์ฟพร้อมกับน้ำหวานหรือน้ำอัดลมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะสร้างแบรนด์น้ำผลไม้ปั่นที่ดีต่อสุขภาพอย่าง Boost Juice ขึ้นมาในปี ค.ศ. 2000
อาจจะด้วยการก่อตั้งถูกที่ถูกเวลา เพราะในช่วงนั้นเทรนด์ Health conscious ที่ออสเตรเลียกำลังมาพอดี จึงทำให้ Janine เล็งเห็นโอกาศในการโต้คลื่นไปกับเทรนด์นี้เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับแบรนด์ ซึ่งก็คือการทำสมูทตี้ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟสไตล์ที่ผู้บริโภคในช่วงนั้นกำลังมองหา
ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยจากหลากหลายช่วงอายุ และแน่นอนว่าการระบาดของ covid-19 ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวของการระวังป้องกันมากขึ้น เลยอาจส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมีการเติบโตไปด้วย จึงทำให้ Boost Juice ได้กระแสนี้ไปเต็ม ๆ
รูปภาพจาก : เว็บ Indigofinancial
สร้างความแตกต่างให้สินค้า พร้อมชูเอกลักษณ์ให้ชัดเจนผ่านแบรนด์ดิ้งที่ดี
โดยปกติแล้วร้านน้ำผลไม้ปั่นทั่วไปมักใช้ผลไม้แช่แข็งเป็นส่วนใหญ่เพื่อประหยัดต้นทุนและป้องกันการเน่าเสีย หรือไม่ก็ถ้าเป็นผลไม้สด ในหลายครั้งคุณภาพก็มักจะไม่ค่อยคงที่ ทว่าร้าน Boost Juice สร้างความแตกต่างด้วยการเน้นใช้ผักผลไม้สด ไม่ใส่สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใช้สีสังเคราะห์ และที่สำคัญคือรสชาติคงที่ มากินรอบไหนก็รสชาติเหมือนเดิมทุกครั้ง
ปัจจัยที่สำคัญมากของตัวสินค้าที่เป็นน้ำผลไม้ปั่นคือ ความหลากหลายของเมนูที่ทำให้ไม่รู้สึกน่าเบื่อหรือจำเจ พร้อมกับความเข้าใจว่าความหมายของ ‘สุขภาพ’ แต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เลยสะท้อนออกมาเป็นเครื่องดื่มในร้านที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น เครื่องดื่มที่ผสมโปรตีน สำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ หรือการผสมกับช็อกโกแลตเอาใจคนรักโกโก้
รูปภาพจาก : เว็บ Boost Juice Bars
ใส่ใจลูกค้า ด้วยการมอบ positive energy
นอกจากใส่ใจประโยชน์และรายละเอียดที่ลูกค้าควรได้รับแล้ว ยังใส่ใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอีกด้วย เพราะทางแบรนด์ตระหนักได้ว่า Boost Juice ต้องเป็นมากกว่าน้ำผลไม้รสชาติดี หรือก็คือการมอบ ‘พลังบวก’ ให้กับคนที่ผ่านไปมา ไม่ว่าจะด้วยสีสันร้านอันสดใสและเพลงอันสนุกสนาน ซึ่งรวมถึงคอนเซ็ปต์ “รักษ์โลก” ที่ได้เลือกใช้ภาชนะที่เป็นถ้วยกระดาษ คำนึงไปถึงสิ่งแวดล้อม แถมยังมีสีสันสดใสที่ทำให้ใครเห็นก็อยากถ่ายลงลงสตอรี่ (ถือว่าทำ product design ออกมาดีงาม!)
สุดท้ายที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือการดูแลเอาใจใส่ด้าน franchise จนสามารถขยายสาขาได้ถึง 600 กว่าสาขา 15 ประเทศทั่วโลก ด้วยระบบ ‘Established Operation System’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลร้านค้าสาขาต่าง ๆ สามารถวิเคราะห์หลังบ้าน พร้อมกับการอัปเดตเมนูให้ปรับสูตรที่เหมาะสมกับสาขาในแต่ละประเทศ เพราะเมนูที่ขายดีในออสเตรเลีย บางครั้งก็ใช่ว่าจะถูกปากคนไทยเสมอไป ดังนั้นการใส่ใจรายละเอียดเช่นนี้ จะเป็นการให้ร้านไปต่อได้ในระยะยาว ทำให้แบรนด์มีความ strong มากขึ้นนั้นเอง
รูปภาพจาก : เว็บ Lemon8
การใช้ ‘Gamification’ ในแคมเปญ สร้างความสนุกสนานและการมีส่วนร่วม
กลยุทธ์สำคัญที่ Boost Juice ยึดในการทำการตลาดเกือบทุกครั้ง คือการใส่ใจเทรนด์ที่อยู่บนโซเชียลมีเดียให้มากเข้าไว้ เช่น การใส่ใจทุก ๆ เทศกาลด้วยการปล่อยรสชาติใหม่ ๆ หรือปล่อยแคมเปญที่เหมาะสมกับช่วง ๆ นั้น หัวใจกหลักคือการสร้าง engagement ที่ดีกับตัวสินค้าและแบรนด์
หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดของ Boost Juice ที่น่าสนคือการใช้แอปฯเกม ‘Free the Fruit’ และ ‘Find the Fruit’ เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น โดยผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นเครื่องดื่ม หรือบัตรกำนัลของ Boost Juice โดย Free the Fruit มียอดดาวน์โหลดไปกว่า 329,889 ครั้ง และมีคนไปแลกรางวัลที่ร้านถึง 225,970 รางวัล สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ได้เป็นอย่างดี
การวางกลยุทธ์ gamification เช่นนี้ก็ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยทีเดียว โดยนกตัวแรกสามารถทำให้หลาย ๆ คนได้รู้จักแบรนด์ผ่านแอปฯเกม มอบความรู้สึกสนุกสนานไปด้วย และนกตัวที่สองคือผู้คนที่ได้ทดลองชิมสินค้า หากถูกใจก็แน่นอนว่าอาจเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ในอนาคต
รูปภาพจาก : เว็บ Boost Juice Bars
รูปภาพจาก : เว็บ Boost Juice Bars
รูปภาพจาก : เว็บ Boost Juice Bars
ถือได้ว่าแบรนด์น้ำผลไม้ปั่นอย่าง Boost Juice เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตจากสิ่งเล็ก ๆ ใส่ใจรายละเอียดทุกสิ่ง เช่น ภาชนะที่ใช้กระดาษ หรือ ความหลากหลายทางเมนูที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถสร้าง engagement กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่แบรนด์น้ำผลไม้ปั่นนี้จะ success อย่างมาก