นาทีนี้ต้องยอมรับว่าแพล็ตฟอร์มวิดีโอ ออนไลน์ที่ยังคงมาแรงที่สุดในประเทศไทยก็คือ Youtube ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อการบันเทิงแล้ว ในส่วนของแบรนด์ นักการตลาด นักโฆษณา ต่างก็ใช้แพล็ตฟอร์มยอดนิยมนี้เป็นเครื่องมือสำคัญด้านการตลาดในการสื่อสารกับผู้บริโภคอีกด้วย
และในวาระครบรอบหนึ่งปี Youtube Thailand ทาง Google Thailand จึงได้จัดงาน Youtube Pulseเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์เพื่อเป็นการเรียนรู้ แบ่งปัน และทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อแพล็ตฟอร์มยอดนิยมนี้ โดยในงานดังกล่าวได้เชิญผู้บริหารทั้ง Google, Youtube รวมถึงผู้บริหารแบรนด์ และผู้สร้างสรรค์คอนเท้นต์ มาร่วมแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการทำงานผ่าน Youtube ว่าจะทำอย่างไรให้แพล็ทฟอร์มนี้กลายเป็น tools ที่สำคัญและทรงประสิทธิภาพมากที่สุด
อริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ Google ประเทศไทย ได้มาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถิติและตัวเลขของตลาดโมบาย พบว่า
– 45 ล้านคน คือจำนวนคนที่เข้าอินเตอร์เน็ตผ่าน “มือถือ”
เท่ากับว่า 2 ใน 3 ของคนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้แล้ว สื่อดิจิตอลกลายเป็นสื่อที่เมนสตรีม อาจจะรองลงมาจากทีวี แต่ก็ถือเป็นสื่อที่เข้มแข็งที่สุด
– 45% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต (ในประเทศไทย) กระทำในระหว่างที่ดูทีวีอยู่ด้วย
ฉะนั้นในหนึ่งปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ เราอาจจะเห็นว่าพฤติกรรมของคนไทยคือยังดูรายการทีวีอยู่ แต่ย้ายมาอยู่บนจอที่เล็กลง อาจจะเป็นแท็บเล็ต มือถือ หรือคอมพิวเตอร์
“ในปีที่แล้ว เราต้องทำโฆษณาที่ไม่เหมือนโฆษณา ในตอนนั้นอาจจะมีคนคิดว่าผมบ้า หรือผมกวน แต่ในหนึ่งปีที่ผ่านมากลับมีหลายๆ แบรนด์เข้ามาคุยกับผมแล้วบอกว่า เข้าใจในสิ่งที่ผมพูดแล้ว มันอยู่ที่เนื้อหา มันอยู่ที่สตอรี่”
นอกจากนี้ ภูมิใจที่จะประกาศว่า Youtube ประเทศไทย ติดอันดับ Top 10 ของตลาด Youtube ทั่วโลก ในแง่ของจำนวนเวลาที่ผู้ชม Youtube ประเทศไทยใช้ในการดูวิดีโอ
“บทสรุปส่งท้าย สิ่งที่อยากฝากไว้คือ 1) ประเทศไทยอยู่ใน Top 10 และปีที่แล้วเราเติบโตถึง 110% ซึ่งเรายังสามารถเติบโตไปได้อีก 2) 45 ล้านคน ที่เข้าอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ ดังนั้น สื่อดิจิตอลเป็นสื่อเมนสตรีมแล้ว ฉะนั้นขอกับทุกคนที่อยู่ทั้งฝ่ายแบรนด์และเอเจนซี่ว่าขออย่าให้แผนการตลาดดิจิตอล ไปอยู่ท้ายๆ ของแผนการตลาด ในเมื่อเราเป็นรองแค่ทีวีแล้ว 3) อยากฝากแบรนด์ทั้งหลายว่าตอนนี้คุณสามารถเป็นคอนเท้นต์ ครีเอเตอร์ได้แล้ว เพราะคุณเข้าถึงกับผู้บริโภคบนยูทูบเอง”
Simon Kahn Chief Marketing Officer Google Asia-Pacific กล่าวถึงสิ่งที่น่าสนใจว่าทำไมวิดีโอ ออนไลน์ ถึงกลายมาเป็นเมนสตรีมได้อย่างไร และเหตุใด Youtube ถึงได้รับความนิยมมาก
1.Choice
เพราะความหลากหลายของ channel อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้ามา engage ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น เพลงดนตรี กีฬา วาไรตี้ แต่งหน้า เรื่องตลก ฯลฯ แต่ยูทูบไม่ได้ให้แค่นี้ยังให้เบื้องหลังของรายการต่างๆ อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มยังพบว่า
2.Flexibility
คุณสามารถดูยูทูบทุกที่ที่ไหนก็ได้ จนบนรถขณะเดินทาง หรือระหว่างที่คุณกำลังรอเข้าคิวซื้อของ หรือแม้แต่ตอนที่คุณทานอาหาร
ข้อมูลที่น่าสนใจ พบว่า
- 50% ดูยูทูบบนมือถือ เป็นข้อบ่งบอกได้ดีว่ากาลเวลาเปลี่ยนไปแล้ว
- 83% เป็นคุณแม่ที่ดูยูทูบบนมือถือ โดยเฉพาะเวิร์กกิ้ง มัม ซึ่งมีความยุ่งยากวุ่นวายในชีวิตใช้ยูทูบเป็นตัวช่วยชั้นดี ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดมาตลอดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นวัยรุ่น
- ช่วงเวลา 06.00 น. คือเวลาที่สูงที่สุดของการรับชมทางทีวี ซึ่งกลายเป็นช่วงเวลาที่ต่ำที่สุดในการรับชมผ่าน Youtube
- ช่วงเวลา 21.00 น. คือเวลาที่สูงที่สุดของทีวี แต่ก็เป็นเวลาที่สูงที่สุดของการรับชมผ่าน Youtube เช่นกัน
Guatam Anand Director, Content and Operations, Youtube Asia-Pacific กล่าวถึงจุดเริ่มต้นอย่างง่ายๆ ของ Youtue ก็คือแค่อยากให้ทุกๆ คนสร้างสรรค์ ออกอากาศ และแชร์วิดีโอ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอีกอย่างที่อาจจะเปลี่ยนโฉมของหนังโฆษณาบนวิดีโอ แพล็ทฟอร์มไปเลย ก็คือพบว่า “คนไทยชอบวิดีโอ คอนเท้นต์ยาวๆ” ซึ่งต่างจากชาติอื่นๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยของวิดีโอที่คนไทยดูอยู่ที่ประมาณ 4 นาที!
อีกจุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของ “ยูทูเบอร์” ได้ดีก็คือ เมื่อมีการสำรวจ Biggest Influencers Of The World ที่สำคัญของวัยรุ่นสหรัฐฯ (จัดทำโดย Variety เมื่อปี 2014) พบว่า Top 5 ไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวู้ด แต่เป็นเหล่า “สตาร์บนยูทูบ” แทน เขี่ยเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และเคที่ เพอร์รี่ ไปอยู่ที่อันดับ 7 และ 8 เลยทีเดียว
สุดท้ายอยากเรียกร้องให้นักโฆษณา เอเจนซี่ แบรนด์ และนักสร้างสรรค์ต่างๆ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ลงบนยูทูบด้วยกัน.
