แนวโน้มของตลาด EV ในไทยเรียกว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายที่เพิ่มทะยานอย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ค่ายรถพาเหรดกันออกรถยนต์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่ายรถ EV จากจีนที่ทะยอยดาหน้าตบเท้าเรียงแถวหน้ากระดานเข้าสู่ตลาด EV ของไทย
การเข้ามาของค่ายรถ EV จีนรวดเร็วชนิดที่ ค่ายรถจากญี่ปุ่นที่เคยเป็นใหญ่ในตลาดรถยนต์ของไทยยังพลิกตำรากระบวนรบแทบไม่ทัน แม้จะเริ่มมีรถ EV จากค่ายใหญ่ญี่ปุ่นส่งมาชิมราง หรือแม้แต่ Back to Basic ของค่ายรถญี่ปุ่น ด้วยการนำรถ EV จีนมาชำแหละชนิดละเอียดจนถึงน็อตตัวที่เล็กที่สุด เพื่อหาจุดอ่อนของรถ EV
ซึ่งประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่ประสบกับสถานการณ์นี้ ตลาดรถในสหรัฐฯ ก็เคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ในตอนที่ Tesla บุกตลาดส่งผลให้ค่ายรถใหญ่ในสหรัฐฯ ทั้ง Ford Motor หรือ General Motor หรือ GM ต้องปรับสายการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตของ EV ที่สภาพอาจไม่แตกต่างไปจากไทยมากเท่าไหร่
แต่ดูเหมือนตลาด EV ในสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะถดถอย แม้ยอดขายจะยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม ขณะที่รถยนต์ Hybrid กลับมียอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้ซื้อรถในสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาการใช้ EV โดยเฉพาะในเรื่อง
- สถานีชาร์จ: ด้วยพื้นที่ของประเทศมีขนาดใหญ่ การวางสถานีชาร์จในจุดต่างๆ ยังมีไม่ทั่วถึง ทำให้การเดินทางไกลค่อนข้างลำบาก
- ราคา: แม้ว่าจะมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่ช่วยให้ราคาถูกลง แต่ราคาก็ยังสูงมากเมื่อเทียบกับราคาของรถยนต์ Hybrid
- มลพิษ: แม้ว่า EV จะช่วยลดการคาร์บอนให้เป็นศูนย์ แต่เมื่อเทียบกับรถยนต์ Hybrid ปล่อยมลพิษได้น้อยกว่ารถยนต์ปกติ และการปล่อยมลพิษของ Hybrid ยังอาจเทียบเท่ากระบวนการผลิตไฟฟ้าสำหรับรถ EV
- สภาพอากาศ: เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นเมืองหนาว แบตเตอรี่ในอุณหภูมิต่ำจะทำให้เกิดการคายประจุ ทำให้การจัดเก็บพลังงานทำได้ไม่ดี ซึ่งแบตเตอรี่จะเก็บพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอุณหภูมิที่อุ่น
- ความเชื่อมั่น: ผู้ใช้รถในสหรัฐฯ มองว่า EV เป็นรถยนต์ที่เพิ่งเกิดใหม่ยังต้องมีปัญหาอีกมาก ส่วนรถยนต์ Hybrid มีการพัฒนามายาวนาน ซึ่งปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว ช่วยลดปัญหาให้กับผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ Lifestyle ของชาวอเมริกันยังชอบเดินทางไกลมากกว่า 1,000 กม.หรือเดินทางมากกว่า 10 ชม. การใช้รถ EV นอกจากต้องเสียเวลาหาที่ชาร์จแล้ว ระยะเวลาในการชาร์จทำให้เป็นอุปสรรคในการเดินทาง นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังมีนโยบายกีดกันสินค้าจีน รวมถึงอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ทำให้ราคารถและอะไหล่ของ EV ในสหรัฐฯ ค่อนข้างแพง
เมื่อย้อนกลับมาที่ EV ในประเทศไทยดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่เติบโตมากกว่า เพราะราคา EV ในไทยมีแนวโน้มลดลงจากหลายปัจจัย สถานีชาร์จที่กระจายตัวหลายจุดและมีแผนขยายใน ตจว.เพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งไลฟ์สไตล์ของคนไทยเดินทางไม่ไกลมาก อยู่ในจุดที่สามารถหาสถานีชาร์จได้ไม่ยาก
Source: Japan TodayB