คอนเท้นต์แบบไหนที่จับตลาดเกย์ ได้อย่างแท้จริง

ว่ากันด้วยเรื่อง เกย์ หรือกลุ่มชายรักชาย ที่กำลังเป็นเป้าหมายใหม่ของนักการตลาด ซึ่งเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีศักยภาพการซื้อสินค้าสูง เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างจากผู้หญิง หรือผู้ชายทั่วไป ทำให้นักการตลาดต้องตื่นตัว ศึกษาพฤติกรรมการซื้อ และการบริโภคของคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น

มีการสำรวจพบว่า 64% ของชาวเกย์ เมื่อรู้สึกดีต่อแบรนด์แล้ว พวกเขามีแนวโน้มจะแนะนำแบรนด์ของคุณแก่เพื่อนๆ ของเขา แล้วคอนเท้นต์ประเภทไหนที่กลุ่มชายรักชายจะให้ความสนใจ

ต้องฉลาดและเหมาะสม

หากคุณต้องการเข้าถึงผู้บริโภคในกลุ่มนี้จริงๆ อันดับแรกคุณต้องใส่ใจทุกรายละเอียด โดยเฉพาะพฤติกรรมการซื้อสินค้า ความชอบ ความละเอียดอ่อน เป็นต้น แบรนด์ที่จะครองใจพวกเขาได้คือ ต้องเป็นมิตร และปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนคนอื่นทั่วไป ส่วนใหญ่สินค้าที่เจาะกลุ่มชายรักชายโดยเฉพาะ จะเน้นในเรื่องเพศสัมพันธ์เสียมากกว่า ซึ่งพวกเขาคงไม่ชอบนัก

แบรนด์จึงต้องรู้จักวิธีการเข้าหาอย่างเหมาะสม ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หากถึงวันที่แบรนด์เข้าไปนั่งอยู่ในใจแล้ว พวกเขาก็จะยอมควักกระเป๋าเพื่อซื้อสินค้า และบริการของคุณแน่นอน ทั้งนี้ ร้อยละ 30% ของชายรักชาย จะให้ความสำคัญกับความหรูหรา มีระดับ หรือต้องการวันหยุดพักผ่อนสุดหรูในช่วงปลายปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป

ระมัดระวังเรื่องการสื่อสาร

แคมเปญที่คุณจะเลือกนำมาใช้นั้น ต้องคำนึงในหลายๆ ด้าน อาทิ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้หรือไม่ หรือจะสะท้อนแง่มุมใดบ้าง จากที่เราเคยเห็นกันมา คอนเท้นต์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชายนี้จะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ การได้รับการยอมรับ และสิทธิความเท่าเทียม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก ที่แบรนด์ส่วนใหญ่จะร่วมสนับสนุนในเรื่องเหล่านี้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คอนเท้นต์ประเภทอารมณ์ขัน สนุกสนาน และแง่บวก ก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน

คอนเท้นต์ที่ดี ไม่ได้หมายความว่าจะพอดีกับทุกคน

ปัจจุบันมีหลายๆ แบรนด์ ที่ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าต้องการเจาะกลุ่มชายรักชาย แตกต่างจากการแบ่งตามเชื้อชาติ ศาสนา สังคม ฯลฯ นั่นก็เพราะคุณไม่สามารถบอกได้ทันทีว่าสินค้าของคุณเหมาะกับผู้บริโภคกลุ่มนี้จริงๆ

แต่สิ่งที่คุณจะทำได้คือ การเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด แล้วพิจารณาว่าแบรนด์ของคุณจะมีโอกาสเข้าถึงพวกเขาในช่องทางไหนบ้าง ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Tiffany & Co. ที่มีภาพลักษณ์หรูหรา ซึ่งก็ตรงกับผลสำรวจที่ว่า 26% ของกลุ่มชายรักชาย จะเต็มใจซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง โดยเน้นแบรนด์ที่มีคุณภาพ ทำให้ Tiffany & Co. เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้เหมาะสมกับแบรนด์ของตน

ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในเรื่องการเข้าถึงผู้บริโภค Tiffany & Co. ยังแสดงให้เห็นถึงความคิดในด้านบวก เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการแต่งงาน นอกจากนี้ ภาพโฆษณาของแบรนด์เองก็เต็มไปด้วยความสง่า คลาสสิก และถ่ายทอดตัวตนของTiffany & Co. ได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากภาพชายหนุ่มสองคน ที่แต่งตัวดี และนั่งอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ที่เป็นบ้านของพวกเขา

โปรดจำไว้ว่าหากคุณไม่รู้จะเลือกใช้สีอะไร สีม่วง หรือสีรุ้ง ไม่ได้เป็นมิตรกับกลุ่มชายรักชายเสมอไป

แหล่งที่มา