เจาะลึก #มนุษย์แม่2019 “Momketing” ถอดความคิดสะกิดต่อมซื้อ คุณแม่รุ่นใหม่

  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

shutterstock_519663109-700

Amarin Baby & Kids ได้จัดทำผลวิจัย “Momketing” ถอดความคิดสะกิดต่อมซื้อ คุณแม่รุ่นใหม่เพื่อเข้าใจลักษณะของคุณแม่ไทยสไตล์การเลี้ยงลูก สินค้าในดวงใจแม่ ผู้มีอิทธิพลต่อแม่ ปัจจัยการเลือกซื้อสินค้า และสื่อที่โดนใจแม่ปี 2019 โดยร่วมมือกับ บริษัท อินโฟเสิร์ช จำกัด สำรวจคุณแม่ที่มีกำลังซื้อสูงจำนวน 3,100 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ลูกเล็ก (มีลูกวัย 0-3 ปี) และคุณแม่ลูกโต (มีลูกวัย 3-6 ปี) เก็บข้อมูลแบบ Face to Face Intercept ร่วมกับการเก็บข้อมูลด้วยแท็บเล็ต (CAPI) และการทำแบบสอบถามกับคุณแม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศตลอดปี 2561 พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับลักษณะของมนุษย์แม่ 2019 และการทำการตลาดกับคุณแม่รุ่นใหม่ ดังนี้

Amarin baby & Kids (8)

คุณน้ำทิพย์ เงินแย้ม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและกลยุทธ์ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงผลการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า คุณแม่ 2019 มี 4 ประเภท ได้แก่

  1. #แม่ก็คือแม่ 46.5% เป็นแม่ที่ทำทุกอย่างที่ดีที่สุดเพื่อลูก เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกด้วยตัวของแม่เอง
  2. #แม่สายฝ. 45.7% เป็นแม่ที่เลี้ยงลูกอย่างอิสระสไตล์ฝรั่ง ลูกชอบอะไร แม่พร้อมสนับสนุน ไม่เอาความคิดของแม่ไปกำหนดทิศทางของลูก
  3. #แม่ลูกรักกัน 41% เป็นแม่ที่เน้นทำกิจกรรมร่วมกับลูกทั้งในบ้านและนอกบ้าน
  4. #แม่ฉลาดสร้าง 34.9% เป็นแม่ที่สนใจเรื่องความฉลาด และพัฒนาการของลูก ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ของลูก

1

มนุษย์แม่ 2019 เป็นอย่างไร?

2

เมื่อเจาะลึกในแม่แต่ละกลุ่ม พบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นกลุ่ม #มนุษย์แม่ขี้สงสัย โดยคุณแม่จะมีความ “อยากรู้อยากเห็น” ช่วงนี้จะเป็นช่วงเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ทั้งข้อมูลการดูแลลูกในครรภ์ และข้อมูลการเตรียมตัวซื้อสินค้าเพื่อลูก “ชอบดูรีวิว” ทั้งรีวิวสินค้า และขั้นตอนการดูแลลูกที่ถูกต้อง เพื่อนำมาประมวลผลและตัดสินใจ “เลือกสิ่งที่ดีที่สุด” เมื่อลูกน้อยคลอดออกมา

การทำการตลาดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ จึงควรให้ข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลรอบด้านของผลิตภัณฑ์ การทำวิดีโอรีวิว สินค้า หรือวิดีโอวิธีการดูแลลูกน้อย ที่คุณแม่เข้าใจได้ง่าย รวมไปถึงการบอกให้คุณแม่ทราบถึงคุณภาพ มาตรฐาน และรางวัลต่างๆ ที่แบรนด์มีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณแม่มากยิ่งขึ้น

3

เมื่อคุณแม่คลอดลูกออกมาแล้ว คุณแม่ลูกเล็กวัย 0-3 ปีถือเป็น #มนุษย์แม่จอมจัดการ เพราะสำหรับแม่แล้ว“เวลาอยู่กับลูกสำคัญที่สุด” คุณแม่จึงต้องหาตัวช่วยมาจัดการทุกอย่างและเอื้อต่อ “ความสะดวก” มากที่สุด นอกจากนี้ แม่ในช่วงเวลานี้ คือ แม่ที่มาการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด เมื่อเทียบกับแม่ในช่วงเวลาอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็น “ช่วงเวลาแห่งการใช้จ่าย” ของแม่เลยทีเดียว

คุณแม่จึงมองหา platform ใกล้ตัวที่คุณแม่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในการซื้อสินค้าเพื่อลูก ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้า (One Stop Shopping)หากเป็นรูปแบบออนไลน์ ต้องช่วยคุณแม่ซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ ซื้อได้ง่าย หากเป็นรูปแบบออฟไลน์ ก็ต้องเป็นแฟร์หรือร้านที่มีสินค้าหลากหลายและครบครันตอบโจทย์คุณแม่ให้จัดการเวลาได้ดีที่สุด

4

สำหรับคุณแม่ลูกโต ที่มีลูกวัย 3-6 ปี คือกลุ่ม #มนุษย์แม่ CEO ในที่นี้หมายถึง แม่เป็น CEO ของอนาคตของลูก ไม่ใช่ CEO ของตัวแม่เอง แม่กลุ่มนี้จึง ”สนใจเรื่อง EQ/IQ ของลูก” เป็นพิเศษ รวมถึง “ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า” มาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากได้ผ่านการทดลองใช้สินค้าหลายๆ แบบแล้วในช่วงเป็นคุณแม่ลูกเล็ก และยังพบว่า “ลูกมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ” ของแม่กลุ่มนี้ โดยแม่จะฟังความคิดเห็นของลูกก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการใดๆ

การทำการตลาดกับคุณแม่ลูกโต จึงควรเน้นไปที่ศักยภาพของลูก การวางแผนอนาคตของลูก และยังต้องทำการตลาดทั้งกับแม่และลูกควบคู่กันไป

สไตล์การเลี้ยงลูกของ #มนุษย์แม่2019

5

ผลวิจัยพบว่า โดยพื้นฐานแล้ว คุณแม่ทั้ง 3 กลุ่มต้องการ “เลี้ยงลูกให้เติบโตสมวัย” ถัดมาคือ “เลี้ยงลูกให้เอาตัวรอดได้ แก้ปัญหาเป็น” อย่างไรก็ตาม พบว่าในแต่ละกลุ่มคุณแม่ก็มีความแตกต่างในสไตล์การเลี้ยงลูกเช่นกัน โดยคุณแม่ตั้งครรภ์เน้น “เลี้ยงลูกให้แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี” ส่วนคุณแม่ลูกเล็กเน้น “เลี้ยงลูกให้เป็นคนดีของสังคม” เป็นที่รักของสังคมใกล้ตัวลูก ในขณะที่คุณแม่ลูกโตเน้น “เลี้ยงลูกให้เป็นตัวของตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ”ดังนั้น สินค้าที่จะทำการตลาดกับคุณแม่ จะต้องตอบสนองสไตล์การเลี้ยงลูกของแม่แต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี

Phygital Mom #มนุษย์แม่2019

6

การเสพสื่อของคุณแม่รุ่นใหม่เป็นการเสพสื่อแบบผสมผสานทั้งสื่อแบบออนไลน์ (Digital) และสื่อแบบออฟไลน์ (Physical) โดยพบว่า ในกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ มีการเสพสื่อ Digital 97.0% และเสพสื่อ Physical 96.5% ในขณะที่กลุ่มคุณแม่ลูกเล็ก มีการเสพสื่อที่ลดลง เนื่องจากให้เวลากับการเลี้ยงดูลูกเป็นหลัก โดยมีการเสพสื่อ Digital 94.0% และเสพสื่อ Physical 93.5% และสำหรับคุณแม่ลูกโตมีการเสพสื่อ Physical เพิ่มขึ้นเป็น 94.0% เนื่องจากคุณแม่พาลูกออกนอกบ้านมากขึ้น ทำให้ได้รับสื่อ Physical เพิ่มขึ้น ในขณะที่เสพสื่อDigital ลดลงเหลือเพียง 91.5% เท่านั้น

7

จากการสำรวจพบว่า สื่อ Physical ที่คุณแม่เสพมากที่สุด ได้แก่สื่อทีวี 90.00%  งานแฟร์และสื่อในร้านค้าสำหรับแม่ลูกโดยเฉพาะ 47.50% การบอกต่อ 31.67% สื่อสิ่งพิมพ์26.34% สื่อนอกบ้าน 23.25% และป้ายโฆษณาอื่นๆ 18.00%

ในส่วนของสื่อ Digital พบว่า คุณแม่เสพสื่อเฟซบุ๊ค 89.84% เว็บเสิร์ชและเว็บไซต์ 66.14% ไลน์ 53.84% ยูทูป 53.67% และอินสตาแกรม 14.50%

ปัจจัยเลือกซื้อสินค้า#มนุษย์แม่2019

8

จากการสำรวจปัจจัยการเลือกซื้อสินค้าของคุณแม่พบ 5 ปัจจัยหลักที่คุณแม่ให้ความสำคัญมากที่สุดได้แก่

  • 94.5%    ภาพลักษณ์ ตราสินค้า ของผู้ผลิต ผู้ให้บริการ
  • 85.6%    ความหลากหลายของสินค้าและบริการ (One Stop Shopping/Variety)
  • 75%        คำแนะนำจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทั้งผู้เชี่ยวชาญและสื่อที่มีความน่าเชื่อถือ
  • 73.2%    ราคา ความคุ้มค่า
  • 68.2%    ส่วนประกอบ คุณสมบัติ ของสินค้าและบริการ

นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อคุณแม่ได้ใช้สินค้าและบริการแล้ว คุณแม่จะมีการแชร์และบอกต่อ 62.36% ทั้งในแง่บวกและแง่ลบของสินค้าอีกด้วย

ผู้มีอิทธิพลต่อ#มนุษย์แม่2019

9

ผลวิจัยพบว่า การทำการตลาดกับคุณแม่อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ นักการตลาดควรทำการตลาดกับผู้คนที่แวดล้อมตัวคุณแม่ด้วย ซึ่งผู้ที่มีอิทธิพลต่อคุณแม่ยุคนี้ที่สำคัญ ได้แก่ แหล่งข้อมูลการเลี้ยงลูกที่น่าเชื่อถือ 79.7% ครอบครัว/ญาติที่อยู่ในบ้านเดียวกัน 66.8% เพื่อน/รีวิวจากผู้ใช้จริง 47% ในขณะที่เชื่อ คนดัง/ดารา 12.2% เท่านั้น

ซึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจจากการวิจัยนี้ พบ 39% คุณพ่อมีอิทธิพลต่อคุณแม่มากขึ้น โดยเฉพาะในสินค้าที่ต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคในการใช้ เช่น คาร์ซีท และสินค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูก เป็นต้น

Top 5 สินค้าในดวงใจ#มนุษย์แม่2019

10

จากผลสำรวจพบว่า 5 อันดับสินค้าในดวงใจกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ อันดับหนึ่งคือ โรงพยาบาล คลินิก ฝากท้อง หมอสูติ รองลงมาคือ นมผงของแม่ อันดับสาม คือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ถัดมาคือ นมพร้อมดื่ม UHT ของแม่ และอันดับห้าคือ อุปกรณ์เกี่ยวกับการให้นม สำหรับกลุ่มคุณแม่ลูกเล็ก อันดับหนึ่งคือ นมผงของลูก อันดับสอง นมพร้อมดื่ม UHT ของลูก ถัดมาคือ เครื่องแต่งกายสำหรับเด็ก อันดับสี่คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้าลูก และอันดับห้าคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก และสำหรับกลุ่มคุณแม่ลูกโต อันดับหนึ่งคือ นมพร้อมดื่ม UHT/พาสเจอร์ไรส์ รองลงมาคือ โรงเรียน เครื่องแต่งกายสำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้าลูก และหนังสือสำหรับเด็ก ตามลำดับ

 

 

 

 


  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •