เมื่อพูดถึงการทำงานคนไทยยังคงมีความสุขในการทำงานอยู่เสมอ และมีความคาดหวังในเชิงบวกต่ออนาคตในการทำงานด้วย พนักงานส่วนมากเชื่อมั่นว่าชีวิตการงานของตนเองต้องดีกว่าเดิม และพนักงานอีกไม่น้อยเลือกที่จะเปลี่ยนงานมากกว่าทนอยู่กับบริษัทเดิมถ้าพวกเขาไม่มีความสุขในการทำงาน
รายงานดัชนีความสุขของพนักงานประจำปี 2016 ที่จัดทำโดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคนทำงานอีก 7 ประเทศในเอเชีย คนไทยมีความสุขในการทำงานเป็นอันดับที่ 3 โดยการสำรวจนี้จัดทำในฮ่องกง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย
คะแนนความสุขเฉลี่ยจากผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยทั้ง 1,957 คนอยู่ที่ 5.74 (จาก 11 ระดับคะแนน ) ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศที่คนทำงานมีความสุขกับการทำงาน รองจากฟิลิปปินส์ (6.25) และอินโดนีเซีย (6.16) ทั้งนี้ ประเทศไทยมีดัชนีความสุขจากการทำงานเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งวัดจากจำนวนคนตอบแบบสอบถามที่มีทัศนะคติเป็นกลางไปจนถึงมีความสุขกับงาน พบว่าทุกๆ 100 คน จะมี 61 คนมีทัศนะคติเป็นบวกกับงาน ตามหลังอินโดนีเซียที่ 71 และฟิลิปปินส์เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มนี้ที่ 73
นอกจากนี้ การสำรวจยังสอบถามถึงมุมมองของผู้ตอบแบบสอบที่มีต่อความสุขในการทำงานในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่าประเทศไทยอยู่ในระดับกลางๆ ที่ระดับ 5.66 เมื่อเทียบกับอีกเจ็ดประเทศ โดยอินโดนีเซียมีดัชนีความสุขระดับสูงสุดในกลุ่มนี้ที่คะแนน 6.58 ตามมาด้วยเวียดนามและฟิลิปปินส์ที่ 6.30 และ 6.18 ตามลำดับ รั้งท้ายด้วยสิงคโปร์ที่ 4.93 และยังเป็นประเทศเดียวที่ได้คะแนนต่ำกว่า 5.00 ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน
การสำรวจนี้ยังศึกษาข้อมูลภาพรวมของพนักงานที่มีความสุขที่สุดในประเทศไทย จากผลสำรวจเชิงลึกพบว่า พนักงานที่มีความพึงพอใจต่องานมากที่สุดคือ กลุ่มที่ทำงานปัจจุบันมาประมาณ 3-5 ปี เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในงานบริหาร งานท่องเที่ยว งานโรงแรมงานอาหารและเครื่องดื่ม และงานธุรการงานทรัพยากรบุคคล และทำงานอยู่ในธุรกิจก่อสร้าง/สถาปัตยกรรม ธุรกิจโรงแรม บริการ/จัดเลี้ยงและธุรกิจการแพทย์/เภสัชกรรม โดยผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นระดับผู้บริหารระดับสูงขององค์กร อาทิ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการ เป็นผู้มีความสุขที่สุด
ในทางตรงกันข้ามพนักงานที่ให้คะแนนความสุขต่ำที่สุดคือ พนักงานที่เพิ่งเริ่มงาน (ส่วนใหญ่ทำงานในองค์กรมาน้อยกว่า 1 ปี) ในสายงานขนส่ง งานไอทีและงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ในธุรกิจประกันภัยธุรกิจสารเคมี/พลาสติก/กระดาษ/ปิโตรเคมีและธุรกิจยานยนต์
โดยตำแหน่งงานที่มีความสุขน้อยที่สุดคือ หัวหน้างาน เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า พนักงานที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความพึงพอใจต่อการทำงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับพนักงานในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ
และจากการสำรวจปัจจัยที่ทำให้พนักงานมีความสุขในที่ทำงาน พบว่า คนไทยให้ความสำคัญกับสถานที่ทำงานที่เดินทางสะดวกและทำงานที่ไหนก็ได้ที่ตนเองต้องการ ความมีชื่อเสียงขององค์กร และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โดยปัจจัยเหล่านี้เป็นผลมาจากสภาพการจราจรในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศและลักษณะการสร้างความสัมพันธ์ในสังคมของคนไทย
ขณะที่ปัจจัยหลักที่ทำให้พนักงานไม่มีความสุขจนถึงขั้นลาออกจากบริษัทคือ การมีผู้นำที่ขาดคุณสมบัติในการสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ได้รับการส่งเสริมให้เติบโตในหน้าที่การงาน และไม่ได้รับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ แม้ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พนักงานมีความสุขแต่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของพนักงานว่าจะอยู่ด้วยความภักดีต่อองค์กรหรือจะไปแสวงหาโอกาสใหม่ๆ
34% ของพนักงานที่ตอบแบบสอบถามเลือกมองหาโอกาสที่ดีกว่าหรือหางานใหม่เพื่อเพิ่มความสุขในการทำงาน อีก 19% เลือกทำงานในตำแหน่งเดิมต่อไปตราบใดที่พวกเขายังได้รับการขึ้นเงินเดือน ในขณะที่ 8% บอกว่าพวกเขาจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้รับการยอมรับในความสามารถหรือได้เลื่อนตำแหน่ง