httpv://youtu.be/FLzfXQSPBOg
ช่วงนี้หากจะบอกว่ากระแสคลั่งไคล้อะนิเมชั่น Frozen (ชื่อไทย ผจญภัยคำสาปราชินีหิมะ) ของ Disney กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกก็คงไม่ผิดนัก แม้สำหรับประเทศไทยที่อนิเมชั่นเรื่องนี้จะลาโรงไปนานแล้วก็ยังมีกระแสพูดถึงอยู่เนืองๆ
เมื่อฝุ่นจางลง นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากหลายชาติเริ่มจับสังเกตได้ว่ากลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ใช่มีแต่เด็กน้อยวัยประถมหรือมัธยมเหมือนก่อน แต่กลายเป็นกลุ่มคนที่มีอายุมากขึ้นจนเหยียบวัย 30 อัพมาแย่งที่นั่งในโรงมากขึ้น
ผู้ชมวัย 30 อัพกวาดที่นั่งหนัง Frozen
หนังสือพิมพ์ Korean Times โดยคอลัมนิสต์ Do Je-hae จับกระแสความนิยมอะนิเมชั่น Frozen ในหมู่ชาวกิมจิพบสิ่งน่าประหลาดใจคือ กลุ่มแฟนคลับของอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเด็กน้อยวัยก่อนเข้าโรงเรียนเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่กลับกลายเป็นกลุ่มสาวแม่บ้านวัย 30 อัพที่กวาดที่นั่งในโรงภาพยนตร์จนเรียบ
“มันเป็นภาพยนตร์ของดิสนีย์ที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมาหลังจากเลิกดูไปนาน” สเตลล่า ชัง แม่บ้านวัย 39 ปีกล่าวและว่า ตนประทับใจ Frozen เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของอะนิเมชั่นที่ผู้หญิงมองหาคือ มีเนื้อเรื่องกินใจ ตัวละครน่ารัก และเพลงประกอบที่แสนไพเราะจนลืมไม่ลง
ชังเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของคุณแม่ที่กลับไปหาภาพยนตร์ของดิสนีย์เพราะพาลูกๆ ของตัวเองไปดู แต่หลังจบภาพยนตร์กลับกลายเป็นตัวเองที่ต้องมนต์ของราชินีหิมะเสียเอง โดยจากการสำรวจพบว่าฐานคนดูที่ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จถล่มถลายใน box office ของเกาหลีใต้คือฐานหญิงสาววัย 30 อัพ ด้าน MaxMovie เวบไซต์ขายตั๋วหนังออนไลน์รายงานในทิศทางเดียวกันว่า กลุ่มคนวัย 30 อัพมาจองตั๋วล่วงหน้ากับทางเวบไซต์คิดเป็น 47% ของทั้งหมด ส่วนคนวัย 20 กว่าคิดเป็น 17% และหากพิจารณาจำนวนตั๋วที่ขายได้ทั้งหมดพบว่า 29% ของจำนวนตั๋วที่ขายได้ทั้งหมดเป็นของกลุ่มคนวัย 30 อัพถึง 29%
อะนิเมชั่นดังทำรายได้ถล่ม Box Office เกาหลีใต้
Korean Film Council (KOFIC) ให้ข้อมูลว่าภายในเวลาเพียง 18 วันหลังจากที่ Frozen เข้าโรงก็สามารถทำรายได้ถล่มถลายไปถึง 45 ล้านเหรียญสหรัฐ และภายในวันแรกวันเดียวก็กวาดไปถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทำรายได้แซงหน้า Kung Fu Panda II ที่เคยเป็นอนิเมชั่นที่หนึ่งบน box office ของเกาหลีใต้ไปอย่างสบายๆ
หลายฝ่ายเดาว่าความแตกต่างของ Frozen ซึ่งอิงมาจากเทพนิยายของ Hans Christian Andersen เรื่อง Snow Queen นั้นน่าจะมาจากเนื้อเรื่องซึ่งเกี่ยวกับการผจญภัยของสององค์หญิงเพื่อคลายมนต์ที่สะกดให้ทั้งอาณาจักรกลายเป็นน้ำแข็งตลอดกาล โดยไม่ได้เน้นรักแท้ (True love) แบบหนุ่มสาวอย่างที่อะนิเมชั่นของ Disney ดั้งเดิมทำมา
ราชินีหิมะ Elsa
เจ้าหญิงอีกพระองค์ Anna
ชายผู้มีอาชีพขายน้ำแข็ง Kristoff
มนุษย์หิมะตัวป่วน Olav
เจ้าชายมาดเท่จากแดนไกล Hans
ฉีกเนื้อเรื่องเดิมๆ
ชิมยูจิน อาจารย์มหาวิทยาลัยและแม่ของสาวน้อยวัย 8 ขวบให้ความเห็นว่า Frozen เป็นอะนิเมชั่นของดิสนีย์เรื่องสำคัญที่พลิกบทบาทของพระเอกจากเจ้าชายกลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้หล่อเหลา และเนื้อเรื่องหลักยังเกี่ยวกับความเป็นพี่น้องที่ไม่เคยพบเห็นจากอะนิเมชั่นของดิสนีย์มาก่อน
ขณะที่ ชอย ฮันวุค นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังกล่าวว่า ตัวเอกหญิงของ Frozen ทั้งสองคนต่างไม่ได้ตั้งตารอเจ้าชายมาดเท่มาช่วยพวกเขาจากวิกฤติ ทั้งเอลซ่าและแอนนาต่างเป็นหญิงแกร่งที่พึ่งตัวเองได้และพยายามแก้ปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเอง
ด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ 3D ในเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลมากมาย เช่น Golden Globe Award สำหรับภาพยนตร์อะนิเมชั่นเรื่องเยี่ยม 5 รางวัล Annie Awards และ 2 รางวัลจากนักวิจารณ์สำหรับอะนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมและเพลงประกอบ ‘Let it go’
โด่งดังจนเกาหลีมีเพลงเวอร์ชั่นป็อบ
httpv://youtu.be/PRpDlr1lFJw
ผู้ชมนำไป cover
httpv://youtu.be/BXEHA7BOlgQ