‘Facebook – Twitter’ เผย insight นักช้อปออนไลน์ไทยว่าตอนนี้เป็นอย่างไร

สองโซเชียลมีเดียดังอย่าง ‘เฟซบุ๊ก’ (Facebook) และ ‘ทวิตเตอร์’ (Twitter) เผย ‘insight นักช้อปออนไลน์ไทย’ ที่นักการตลาดและแบรนด์ต้องรู้และจับตา เพื่อนำมาวางกลยุทธ์ทางการตลาดสร้างการได้เปรียบทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างการเติบโตของยอดขาย

Facebook IQ ระบุว่า มหกรรมการลดราคาสินค้าและการซื้อของขวัญให้กับตัวเองเป็นเทรนด์สำคัญที่ธุรกิจควรนำมาปรับใช้ โดย 70% ของผู้ร่วมตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าช่วงวันหยุดถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพบกับโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่ 9.9, 10.10, 11.11 ไปจนถึงเทศกาลลดราคาช่วงสิ้นปี เป็นช่วงเวลาการช้อปปิ้งที่ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคต่างเฝ้ารอ แม้สถานการณ์โลกในปัจจุบันจะยังไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

นอกจากนี้ จากผลการศึกษาข้อมูลเชิงลึก Mega Sales & Holiday 2020 ของ Facebook IQ ร่วมกับ YouGov  ยังได้สรุป 5 เทรนด์ที่กำลังมาแรงของนักช้อบออนไลน์ ได้แก่

1.คนไทย 71% ใช้ “เวลาเล่นมือถือมากขึ้น” ที่น่าสนใจก็คือ 65% ของ Gen X และเบบี้บูมเมอร์ใช้เวลาเล่นมือถือมากขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดย 36% จะช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์

2.เศรษฐกิจไม่ดี มหกรรมลดราคายิ่งโต สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคชัดเจน โดยผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคาสินค้ามากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า ผู้ซื้อจำนวนมากรอวันมหกรรมลดราคา และนักช้อปที่ร่วมตอบแบบสำรวจระบุว่า มหกรรมลดราคา 12.12 และ 11.11 เป็นอีเวนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

3.‘ซื้อของขวัญให้ตัวเอง’ เทรนด์มาแรง การซื้อของขวัญให้ตัวเองและการช้อปปิ้งช่วงเทศกาลเป็นเทรนด์ที่ครองมหกรรมลดราคาในปีนี้ ซึ่งจากผลการศึกษา Mega Sales & Holiday 2020 เผยว่า เกือบ 82% ของนักช้อปในไทยมองหารางวัลให้ตัวเองในช่วงเทศกาลสิ้นปี และเทรนด์ที่กำลังมาแรง นั่นคือ “การซื้อของขวัญให้ตัวเอง”

4.แบรนด์ต่างประเทศเป็นที่นิยม โดยกลุ่ม Gen X และ Gen Y เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเช่นนั้นมากที่สุด และมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าจากทั่วโลก

5.‘คุณค่า’ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่ราคาที่จับต้องได้ แต่ยังพิจารณาว่าแบรนด์มีค่านิยมเดียวกันกับพวกเขาหรือไม่ ซึ่งผู้ซื้อสินค้าช่วงสิ้นปีในประเทศไทยระบุว่า ต้องการเห็นเนื้อหาที่นำเสนอความจริงใจ รวมถึงการอัปเดตข้อเสนอใหม่ๆ จากแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ และ 53% ของผู้ซื้อสินค้ายังต้องการรับชมวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัว

ทวิตเตอร์ เผย 3 เทรนด์การช้อปออนไลน์

โปรโมชั่นของวันแห่งการช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็น 7/7, 8/8, 9/9, 10/10, 11/11 และ 12/12 ได้กลายเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดทั้งแบรนด์และผู้บริโภค จากการวิจัยล่าสุดพบว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ประเทศไทยมากกว่า 4 ใน 5 คน มีการซื้อของออนไลน์ และการเข้าใจเทรนด์การช้อปออนไลน์ของผู้บริโภคได้ดี เป็นส่วนสำคัญในการวางกลยุทธ์

ผู้บริโภคเลือกซื้ออะไรกันบ้าง

5 ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในนิยมสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เมื่อเดือนที่ผ่านมา

-แชมพู (84.7%)

-น้ำยาปรับผ้านุ่ม (75.6%)

-น้ำยาซักผ้า / ผงซักฟอก (74.2%)

-ครีมนวดผม (66.9%)

-เสื้อผ้า (66.7%)

4 เหตุผลหลัก ในการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคตัดสินใจซื้อของทางออนไลน์

1.จัดส่งฟรี (63%)

2.ส่วนลดต่างๆ (57%)

3.จ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้า (45%)

4.เสียงสนับสนุนและการพูดถึงของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ (39%)

ผู้บริโภคสนใจในเรื่องอะไรเป็นพิเศษ

ผู้หญิงคือกลุ่มที่นิยมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องช้อปปิ้งบนทวิตเตอร์มากที่สุดในไทย และสาวๆ นักช้อปเหล่านี้ให้ความสนใจในเรื่องของดนตรี, อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ, การทำอาหาร, ความงามและเครื่องสำอาง ขณะที่หนุ่มนักช้อปมีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยี, ดนตรี, การเล่นกีฬาและข่าวสารต่างๆ

รีวิวข้อมูลผลิตภ้ณฑ์ ก่อนการตัดสินใจซื้อ

การซื้อของออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงแค่การล็อกอินเพื่อเข้าไปซื้อแล้วล็อกออฟออกจากระบบเท่านั้น แต่ขั้นตอนในการช้อปปิ้งออนไลน์นั้นยาวนานกว่าที่คิด และมีความแตกต่างจากเดิมไปมาก การศึกษาหาข้อมูลและการวางแผนก่อนจ่ายเงินซื้อของถือเป็นส่วนที่สำคัญในขั้นตอนการซื้อของ โดย 94% ของนักช้อปออนไลน์บนทวิตเตอร์มักจะหาข้อมูลจากรายการสิ่งของที่อยากได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

นักช้อปออนไลน์บนทวิตเตอร์คือ ผู้ทรงอิทธิพลชอบการค้นพบสิ่งใหม่ เปิดใจรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือไอเดียใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์และมักจะเข้าร่วมวงสนทนาในเรื่องเกี่ยวกับการช้อปปิ้ง สำหรับแบรนด์ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการดูแลชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นไปในทางบวก เนื่องจาก 50% ของนักช้อปออนไลน์ในไทยมักจะตรวจสอบข้อมูลของแบรนด์และข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงบนทวิตเตอร์

ให้ความสำคัญทุกขั้นตอน มากกว่าแค่การตัดสินใจซื้อ

การซื้อของออนไลน์คือขั้นตอนอย่างหนึ่ง หากลองศึกษาวันแห่งการช้อปปิ้งอย่างเช่นโปร 10/10 ทางทวิตเตอร์พบว่า ช่วงเวลาขั้นตอนของการทำอีคอมเมิร์ซอยู่ที่ประมาณ 10-14 วัน โดยมีหัวใจหลักอันสำคัญที่แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์ได้ในระหว่างที่มีการจัดโปรโมชั่น หากแบรนด์มีการลงทุนและโฟกัสที่จะขายสินค้าเฉพาะแค่ในวันที่ 10 เดือน 10 จะได้รับประโยชน์น้อยกว่าแบรนด์ที่มีการเอ็นเกจกับผู้บริโภคมาตลอดช่วงระยะเวลาตั้งแต่ก่อนมีโปรฯ ไปจนถึงหลังวันที่มีโปรฯ

การรู้ insight และเทรนด์พฤติกรรมของนักช้อป ถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักการตลาดและแบรนด์ ให้สามารถตอบโจทย์ทางการตลาดและความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความสำเร็จทางธุรกิจและยอดขาย รวมไปถึงการเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภค