เปิดผลสำรวจ “สวัสดิการที่ทำงาน” เอกชนไทย-เอกชนต่างชาติ-รัฐวิสาหกิจ-สตาร์ทอัพ

  • 239
  •  
  •  
  •  
  •  

Employee Benefits

หากพูดถึง “สวัสดิการในที่ทำงาน” ปฏิเสธไม่ได้ว่าถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำงานให้ความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจเข้าทำงานกับองค์กรนั้น ๆ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำให้รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และส่งผลให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นไม่ว่าจะเป็น Blogger, Youtuber, แม่ค้าออนไลน์ ฯลฯ ซึ่งเป็นอาชีพที่คนรุ่นใหม่หลายคนให้ความสนใจ มากกว่าการทำงานประจำ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้หลายองค์กรเริ่มหันมาให้ความสำคัญในเรื่องการจัดสรร “สวัสดิการ” ให้แก่คนทำงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการดึงดูดใจให้คนอยากเข้ามาทำงานกับองค์กร และเพื่อรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพ

คุณแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ “JobThai” เผยข้อมูล “สวัสดิการเด่นของ 4 ประเภทองค์กรในไทยที่มอบให้พนักงาน” โดยได้ทำการสำรวจจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรในประเทศไทย จำนวน 457 คน ว่าองค์กรแต่ละประเภทจะมีสวัสดิการเด่นที่มอบให้พนักงานในเรื่องอะไรกันบ้าง ?!?

 

“องค์กรรัฐวิสาหกิจ” จ่ายโบนัสงาม – สวัสดิการสุขภาพเด่น

 

5 สวัสดิการแรกที่ “องค์กรประเภทรัฐวิสาหกิจ” ได้จัดสรรให้กับพนักงาน ได้แก่ 1. โบนัส / 2. ตรวจสุขภาพประจำปี / 3. ค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว / 4. เงินกู้ยืม / 5. ค่าล่วงเวลา

สำหรับสวัสดิการที่โดดเด่นขององค์กรประเภทรัฐวิสาหกิจ คือ “สวัสดิการด้านสุขภาพ” เนื่องจากเป็นองค์กรที่รัฐบาลถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ จึงมีการจัดสรรสวัสดิการเกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพเช่นเดียวกับหน่วยงานราชการ ซึ่ง “สวัสดิการด้านสุขภาพ” สามารถดึงดูดให้คนอยากเข้ามาทำงานในองค์กรประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการที่น่าสนใจ อย่างรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้พนักงาน มีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ

ขณะที่พนักงานในองค์กรประเภทนี้ ได้ให้ความสำคัญกับ วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด / โบนัส / ประกันสุขภาพ / ประกันสังคม / ค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว ตามลำดับ

Resize Jobthai_บทความสวัสดิการองค์กรและพนักงาน_รัฐวิสาหกิจ

 

“องค์กรเอกชนไทย” ไม่ใช่แค่จ่ายโบนัส-โอที แต่ต้องมีจัดอบรม พัฒนาทักษะพนักงาน

 

องค์กรประเภทนี้ เป็นองค์กรที่มีการแข่งขันในการสรรหาบุคลากรค่อนข้างสูง จึงให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิการของพนักงานเป็นอย่างมาก

5 สวัสดิการแรกที่องค์ประเภทนี้ได้จัดสรรให้กับพนักงาน ได้แก่ 1. โบนัส / 2. ค่าล่วงเวลา / 3. เงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล / 4. เบี้ยขยัน / 5. เงินสนับสนุน เช่น งานแต่งงาน งานอุปสมบท

นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรสวัสดิการที่โดดเด่นจากองค์กรประเภทอื่น ๆ เช่น จัดคอร์สอบรมและพัฒนาความรู้ให้แก่พนักงานภายในออฟฟิศ ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น และยังสามารถมัดใจให้บุคลากรที่มีศักยภาพอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ ด้วย

ในขณะที่พนักงานขององค์กรเอกชนไทยได้ให้ความสำคัญกับสวัสดิการด้านวันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด / โบนัส / ประกันสังคม / ประกันสุขภาพ / ค่าล่วงเวลา ตามลำดับ

Resize JobThai_บทความสวัสดิการองค์กรและพนักงาน_เอกชนไทย

 

“องค์กรประเภทเอกชนต่างชาติ” มีสวัสดิการเด่นที่ส่งพนักงานไปศึกษางานต่างประเทศ

 

องค์กรในกลุ่มนี้ ได้มีการจัดสรรสวัสดิการให้กับพนักงานอย่างรอบด้าน ได้แก่ 1. โบนัส / 2. สถานที่ออกกำลังกายภายในออฟฟิศ / 3. ห้องรักษาพยาบาลเบื้องต้นภายในออฟฟิศ / 4. ส่งพนักงานไปอบรม หรือศึกษาดูงานต่างประเทศ / 5. เงินกู้ยืม

ด้วยความที่องค์กรต้องมีการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นสวัสดิการเด่นขององค์กรประเภทนี้ก็คือ “การส่งพนักงานไปอบรมหรือศึกษาดูงานต่างประเทศ” ถือเป็นสวัสดิการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของพนักงานเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี

ส่วนพนักงานในองค์กรประเภทนี้ได้ให้ความสำคัญกับโบนัส / วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด / ประกันสุขภาพ / ประกันสังคม / ค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว ตามลำดับ

Resize JobThai_บทความสวัสดิการองค์กรและพนักงาน_เอกชนต่างชาติ

 

“สตาร์ทอัพ” เด่นที่เวลาทำงานยืดหยุ่น-พื้นที่สันทนาการในบริษัท

 

องค์กรประเภทสตาร์ทอัพ (Startup) เป็นองค์กรประเภทใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จะต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ดังนั้นกลุ่มคนทำงานในองค์กรประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิด หรือวิธีการทำงานที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ

โดยองค์กรประเภทสตาร์ทอัพ ได้จัดสรร 5 สวัสดิการแรกให้กับพนักงาน ได้แก่ 1. โบนัส / 2. วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด / 3. เบี้ยขยัน / 4. ประกันสังคม / 5.กิจกรรมสันทนาการ ซึ่งอาจจะไม่ได้แตกต่างกับองค์กรประเภทอื่น

แต่ที่โดดเด่น คือ มีการจัดสรรสวัสดิการในเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ (Flexible Hour) รวมถึงมีสวัสดิการเกี่ยวกับพื้นที่สันทนาการในออฟฟิศให้พนักงานได้พักผ่อนหย่อนใจในระหว่างการทำงาน อาทิ พื้นที่เล่นเกม เล่นกีฬา และเล่นดนตรี เป็นต้น

สอดคล้องกับการสำรวจของฝั่งพนักงานที่ทำงานในองค์กรประเภทนี้ พบว่าพวกเขาให้ความสำคัญในเรื่องเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ (Flexible Hour) มาเป็นอันดับแรก เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่มองว่าโลกปัจจุบันที่ไร้พรมแดนทั้งด้านการสื่อสาร เวลา และสถานที่ ทำให้สามารถทำงานและมีชีวิตส่วนตัวที่สมดุลกันได้ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพของตัวงานมากกว่าการกำหนดเวลาเข้า-ออกงาน

นอกจากนี้ พนักงานยังให้ความสำคัญกับสวัสดิการด้านโบนัส / วันหยุด-วันลา ตามกฎหมายกำหนด / ประกันสุขภาพ / การทำงานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ (Mobile Working) ตามลำดับ

Resize JobThai_บทความสวัสดิการองค์กรและพนักงาน_Startup

 

“โบนัส – วันหยุด & วันลา – สวัสดิการสุขภาพ” 3 สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนต้องการมากสุด!

 

จากผลสำรวจข้างต้นจะเห็นว่าความต้องการด้านสวัสดิการจากฝั่งพนักงานทั้ง 4 ประเภทองค์กรนั้น สวัสดิการเรื่องโบนัส และวันหยุด-วันลาตามกฎหมายกำหนด ยังคงเป็นสวัสดิการที่คนทำงานทุกองค์กรให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งสวัสดิการที่คนทำงานทุกประเภทองค์กรต้องการเหมือนกัน ได้แก่ สวัสดิการด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุ สืบเนื่องจากคนทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้คนทำงานอาจมีพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ เช่น การทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ตลอดจนความเครียดที่เกิดจากการทำงาน

ดังนั้น การดูแลสุขภาพของคนทำงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนี้หากองค์กรสามารถจัดสรรสวัสดิการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในยุคปัจจุบันได้ ก็จะช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาทำงานกับองค์กร และยังช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานที่ดีขึ้นได้อีกด้วย


  • 239
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ