4 บทเรียนโซเชียลมาร์เกตติ้งที่เราได้เรียนรู้จากปี 2013

  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  

journal

ปีที่แล้วถือเป็นปีทองของมาร์เก็ตติ้งบนโซเชียลมีเดียเนื่องจากหลายเอเจนซีเริ่มตระหนักแล้วว่าโลกออนไลน์สามารถเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับลูกค้ากลุ่มใหญ่ในเกือบทุกอุตสาหกรรม (แถมมีค่าใช้จ่ายน้อยอีกต่างหาก) วาระเบิกฟ้าใหม่ปี 2014 จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะรีวิวบทเรียนสำคัญ 4 บทเรียนจากปีที่แล้ว มีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามการรายงานของ Creative Guerrilla Marketing ได้เลยครับ

 

1. Visual Content กำลังมา

ปีที่แล้วเราเห็นชัดเจนว่ากระแส Pinterest, Instagram และ Tumblr กำลังพัดขึ้นฝั่งอย่างรุนแรง สันนิษฐานว่าโซเชียลเนคเวิร์กเหล่านี้เข้ากับธรรมชาติของผู้ใช้ที่ตอบสนองกับรูปภาพมากกว่าข้อความ รูปภาพที่ดีจะช่วยส่งต่อความคิดของผู้เผยแพร่และยังเป็น “อาหารตา” ที่ช่วยให้พวกเขาพักสมองจากความเหนื่อยล้า ด้านโซเชียลเนคเวิร์กเก่าก็มีการปรับตัว อย่าง Twitter ที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นกขี้บ่นเริ่มอนุญาตให้โพสต์รูปภาพหรือวีดีโอได้แล้ว เพื่อให้สื่อมองเห็นได้พวกนี้ประกอบข้อความ

 

2. แค่ Facebook และ Twitter อาจไม่พอ

การโปรโมทแบรนด์ในโลกปัจจุบันไม่สามารถทำบนช่องทางเดียวได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นมากมายเริ่มแย่งเค้กลูกค้าโซเชียลมีเดียเดิม ผนวกกับความเบื่อหน่ายเพจเดิมๆ ของผู้บริโภค เช่น Pinterest ที่ประสบความสำเร็จในหลายธุรกิจ แบรนด์ในโลกอนาคตจึงน่าจะประชาสัมพันธ์ตัวเองนอกเหนือจาก Facebook และ Twitter ดีกว่า

 

3. การ “แชร์” ผ่านโซเชียลเนคเวิร์กเพิ่มความสำคัญมากขึ้น

ในปี 2013 เราพบว่าการ likes, tweets, +1s และ pins มีผลกระทบต่อผู้บริโภคมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา นอกจากการแชร์จะช่วยส่งต่อโพสต์ของคุณให้กระจายในวงกว้างแล้ว ยังช่วยให้เกิดไวรัลด้วยบรรยากาศแบบ “เพื่อนบอกเพื่อน” ที่สร้างความน่าเชื่อถือและน่าสนใจให้กับโพสต์ของคุณ ดังนั้น โพสต์ในอนาคตของคุณอาจต้องคิดถึงออฟชั่นการแชร์ให้มากขึ้น (คือเมื่อถูกส่งต่อแล้ว เนื้อหายังคงครบถ้วน หรือมีปุ่ม “แชร์” ให้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน)

 

4. ฝึกฝนการตลาดบนโซเชียลมีเดียถือเป็นเรื่องจำเป็น

บริษัทของคุณควรเริ่มส่งบุคคลากรไปฝึกทักษะด้านโซเชียลมีเดียได้แล้ว! เนื่องจากวิธีการโพสต์ การสร้าง traffic และการจับใจผู้อ่านในโลกออนไลน์มีความแตกต่างกับโลกออฟไลน์ค่อนข้างเยอะ หากคุณละเลยการฝึกอบรมคนในบริษัทของคุณให้เชี่ยวชาญเรื่องนี้แล้วฝืนไปทำตามกระแส ระวังว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของถ้อยคำบางคำ หรือภาพบางภาพอาจกลายเป็นไวรัลที่ทำลายชื่อเสียงนานหลายทศวรรษของบริษัทคุณได้

 

แล้วคุณในฐานะมาร์เกตเตอร์มืออาชีพล่ะมีอะไรแนะนำเราบ้าง! แชร์ไว้ที่คอมเมนท์ได้เลยครับ

 


  • 6
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง