[ข่าวประชาสัมพันธ์]
“บีทูเอส” (B2S) ทุ่มงบ 400 ล้านบาท ตั้งเป้าสวนกระแสเศรษฐกิจเติบโต 350 ล้านบาทภายใน 1 ปี สร้างร้านคอนเซ็ปต์ใหม่แห่งแรกในไทย ธิงค์สเปซ บีทูเอส (Think Space B2S) พลิกโฉมร้านหนังสือครบวงจรสู่การเป็น “พื้นที่ความคิดที่สร้างแรงบันดาลใจ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.” พร้อมเปลี่ยนบีทูเอสให้เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ ที่สอดคล้องและตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ให้เป็นศูนย์กลางเธิร์ดเพลสที่ไม่ใช่ที่บ้านหรือที่ทำงาน แต่เป็นแหล่งของการพบปะสังสรรค์รูปแบบใหม่ของผู้คนที่มีความสนใจชื่นชอบในเรื่องราวที่เหมือนหรือต่างกัน ให้พื้นที่นี้เป็นจุดที่เริ่มต้นความคิดเติมแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน บีทูเอสจึงคัดสรรสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดยแบ่งเป็น 5 สเปซแห่งแรงบันดาลใจ ได้แก่ Lifestyle Book Space , Art x Idea Space, Entertainment Space, Play x Learn Space และ Networking Space พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ (โซน Foodville)
สมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีทูเอส จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่เราอยู่เคียงคู่ลูกค้าตลอดมา บีทูเอส เป็นเพียง รีเทลบุ๊ค มิวสิค แอนด์ สเตชั่นเนรีสโตร์ ที่ขายหนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์อาร์ตและสินค้าเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ในรูปแบบฟังก์ชั่นตรงตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่ปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้บีทูเอส ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนานำเสนอสิ่งใหม่ เราต้องการเป็นมากกว่าร้านหนังสือ จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เกิดเป็นโปรเจคในคอนเซปต์ CURATORIAL LIFESTYLE BOOK STORE รูปแบบใหม่ร่วมกันที่ชื่อว่า “ธิงค์สเปซ บีทูเอส” (Think Space B2S)”
ธิงค์สเปซ บีทูเอส เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับคนที่ไม่หยุดที่จะชอบค้นหาตัวเอง ค้นหาอารมณ์ที่จะใช้สร้างแรงบันดาลใจ โดยธิงค์สเปซบีทูเอส มีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มครอบครัว, ครีเอทีฟ, ฟรีแลนซ์, นักเรียน-นักศึกษา, คนทำงาน ตลอดจนผู้บริหาร โปรเจค “ธิงค์สเปซ บีทูเอส” (Think Space B2S) มีจุดเริ่มต้นมาจากเทรนด์การจับจ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บีทูเอสต้องทำให้การจับจ่ายช้อปปิ้งของลูกค้าจะเป็นมากกว่าแค่การไปซื้อของ วงการค้าปลีกต้องปรับตัวโดยการเน้นเรื่องการให้อารมณ์และประสบการณ์ของลูกค้าที่จะได้รับมากขึ้น ไม่ใช่ตอบโจทย์แค่การมีสินค้ามาขายอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้ บีทูเอส จึงสร้างจุดเปลี่ยนในการใช้ชีวิตของลูกค้าให้ง่ายขึ้น ด้วยการเริ่มจากการคัดสรรสินค้าและบริการ แบ่งตามไลฟ์ไตล์ของลูกค้าเป็นหลัก จัด Merchandising Mix และดิสเพลย์สินค้าในอารมณ์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องแต่ละไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เติมการเชื่อมต่อของอารมณ์ด้วยคอนเทนต์ต่างๆ ที่เสริมให้บรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าแตกต่างจากที่อื่น อีกทั้งยังเป็นโปรเจคที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างแลนด์มาร์ก “Book Terraces” ภูเขาหนังสือที่มีการดีสเพลย์หนังสือมากกว่าแสนเล่ม บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ซึ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบีทูเอสตั้งใจสร้างร้านนี้ให้เป็นร้านสโตร์คอนเซปต์แห่งแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ที่ลูกค้าสามารถค้นพบ “ไลฟ์สไตล์” ของตัวคุณเอง ได้จากที่นี่
นายสมชัย กล่าวต่อว่า “ธิงค์สเปซ บีทูเอส มีพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. โดยแบ่งพื้นที่เป็นทั้งหมด 2ชั้นครึ่ง โดยมีพื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็น ชั้น 1 พื้นที่รวมกว่า 1,000 ตรม. ชั้นลอยที่ 1 และชั้นลอยที่ 2 พื้นที่รวมกว่า 300 ตรม. และ ชั้น2 พื้นที่รวม 1,700 ตรม. ถูกออกแบบให้เปิดโล่ง ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยประสบการณ์ใหม่ เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถใช้เวลาได้ตลอดทั้งวันในการอ่านหนังสือเล่มโปรด พบปะผู้คนใหม่ๆ และค้นหาแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว”
โดยครั้งนี้ บีทูเอส และ เซ็นทรัลพัฒนา ได้รับเกียรติจากบริษัท KLEIN DYTHAM ARCHITECTURE (KDa) บริษัทดีไซน์เนอร์ด้านการออกแบบชั้นนำระดับโลกที่ได้เป็นผู้ดีไซน์และออกแบบคอนเซปต์สโตร์ รวมทั้งดีไซน์สถาปัตยกรรมต่างๆ ในพื้นที่ของธิงค์สเปซ บีทูเอสสาขานี้ ทำให้บีทูเอสได้พลิกโฉมใหม่ในครั้งนี้ และเรายังได้ร่วมกับบริษัท M&A Architecture บริษัทดีไซน์และออกแบบสถาปัตยกรรมชื่อดังของเมืองไทย ในการออกแบบก่อสร้างเพื่อให้โครงการ ธิงค์สเปซ บีทูเอส เสร็จสิ้นได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งถือได้ว่า ธิงค์สเปซ บีทูเอส เป็นโครงการแรกในไทย ที่มีพื้นที่เธิร์ดเพลสสร้างแรงบันดาลใจที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ โดย KDa ดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบตั้งใจดีไซน์ให้ ธิงค์สเปซ บีทูเอส เป็นร้านหนังสือที่ให้อารมณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ จึงเลือกคอนเซ็ปต์การใช้ เนเชอรัล วู๊ดส์ เป็นโครงสร้างหลักของสถาปัตยกรรม และการใช้ต้นไม้จริงในพื้นที่ร้าน รวมถึงมีพื้นที่มุมสงบ สำหรับการมองเห็นและการได้ยินของลูกค้า ทำให้มีอรรถรสในการเลือกสินค้าได้มากยิ่งขึ้น จึงเลือกใช้พรมที่ทำให้ไม่เกิดเสียงดังก้องและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ประกอบกับใช้แสงธรรมชาติเป็นหลัก แทนการใช้หลอดไฟนีออน ภายในแบ่งพื้นที่เป็น อินสปายเรชั่น 5 สเปซหลัก เริ่มจาก
1.LIFESTYLE BOOK SPACE
พื้นที่ Book Terraces ภูเขาหนังสือไทยและต่างประเทศมากกว่าแสนเล่ม และยังแบ่งพื้นที่ย่อยได้อีกถึง 12 ไลฟ์สไตล์โซน โดยแบ่งเป็น ชั้นที่ 1 ประกอบไปด้วย Travel, Leisure, Craft ในส่วนของชั้นลอยที่ 1 จะเป็นโซน Smart, Wisdom, ชั้นลอยที่ 2 จะเป็นโซน Fiction และชั้นที่ 2 จะเป็นโซน Cookery, Entertainment etc.,Art & Design, Study, Work และ Family
2.ART X IDEA SPACE
พื้นที่เสพงานศิลป์สำหรับคนรักงานอาร์ต โดยจะมีผลงานของศิลปินคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ มีสเปซสำหรับสินค้าดีไซน์ที่ได้รางวัลไม่ว่าจะเป็น Furniture Design, Design Stationery และ Office Accessories
3.ENTERTAINMENT SPACE
พื้นที่รังสรรค์สุนทรียภาพสร้างอารมณ์ทั้งหนังและเพลง ให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอและพบกับห้อง Music Room ที่รวบรวมหนังและเพลงครบทุกประเภท ทั้งไทยและต่างประเทศที่หายาก นอกจากนี้ยังสร้างเฟรมใหม่เอาใจนักฟังแผ่นเสียง และเครื่องเล่นไวนิล มีให้เลือกครบครันที่สุด ทั้งยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมการฟังดนตรีในยุคร่วมสมัย จาก อนาล็อค สู่ ดิจิตัล และทั้งนี้ยังมีร้านครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม B&O Play by Bang & Olufsen ร่วมเติมเต็มให้ลูกค้าหลงไหลเสน่ห์ของสเปซนี้ยิ่งขึ้น
4.PLAY X LEARN SPACE
แหล่งรวมโรงเรียนสอนทักษะเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและเสริมจินตนาการให้กับลูกน้อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ชั้น 2 โซน Family และ 8 สถาบันแห่งการเรียนรู้ ได้แก่ Clayworks, Chefutown , Babies Genius, Kinderprep by Ivy Bound International School, I Genius, Helen Doron English, Yamaha Music School และ A Little Something
5.NETWORKING SPACE
พื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิดและต่อยอดไอเดียใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แบ่งบันประสบการณ์ Start Up เริ่มต้นสร้างแนวคิดธุรกิจ สร้างมิตรภาพ ก่อให้เกิดคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนต่างๆ ได้มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมหรือธุรกิจต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งโซนนี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 ของร้าน จะเป็นการเติมเต็มคำว่าไลฟ์สไตล์เธิร์ดเพลสได้อย่างลงตัว กับพื้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตลูกค้า เช่น Co-Working Space เป็นสเปซที่รองรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ในการนั่งทำงาน คิดงาน เจรจาธุรกิจได้อย่างสะดวก และได้มีการผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง AIS ที่ให้บริการอินเตอร์เนตฟรีในพื้นที่ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับร้านอาหาร COVER ll COVER Eat & Drink ที่เป็นร้านคอลลาโบเรชั่นโปรเจคร่วมกันระหว่าง “ธิงค์สเปซ บีทูเอส x เชฟพล ตัณฑเสถียร รวมถึงร้านคาเฟ่จากบาริสต้าชื่อดัง Amatissimo” ในคอนเซปต์ร้านอาหารและคาเฟ่รูปแบบใหม่ที่มีคอนเซปต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูและหนังสือทำอาหารที่อยู่ภายในร้านบีทูเอส เพื่อให้ผู้รักการอ่านสามารถลิ้มรสชาติอาหารที่ออกมาจากหนังสือ โดยทีมงานเชฟมืออาชีพ โดยทั้งนี้ Networking Space ยังได้รวมในส่วนพื้นที่ของร้านกาแฟรสชาติที่คุ้นเคยอย่าง Starbuck ไว้ที่ชั้น 1 เพื่อรองรับการพบปะ การเจรจาธุรกิจของลูกค้าให้ไม่ติดขัด และมีพื้นที่ในการเชื่อมต่อทุกคอนเนคชั่นอย่างทั่วถึงภายในร้าน ธิงค์สเปซ บีทูเอส ที่ตอบโจทย์การทำงานนอกสถานที่ครบวงจรให้สมกับคอนเซปต์ที่ว่า “Where Ideas Inspire.”
การพลิกโฉมบีทูเอส จากร้านหนังสือเดิมๆ สู่การเป็น Curatorial Lifestyle Bookstore เราไม่ได้มีแค่พื้นที่ที่ดึงดูดลูกค้าเท่านั้น แต่เรายังมีการคัดสรร (Curate) หนังสือและสินค้าไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ชั้นนำอยู่ในทุกโซน อาทิ หนังสือต่างประเทศที่หลากหลาย และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า โดยไม่ต้องสั่งซื้อทางอินเตอร์เนต หรือเดินทางไปถึง เช่นหนังสือเด็ก ศิลปะ การออกแบบ เป็นต้น
สำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์ เรามีแบรนด์ชั้นนำให้ลูกค้าได้เลือกสรร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์ที่ได้รับรางวัล G-mark และ D-mark อาทิ แบรนด์ Hay, Labrador, Midori ,Pracht สินค้าเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หลากหลายแบรนด์ อาทิ TIMMER, ALLTAG, EVERYDAY, HARI ORA, STUDIO 248 หรือเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ด้าน wellness อย่างแบรนด์ของ DEESAWAT และที่พิเศษกว่าที่ไหนคือ สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่กำลังมาแรงในร้านเรา คือ แบรนด์ Thinkin’ แบรนด์ที่ให้แรงบันดาลใจของคนช่างคิด มีจำหน่ายเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น เปิดตัวสินค้าเฟสแรกด้วย 4 ไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับคอนเซปต์ของร้านธิงค์สเปซ บีทูเอส โดยสินค้าทุกชิ้นจะมีคำสร้างแรงบันดาลใจเพื่อเติมเต็มแพชชั่นให้ทุกไลฟ์สไตล์สุดฮิตของคนรุ่นใหม่
นายสมชัย กล่าวตอนท้ายว่า ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาด บีทูเอสทุ่มงบกว่า150ล้านบาทในการสร้างการรับรู้แบรนด์ธิงค์สเปซ บีทูเอสเสมือนการได้สร้างแบรนด์บีทูเอสไปในตัว ในคอนเซปต์ “CULTURAL ART INSPIRE CAMPAIGN” เพราะบีทูเอสเชื่อว่า ความเป็นอาร์ตจะช่วยสร้างอารมณ์ และช่วยเติมเต็มได้ในทุกแรงบันดาลใจ ในส่วนการทำการตลาดของที่นี่ จึงแตกต่างจากที่อื่น เพราะในทุกการสื่อสารการตลาดและกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เราจะมีอาร์ตเป็นตัวเชื่อมในทุกแรงบันดาลใจ และเชื่อมอารมณ์ส่งต่อให้ลูกค้า เนื่องจากการเสพสื่อของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปยังช่องทางออนไลน์มากขึ้น บีทูเอสจึงปรับสัดส่วนการใช้งบทางการตลาด แบ่งเป็นออนไลน์ 70 และออฟไลน์ 30 เปอร์เซนต์ โดยในวันนี้ก็ได้มีการเปิดตัวหนังโฆษณาทางออนไลน์ หรือ เว็บฟิล์มตัวแรกออกสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ภายใต้คอนเซปต์ “Where Ideas Inspire” เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้รับรู้วัตถุประสงค์ ในการมุ่งเน้นการสร้างพื้นที่ความคิด ที่สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษหลากหลายรูปแบบ เช่น Thailand First Book Launch กิจกรรมเปิดตัวหนังสือสุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งแรกในเมืองไทย ประเดิมงานแรกด้วยการเปิดตัวหนังสือต่างประเทศ ซึ่งทางบีทูเอสได้รับเกียรติในการเปิดตัวหนังสือ “Rijks, Masters of the Golden Age” ซึ่งเป็นโปรเจคคอลลาโบเรชั่นแห่งปีของดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก Marcel Wanders กับ Rijksmuseum นำผลงานชิ้นเอกกว่า 60 ภาพที่เคยอยู่ในRijksmuseum’s prestigious Gallery of Honour รวบรวมเป็นหนังสือทำมือเล่มพิเศษที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนและใช้ระยะเวลาในการผลิตยาวนานกว่า 3 ปี “This book is about how the greatest masterpieces influence how we see the world today,” Marcel Wanders กล่าว หนังสือเล่มนี้รวบรวมผลงานที่เป็นไอคอนของโลกเอาไว้เช่น Rembrandt’s Night Watch and Vermeer’s Milkmaid ด้วยเทคนิคการพิมพ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ใกล้เคียงกับภาพวาดจริง
ธิงค์สเปซ บีทูเอสยังมีกิจกรรมอินสปายเรชั่นทอล์กกับเหล่านักคิด Artists หรือ Thinkers ชั้นนำของเมืองไทย ที่จะมาแลกเปลี่ยนทความคิด และร่วมสร้างสรรค์ผลงานพิเศษร่วมกัน รวมถึงการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปคราฟท์แอนด์อาร์ต โดยลูกค้าที่เข้ามาที่นี่ จะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ทั้งรูปแบบและกิจกรรมที่ตอบโจทย์ในความเป็นอาร์ตได้อย่างลงตัว สำหรับสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ย. 59 ลูกค้าสมาชิกบัตรเดอะวันการ์ด รับส่วนลดและคะแนนสะสม The1Card x2 คุ้มสูงสุด 40% ใน 5 Lifestyle Zone พร้อมรับสิทธ์แลกซื้อสินค้าแบรนด์ Thinkin สูงสุด 50% ผ่อนนาน 0% 10 เดือน
พิเศษสุด เตรียมพบกับโปรโมชั่นปลายเดือน ก.ค.นี้ กับแคมเปญ Live with Think เมื่อช้อปสินค้าภายใน Think Space ครบ 1,000 บาท รับคูปองเพื่อลงทะเบียน ลุ้นรับของรางวัล พร้อม Exclusive Workshop กับ Thinker ชื่อดังทั้ง 5 Lifestyle รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าเอไอเอส และเอไอเอสเซเรเนด เพียงกดรับสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด 100 บาท รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 15% หากเป็นสมาชิกบัตร The 1 Card เมื่อใช้คะแนนแลกรับสิทธิประโยชน์ นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้า 10,000 ท่านแรกที่กดไลค์เฟสบุ๊คแฟนเพจ www.facebook.com/thinkSpaceB2S เพียงเช็คอินพร้อมโพสต์อินสปายเรชั่นที่คุณได้รับจากที่ร้าน ธิงค์สเปซ บีทูเอส มาแสดงที่หน้าร้าน รับของรางวัลพิเศษทันที ตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ค 59 นี้เท่านั้น
ทางด้าน คุณกันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานการตลาดสาขา และบริหารงานลูกค้า ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า THINK SPACE B2S เป็นหนึ่งในสถานที่ไฮไลท์ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Bangkok Escape” โดยผู้คนสามารถหลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่เพียงแค่เข้ามาใช้พื้นที่ทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบได้ที่นี่ นอกจากคอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ซึ่งกันและกันแล้ว ยังมีความสอดคล้องด้านการออกแบบที่เข้ามาเติมเต็มความครบครันให้เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ที่ THINK SPACE B2S เปรียบได้กับย่าน “โอโมเตะซันโดะ” ในโตเกียว ซึ่งเป็นย่านที่มีทั้งแฟชั่น ศิลปะ บาร์ คาเฟ่ คลับ ร้านหนังสือ และแกลเลอรี่ ที่ซึ่งผู้คนหลากหลายไลฟ์สไตล์แต่งแต้มสีสันของชีวิตร่วมกัน ผสานสู่ความเป็นย่านอาร์ติส เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ และเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ออกแบบเพื่อเป็น Bangkok Escape ได้อย่างสมบูรณ์ ตอบรับความต้องการของชีวิตคนเมืองครบวงจร… เพราะชีวิตไม่ได้ต้องการเพียงบ้านและที่ทำงาน แต่ยังต้องการ “พื้นที่พิเศษสำหรับค้นหาความคิด และเติมเต็มแรงบันดาลใจ” THINK SPACE B2S พร้อมแล้วสำหรับผู้ค้นหาแรงบันดาลใจทุกท่าน พบกัน ณ CentralFestival Eastville @Foodville zone
[ข่าวประชาสัมพันธ์]