ซัมซุงเปิด “เทศกาลอาสาสมัครซัมซุงโลก 2015” ชวนพนักงานทั่วโลกทำกิจกรรมอาสาฯ

ไทยซัมซุงโดดร่วมวงกับโครงการ “Samsung Make a Wish – ซัมซุงสานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง” จับมือพาร์ทเนอร์ลงพื้นที่ ณ โรงเรียนบ้านสระตะเคียน โคราช

ซัมซุงชวนพนักงานทั่วโลกทำกิจกรรมอาสาฯ เนื่องใน “เทศกาลอาสาสมัครซัมซุงโลก (Samsung Global Volunteer Festival 2015)” ในเดือนตุลาคมของทุกปี ฝั่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย เปิดตัวโครงการเพื่อสังคมระดับภูมิภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด “Love and Care” รวบรวมพนักงานซัมซุงจาก 10 ประเทศ ลงพื้นที่ทำกิจกรรมอาสาสมัคร ณ โรงเรียนสงฆ์ปานโยเลท ในเขตพะโค ประเทศเมียนมาร์ เพื่อมอบอาหาร เครื่องเขียน และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟให้กับเด็กนักเรียนกว่า 400 คน ด้านไทยซัมซุง ล่าสุดร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตและคู่ค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งมอบโครงการ “Samsung Make a Wish – ซัมซุงสานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง” ครั้งที่ 2 พาอาสาสมัครกว่า 60 คนลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ณ โรงเรียนบ้านสระตะเคียน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเร็วๆ นี้

ซัมซุงริเริ่ม “เทศกาลอาสาสมัครซัมซุงโลก” ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 นับเป็นเวลาต่อเนื่องถึง 20 ปีที่ ซัมซุงได้ส่งเสริมให้พนักงานแบ่งเวลามาร่วมทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครในกิจกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาสังคมต่างๆ โดยใช้ความสามารถของตนในการสร้างสรรค์และผลักดันสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในชุมชนแต่ละท้องถิ่นที่พวกเขาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ โดยกำหนดให้เดือนตุลาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งการทำกิจกรรมอาสาฯ ของสำนักงานซัมซุงทั่วโลก ซึ่งปีล่าสุดมีอาสาสมัครซัมซุงจากทั่วโลกมาเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 170,000 คน

โครงการ Samsung Love and Care ถือเป็นโครงการเพื่อสังคมระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของซัมซุงที่ได้จัดกิจกรรมอาสาฯ ระดับภูมิภาค โดยรวบรวมอาสาสมัครจาก 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ได้แก่ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เมียนมาร์ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย โดยนางสาวไอรีน อึ๊ง รองประธานฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนประเทศเมียนมาร์เพื่อใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับเด็กๆ โดยโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อนำองค์ความรู้ที่เรามีมาแบ่งปันสู่เด็กๆ ผ่านการทำกิจกรรมการเรียนรู้แบบอินเตอร์แอคทีฟด้วยเทคโนโลยีของซัมซุง พร้อมทั้งพาทีมอาสาสมัครจากทั่วภูมิภาคลงพื้นที่สร้างสรรค์ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย”

ในฐานะที่เป็นองค์กรพลเมืองโลก ซัมซุงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถใช้เครือข่ายของซัมซุงทั่วโลกและนวัตกรรมอันล้ำหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นให้กับมนุษยชาติ เพื่อให้ผู้คนได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปณิธานอันแรงกล้าของซัมซุงที่มุ่งมั่นมอบโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วโลกได้เข้าถึงการศึกษาและได้รับโอกาสด้านการศึกษาที่ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ ของซัมซุง

สำหรับในประเทศไทย ซัมซุง นำโดย นายฉัตรชัย สันตติอนันต์ รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และ นางสาวศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร จับมือใต้ฟ้าซิตี้ คู่ค้าคนสำคัญในจังหวัดนครราชสีมา และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ส่งมอบโครงการ “Samsung Make a Wish – ซัมซุงสานฝัน แบ่งปันเพื่อน้อง” ครั้งที่ 2 ณ โรงเรียนบ้านสระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พร้อมทีมอาสาสมัครกว่า 60 ชีวิตลงพื้นที่ปรับปรุงโรงอาหาร ห้องปฐมพยาบาล สนามเด็กเล่นของโรงเรียน และปลูกผักสวนครัวและไม้ผลสำหรับโครงการเกษตรอาหารกลางวัน ตลอดจนการสนับสนุนด้านงบประมาณที่จะช่วยสานฝันให้กับเด็กๆ ให้ได้รับโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และมีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ และยังคงมุ่งมั่นสานต่อโครงการเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือเด็กนักเรียนและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลต่อไป

นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้สร้างสรรค์กิจกรรมตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในองค์กรพลเมืองดีของโลก โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการศึกษาและการฝึกงานของเยาวชนผ่านการใช้เทคโนโลยี บริการ และความรู้ความเชี่ยวชาญของซัมซุง สำหรับประเทศไทย ซัมซุงได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่เน้นด้านการพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาของเยาวชน รวมทั้งการสร้างคุณค่าให้กับวัฒนธรรมของชาติ ดังนี้ โครงการซัมซุงสร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต (Samsung Smart Learning Center) โครงการจุฬาฯ – ซัมซุง โซโน สคูล (CU-Samsung SONO School) และโครงการซัมซุง คัลเจอร์ คอนเน็คท์ (Samsung Culture.Connect) โดยแต่ละโครงการ ซัมซุงได้มีส่วนช่วยในการมอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างซัมซุงและสังคมทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แท้จริง