[ข่าวประชาสัมพันธ์]
- สัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่สำหรับโรลส์-รอยซ์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอนาคต
- Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่กำลังจะเปิดตัวเป็นยนตรกรรมที่มีแอโรไดนามิกที่ดีที่สุดของแบรนด์ในขณะนี้
- การออกแบบใหม่มีส่วนทำให้ยนตรกรรมต้นแบบมีค่าแรงเสียดทานอากาศ (cd) อยู่ที่เพียง 26
- ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการใช้เวลา 830 ชั่วโมง รวมการสร้างแบบจำลองและการทดสอบอุโมงค์ลม
- ในเวลาเดียวกัน Muse โครงการศิลปะของโรลส์-รอยซ์ประกาศรายชื่อคณะกรรมการตัดสินโครงการ Spirit of Ecstasy Challenge
- Spirit of Ecstasy Challenge เชิ้อเชิญศิลปินมาสร้างสรรค์ผลงานสิ่งทอที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปปั้นหญิงสาว
- เมื่อ 111 ปีที่แล้ว Spirit of Ecstasy ได้รับการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาของโรลส์-รอยซ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454
“The Spirit of Ecstasy เป็นสัญลักษณ์ทางยานยนต์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ปรารถนามากที่สุดในโลก เป็นมากกว่าสัญลักษณ์ เธอเป็นศูนย์รวมของแบรนด์ของเรา และเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจอย่างต่อเนื่องสำหรับแบรนด์และลูกค้าของแบรนด์ เช่นเดียวกับแบรนด์ของเรา เธอเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเสมอมาโดยที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติและบุคลิกลักษณะของเธออย่างแท้จริง ในรูปโฉมใหม่เธอดูเพรียวบางและสง่างามมากกว่าที่เคย เป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะสมสำหรับยนตรกรรมที่มีแอโรไดนามิกที่ดีที่สุดเท่าที่โรลส์-รอยซ์เคยรังสรรค์มา และเพื่อสำหรับประดับบนฝากระโปรงหน้าของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในอนาคตของเรา”
Torsten Müller-Ötvös, Chief Executive Officer, Rolls-Royce Motor Cars
“วันนี้เมื่อ 111 ปีที่แล้ว Spirit of Ecstasy กลายเป็นส่วนสำคัญของโรลส์-รอยซ์อย่างเป็นทางการ เธอมาเพื่อเป็นตัวแทนของทิศทางทางจิตวิญญาณสำหรับแบรนด์ของเรา ลักษณะของเธอสื่อถึงแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอโน้มตัวไปข้างหน้า แสดงถึงการไล่ตามความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของเรา และชุดของเธอก็ปลิวไสวไปตามสายลมสะท้อนความเงียบสงบของยนตรกรรมของเราขณะเคลื่อนที่ สำหรับ Spectre และยนตรกรรมในอนาคต เธอจะย่อตัวต่ำลงและดูแน่วแน่มากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับความเร็วอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนและอนาคตที่น่าตื่นเต้นที่การปรากฏตัวของเธอจะเป็นตัวกำหนด”
Anders Warming, Director of Design, Rolls-Royce Motor Cars
Rolls-Royce ได้รังสรรค์ Spirit of Ecstasy โฉมใหม่อันเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ประดับบนฝากระโปรงหน้าของ Spectre ซึ่งเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เป็นเวลา 111 ปีนับตั้งแต่วันที่ Spirit of Ecstasy ได้รับการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาของโรลส์-รอยซ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454
รูปปั้นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยท่ายืนที่ย่อต่ำลงและดูทรงพลังมากขึ้นทำให้เธอมีความใกล้เคียงมากขึ้นกับภาพวาดต้นฉบับเมื่อครั้งในต้นศตวรรษที่ 20 โดยผู้ที่รังสรรค์เธอขึ้นมาครั้งแรก Charles Sykes นักวาดภาพประกอบและประติมากร นอกจากนี้ ยังเห็นรูปลักษณะทางกายภาพของเธอเป็นตัวแทนของ The Expression ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์
Spirit of Ecstasy ใหม่มีความสูงที่ 82.73 มิลลิเมตรเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ความสูง 100.01 มิลลิเมตร เสื้อคลุมของเธอซึ่งพัดปลิวไปด้านหลังตามกระแสลมที่เบาบาง มักจะมีลักษณะที่ผิดพลาดดูคล้ายว่าเป็น ‘ปีก’ ได้รับการปรับโฉมใหม่อย่างละเอียดเพื่อให้มีอากาศพลศาสตร์และดูสมจริงยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือท่ายืนของเธอ ก่อนหน้านี้เธอยืนเท้าชิดกัน ขาเหยียดตรงและโน้มตัวไปข้างหน้า ตอนนี้เธอเป็นเทพธิดาแห่งความเร็วที่แท้จริง โอบกอดสายลม ขาข้างหนึ่งก้าวไปข้างหน้า ย่อตัวต่ำลง ดวงตาของเธอจดจ่อไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีประโยชน์ทั้งในทางปฏิบัติและรูปแบบซึ่งเอื้อต่อคุณสมบัติแอโรไดนามิกที่โดดเด่นของSpectre ยนตรกรรมต้นแบบ Spectre รุ่นแรกสุดมีค่าแรงเสียดทานอากาศ (cd) เพียง 0.26 ทำให้เป็นยนตรกรรมที่มีแอโรไดนามิกที่ดีที่สุดเท่าที่โรลส์-รอยซ์เคยผลิตมา ตัวเลขนี้คาดว่าจะดีขึ้นในระหว่างการทดสอบยนตรกรรมต้นแบบอย่างละเอียดที่ดำเนินการในปีค.ศ 2022
การแสดงออกใหม่นี้รวบรวมแก่นแท้ของภาพวาดดั้งเดิมของ Charles Sykes แต่แทนที่จะแค่ ‘วาดใหม่’ หรือ ‘ออกแบบใหม่’ รูปร่างใหม่ของเธอได้รับการแกะสลักแบบจำลองดิจิทัลโดยนักออกแบบโมเดลที่ทำงานที่ Home of Rolls-Royce ผู้มีใจรักในการวาดภาพกับหุ่นจริงและประติมากรรม ประสบการณ์ของพวกเขาในด้านนี้มีคุณค่าอย่างมากในการพัฒนาลักษณะใบหน้าที่เหมือนจริงและสง่างามของรูปปั้น ตลอดจนการแสดงออกทางสีหน้าของเธอซึ่งผสมผสานความมุ่งมั่นและความสงบนิ่งเข้ากันได้อย่างชำนาญ ทีมนักออกแบบยังได้ปรึกษากับ
สไตลิสต์ที่กู้ดวูดสำหรับมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับทรงผม เสื้อผ้า ท่าทาง และการแสดงออกทางสีหน้าของเธอโดยเพิ่มกลิ่นอายความร่วมสมัยที่แท้จริงให้กับการปรากฏกายที่ทรงพลังและมีอำนาจของเธอ
ในขณะที่รูปปั้นทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นโดยใช้หนึ่งในเทคนิคการหล่อขึ้นรูปที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักในชื่อ ‘การหล่อขี้ผึ้งหาย’ หรือ ‘cire-perdue’ ซึ่งแต่ละชิ้นจะทำด้วยมือ ดังนั้น รูปปั้นแต่ละชิ้นจะมีความแตกต่างกัน เช่นเดียวกับการสานต่อธรรมเนียมปฏิบัติของโรลส์-รอยซ์ที่มีมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งปีค.ศ. 1939 มาสคอตเหล่านี้ถูกสร้างและขัดเงาโดย Charles Sykes เอง รูปปั้นของมนุษย์ที่บอบบางราวกับนางฟ้านี้สร้างความแตกต่างที่น่าดึงดูดใจให้กับยนตรกรรมที่มีความแม่นยำและได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสูงที่มีเธอประดับอยู่
แม้ว่าจะค่อนข้างเป็นไปได้ยากในยุคปัจจุบันแต่การเปลี่ยนแปลงของ Spirit of Ecstasy ได้เกิดขึ้นตลอดอายุขัย 111 ปีของเธอ เธอได้รับการปรับเปลี่ยนในขนาดและวัสดุต่าง ๆ และในช่วงเวลาสั้น ๆ ช่วงหนึ่งเธอถูกปรับให้อยู่ในท่าคุกเข่า เวอร์ชันใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับ Spectre จะปรากฏในยนตรกรรมรุ่นต่อไปในอนาคตทั้งหมด ทั้งนี้ ดีไซน์ปัจจุบันจะยังคงใช้กับยนตรกรรมPhantom, Ghost, Wraith, Dawn และ Cullinan รวมถึง Black Badge ยนตรกรรมในอีกบุคลิกของอีกตัวตนหนึ่งของโรลส์-รอยซ์
การแสดงออกทางศิลปะของสัญลักษณ์
ในขณะเดียวกัน Muse โครงการศิลปะของโรลส์-รอยซ์ ได้ประกาศรายชื่อคณะกรรมการตัดสินโครงการ Spirit of Ecstasy Challenge โครงการแข่งขันครั้งที่ 1 นี้เชิญชวนให้ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่มีความฉลาดหลักแหลมและกล้าหาญที่สุดมาร่วมกันรังสรรค์สัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ขึ้นมาใหม่ในบริบทที่กว้างไกลกว่ายนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ซึ่งเป็นที่ที่เธออยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น ศิลปินหน้าใหม่เหล่านี้จะต้องสร้างสรรค์ผลงานที่มีแนวคิดขั้นสูงที่สามารถสร้างความน่าประหลาดใจ ความพึงพอใจ และสร้างแรงบันดาลใจเพื่อตอบโจทย์นี้
ในแต่ละครั้งของโครงการประกวดราย 2 ปีอันทรงเกียรตินี้ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจะเลือกวัสดุสำหรับนักออกแบบหน้าใหม่เพื่อใช้ในการตีความอย่างมีศิลปะของ Spirit of Ecstasy สำหรับการแข่งขันในปีนี้วัสดุที่เลือกใช้คือสิ่งทอ ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ แอนเดอร์ส วอร์มมิง (Anders Warming) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Rolls-Royce Motor Cars ยูน อัน (Yoon Ahn) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์แฟชั่น Ambush และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องประดับที่ Dior Men ทิม มาร์โลว์ (Tim Marlow) ผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารพิพิธภัณฑ์การออกแบบในกรุงลอนดอน และซูมายา แวลี
(Sumayya Vally) เจ้าของ Counterspace บริษัทรับออกแบบสถาปัตยกรรมในประเทศอเมริกาใต้ พวกเขาจะเลือกผู้เข้ารอบสามคนสุดท้ายเพื่อเข้าร่วมในโครงการศิลปะที่มีความพิเศษครั้งนี้
[ข่าวประชาสัมพันธ์]