[ข่าวประชาสัมพันธ์]
นายแพทย์นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์ โสต ศอ นาสิกแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่หลายคนคงเคยได้ยิน หากใครที่มีการสัมผัสกับฝุ่นละอองชนิดนี้ อาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและยาวได้ ดังนี้
ผลกระทบในระยะสั้น
- ก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา,จมูก, คอ ทางเดินหายใจ
- ทำให้เกิดอาการแสบตา ไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก หอบเหนื่อย
- ทำให้สมรรถภาพปอดแย่ลง
- ทำให้โรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด หรือ โรคหัวใจ กำเริบ
ผลกระทบในระยะยาว
- ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- สมรรถภาพปอดลดลง
- เพิ่มอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอด เนื่องจากฝุ่นขนาดเล็กเหล่านี้ถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
นอกจากนี้ ฝุ่น PM 2.5 จะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้เรื้อรัง กำเริบขึ้นได้ ซึ่งการดูแลสุขภาพในสถานการณ์ PM 2.5 กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้เรื้อรังอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ ควรล้างจมูกเพื่อชะล้างฝุ่นละอองที่เกาะอยู่บนผนังจมูกออกไป ใช้ยารักษาภูมิแพ้ที่รักษาอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่ามีอาการรุนแรงมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาหรือมีอาการคัดจมูกที่เกิดจากเยื่อบุจมูกส่วนล่างโต ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า “RF (Radiofrequency) หรือ การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ” โดยแพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูกของผู้ป่วย จากนั้นคลื่นวิทยุจะเปลี่ยนเป็นความร้อน จนเยื่อบุโพรงจมูกมีการหดตัวลง ส่งผลให้ช่องขนาดโพรงจมูกกลับมามีพื้นที่ว่างมากขึ้น ส่งผลผู้ป่วยจึงสามารถหายใจได้โล่งและสะดวกยิ่งขึ้น
นพ.นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์ โสต ศอ นาสิกแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี
[ข่าวประชาสัมพันธ์]