“โออิชิ กรุ๊ป” โชว์ผลงานดีปี’62 ทั้งยอดขาย-กำไรเติบโต

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

ปี 2562 นอกจากเป็นปีที่ “โออิชิ กรุ๊ป” ดำเนินธุรกิจครบ 20 ปีแล้ว ยังเป็นอีกปีที่ผลการดำเนินธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง โดยมียอดรายได้รวม 13,631 ล้านบาท และผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,229 ล้านบาท

นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ประจำปีงบประมาณ 2562 (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562) ว่า มีรายได้รวม 13,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2%  เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 6,501 ล้านบาท เติบโต 8.6% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 7,130 ล้านบาท เติบโต 7.9%

ขณะที่กำไรสุทธิรวมของบริษัทเท่ากับ 1,229 ล้านบาท เติบโต 21.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแบ่งเป็นผลกำไรจากธุรกิจเครื่องดื่ม 869 ล้านบาท เติบโต 12.6% และผลกำไรจากธุรกิจอาหาร 360 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 52.4%

สำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่ม มูลค่าตลาดชาพร้อมดื่มในช่วงปีงบประมาณ 2562 มีการฟื้นตัว โดยเติบโต 2.2% ขณะที่รายได้ของธุรกิจเครื่องดืมีการเติบโตมากกว่าการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่มโดยรวม เนื่องมาจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จนครองแชมป์ผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 44.6% ประกอบกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายเครื่องดื่มในตลาดต่างประเทศที่ 15%

ทั้งนี้ ในส่วนผลกำไรก็เติบโตด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและการวางแผนใช้งบการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นในส่วนธุรกิจอาหารก็เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการเปิดสาขาใหม่ และการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม ประกอบกับการมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งในปีที่ผ่านมาร้านอาหารมีสาขาเพิ่มขึ้นสุทธิ 14 สาขา โดยส่วนมากเป็นสาขาของร้านชาบูชิ ร้านคาคาชิ และร้านโออิชิ อีทเทอเรียม ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนสาขาร้านอาหาร ณ สิ้นรอบบัญชีปี 2562 ทั้งสิ้น รวม 266 สาขา

สำหรับกลยุทธ์หลักในปี 2562 ที่สนับสนุนให้โออิชิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้แก่ 1. การรุกช่องทางดิจิทัลรองรับการขยายตัวของตลาดเดลิเวอรี่ของกลุ่มธุรกิจอาหาร พร้อมตอบสนองความต้องการด้านความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในยุคนี้  2. การให้ความคุ้มค่ากับผู้บริโภค โดยคำนึงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการที่มอบให้ผู้บริโภค รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น

3.การทำการตลาดและสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างความแปลกใหม่ตื่นเต้นให้แก่ผู้บริโภค และ 4. การใส่ใจต่อการสร้างความยั่งยืน (Sustainability) คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นพัฒนาด้านต่าง ๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ แพคเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแข็งแรงก็คือ “พนักงาน”

ในส่วนของการจัดอันดับเครดิตองค์กรนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (“ทริสเรทติ้ง”) ได้คงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ A+ ซึ่งสะท้อนถึงสถานะผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มและธุรกิจอาหารในประเทศไทย อีกทั้งการมีตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างดี มีเครือข่ายจัดจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศที่ครอบคลุม มีการวิจัยพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีมีคุณค่า และการมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมให้แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าโออิชิ กรุ๊ป จะยังคงสถานะบริษัทที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อีกทั้งจะยังคงรักษาสถานะที่ดีในตลาดชาพร้อมดื่มและธุรกิจร้านอาหาร และสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องต่อไป


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •