[ข่าวประชาสัมพันธ์]
ฮันนาห์ โจนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนและรองประธานฝ่ายพัฒนานวัตกรรมของไนกี้ กล่าวว่า “โลกใบนี้คือสนามที่ใหญ่ที่สุดของนักกีฬา ไนกี้จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ทั้งยอดเยี่ยมและเป็นมิตรต่อโลก และนวัตกรรมไนกี้ฟลายเลเธอร์เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้โลกของเราเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถสนุกสนานกับกีฬาได้ตลอดไป”
ไนกี้ฟลายเลเธอร์เป็นสุดยอดวัสดุชนิดใหม่จากไนกี้ที่ดูหรูหรา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทนทาน น้ำหนักเบา และพัฒนาขึ้นเพื่อสมรรถภาพทางการกีฬาอย่างแท้จริง วัสดุกึ่งหนึ่งที่ไนกี้ใช้ผลิตไนกี้ฟลายเลเธอร์คือกเส้นใยที่นำมาจากหนังที่ถูกรีไซเคิล ส่วนอีกกึ่งหนึ่งคือพลังจากน้ำเพื่อใช้รวบรวมวัสดุต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งนี้ วัสดุชนิดใหม่นี้มีแนวโน้มจะเป็นวัสดุที่ปฏิวัติวงการเครื่องกีฬาเหมือนเส้นใยไนกี้ฟลายนิต
โดยกระบวนการผลิตนั้น การเลือกและผลิตหนังสัตว์แบบปกติ หนังวัวที่แข็งเกินไปกว่าร้อยละ 30 จะถูกทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ ไนกี้จึงมุ่งลดจำนวนหนังวัวที่ถูกทิ้งจากกระบวนการผลิตโดยรวบรวมหนังวัวเหล่านี้มาปั่นเป็นเส้นใยและนำไปผสมกับผ้าหรือเส้นใยสังเคราะห์โดยใช้น้ำที่มีแรงดันสูงเป็นเหมือนกาวที่อัดวัสดุต่างๆ ทั้งหมดให้ติดกันเป็นหนึ่งเดียว วัสดุที่ได้จะเป็นม้วนยาว ซึ่งไนกี้จะต้องนำม้วนวัสดุไปตรวจสอบความเรียบร้อย พ่นสี และตัดเป็นชิ้นก่อน ซึ่งหนังที่ผลิตได้ตามกระบวนการผลิตไนกี้ฟลายเลเธอร์มีรูปลักษณ์และผิวสัมผัสที่หรูหรามีระดับเฉกเช่นเดียวกับหนังระดับพรีเมี่ยมจริงๆ
โทนี่ บิ๊กเนลล์ รองประธานฝ่ายนวัตกรรมรองเท้าของไนกี้ อธิบายว่า “ไนกี้ฟลายเลเธอร์เป็นวัสดุที่เลียนแบบรูปลักษณ์ สีสันความรู้สึก และผิวสัมผัสของหนังแบบฟูลเกรนได้อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่แตกต่างจากกระบวนการผลิตหนังสัตว์ตามธรรมชาติคือ ไนกี้ฟลายเลเธอร์นั้นมีคุณภาพเท่ากันทุกแผ่นและมีคุณภาพเหมือนกันไม่ว่าจะใช้ในผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม”
สำหรับเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไนกี้ใช้หนังสัตว์เป็นองค์ปนระกอบหลักของผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์หลายชิ้น แต่การผลิตหนังสัตว์เป็นกระบวนการที่ใช้น้ำและปล่อยคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมสูงเป็นอันดับ 2 ในบรรดากระบวนการผลิตต่างๆ ที่ไนกี้ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งการทดแทนหนังสัตว์ด้วยนวัตกรรมไนกี้ฟลายเลเธอร์สามารถเปลี่ยนแปลงผลกระทบที่ไนกี้กระทำต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยเหตุผลสำคัญที่สุด 3 ข้อที่แสดงให้เห็นว่าทำไมนวัตกรรมไนกี้ฟลายเลเธอร์จึงเป็นวัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยสร้างสรรค์ คือ
1. การผลิตไนกี้ฟลายเลเธอร์ใช้น้ำน้อยกว่ากระบวนการผลิตหนังสัตว์แบบปกติถึงร้อยละ 90 และปล่อยคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิตน้อยกว่าถึงร้อยละ 80
2. รองเท้าของไนกี้ 1 คู่ที่ผลิตด้วยวัสดุไนกี้ฟลายเลเธอร์จะปล่อยคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิตน้อยกว่ารองเท้าที่ผลิตจากหนังสัตว์จากธรรมชาติถึงครึ่งหนึ่ง
3. วัสดุไนกี้ฟลายเลเธอร์ผลิตออกมาเป็นม้วน สามารถตัดเป็นรูปได้ตามต้องการ ลดขยะลงได้อย่างมากเมื่อเทียบกับกระบวนการตัดเย็บหนังแบบฟูลเกรน
[ข่าวประชาสัมพันธ์]