- ปีที่ผ่านมา เอ็มจีซี-เอเชีย ครองสัดส่วนยอดขายสูงสุดในตลาดรถพรีเมียมขึ้นไป
- สร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ พร้อมขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม
- สร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม
กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือเอ็มจีซี-เอเชีย แถลงผลประกอบการ พร้อมเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2564 ‘MGC-ASIA Moving Forward 2021’ เน้นเชิงกลยุทธ์ สร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจร พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เผยว่า “ปีนี้ เอ็มจีซี-เอเชีย ยังคงเดินหน้าวางแผนต่อยอดธุรกิจอย่างรัดกุม พร้อมรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นสร้างประสบการณ์ผ่านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุด สำหรับลูกค้าทุกๆ ราย”
++ ประสบการณ์ 20 ปี การันตีด้วยตำแหน่งหนึ่งในผู้นำตลาดรถพรีเมียมในเมืองไทย
ปี 2563 อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกล้วนได้รับผลกระทบ สำหรับประเทศไทย เอ็มจีซี-เอเชีย มีรายได้ในปี 2563 รวม 21,465 ล้านบาท กับยอดจำหน่ายรถใหม่รวม 10,078 คัน ลดลง 13.5% ขณะที่ตลาดโดยรวมมียอดขายลดลง 31% โดย เอ็มจีซี-เอเชีย สามารถครองสัดส่วนยอดขาย 17% ในตลาดรถพรีเมียมขึ้นไป และยังคงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ครบวงจร พร้อมใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ
++ ผนึกกำลังทั้งพันธมิตรและบุคลากร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม
ความไดนามิค ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังขับเคลื่อน คือ หนึ่งในดีเอ็นเอสำคัญของ เอ็มจีซี-เอเชีย ดังที่เห็นได้จากการมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพอยู่ตลอด ขณะที่ภาพรวมของ เปอโยต์ ในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตสูงสุด สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับการที่เจ้าของแบรนด์อย่าง กรุ๊ป พีเอสเอ ได้ควบรวมกิจการกับกลุ่ม เอฟซีเอ (เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิล) ภายใต้ชื่อใหม่ ‘STELLANTIS’ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของโลก
อีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงไม่แพ้กันก็คือ ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง ฮาวเด้น ภายใต้ ไฮพีเรียน อินชัวรันส์ กรุ๊ป นายหน้าประกันภัยอันดับหนึ่ง ของโลก ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกัน และ แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ นายหน้าประกันภัยระดับท็อปเท็นของไทย ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา ฮาวเด้น แมกซี่ มีรายได้จากเบี้ยประกันสูงถึง 2,767 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 14%
นอกจากนั้น เอ็มจีซี-เอเชีย ก็มีการดูแลลูกค้าและพนักงานในช่วงการระบาดของไวรัส โควิด-19 อย่างเต็มระบบ
++ เตรียมรองรับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า สร้างประสบการณ์แบบครบวงจร
ปี 2564 เอ็มจีซี-เอเชีย พร้อมดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการหลังการขาย ด้วยการขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ครอบคลุม อีกทั้งมีการเตรียมพร้อมรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ด้วยการเตรียมความพร้อมโครงสร้างขั้นพื้นฐาน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร
++ เครือข่ายครอบคลุม เจาะลูกค้าทุกเซกเมนท์
นอกจากนั้นทางกลุ่มได้มีการเตรียมแผนขยายเครือข่าย โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรบน 5 โลเคชั่นสำคัญ ผ่าน 7 แบรนด์ในเครือ (หรือ 5/7) อาทิเช่น ลาดพร้าว 112, พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, บางนา-ตราด กม. 4.5, ราชพฤกษ์-ธนบุรี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีแผนขยายเครือข่าย MMS Bosch Car Service เพิ่มอีก 15 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยมีกลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจ ผ่าน 5 การรับรู้ คือ รูป, รส, กลิ่น, เสียง และสัมผัส
++ ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล DATA EXCELLENCE CENTER
เอ็มจีซี-เอเชีย ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ในประเทศไทย ด้วยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Excellence Center) เพื่อดูแลฐานลูกค้ากว่า 550,000 ราย พร้อมยกระดับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด รวมถึงการบริการที่แม่นยำ รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนในทุกเซกเมนท์
++ ส่วนหนึ่งของสังคม ผ่านกิจกรรม CSR พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทาง เอ็มจีซี-เอเชีย ให้ความสำคัญตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คือ การตอบแทนสังคม ผ่าน ‘มูลนิธิ ธรรมชวนวิริยะ’ ที่ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง กับหลากหลายกิจกรรม เพื่อตอบแทนสังคม อาทิ การบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย, มอบสิ่งของที่จำเป็นให้เด็กกำพร้า, สร้างสนามเด็กเล่น และอื่นๆ โดยทางมูลนิธิฯ มีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ มองว่าธุรกิจของกลุ่มในปี 2,564 จะมีรายได้คาดการณ์ 23,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10 % เทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจของ เอ็มจีซี-เอเชีย แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
- กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์และบริการครบวงจร
ลักชัวรี่ – โรลส์-รอยส์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก, แอสตัน มาร์ติน แบงคอก และ มาเซราติ ประเทศไทย
พรีเมียม – มิลเลนเนียม ออโต้ (บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด) และ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน
พรีเมียมแมส – เปอโยต์ (ไลอ้อน ออโตโมบิล)
แมส – ซัมมิท ฮอนด้า
รถใช้แล้ว – บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมียม ซีเล็กชั่น, มินิ เน็กซ์, ฮอนด้า เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์, มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ และ ยัวร์ไบค์ (YourBike)
รถเช่าและพนักงานขับรถ- มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และ ซิกท์ ประเทศไทย (SIXT Thailand), และ มาสเตอร์ ไดร์ฟเวอร์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (Master Driver and Services)
อาฟเตอร์มาร์เก็ต – เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์
- กลุ่มธุรกิจนำเข้ายานยนต์
พรีเมียมแมส – เปอโยต์ ประเทศไทย [บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด]
- กลุ่มธุรกิจครีเอทีฟโซลูชั่น – i24, iMX (Innovative Mobility Experience) และ MAT (Master Automotive Training Center)
- กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ – อะซิมุท ยอชท์ ประเทศไทย [เอ็มจีซี-มารีน (เอเชีย)]
- กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย – ฮาวเด้น แม็กซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์