[ข่าวประชาสัมพันธ์]
ในงานสัมมนาธุรกิจค้าปลีก “LINE RETAIL TECH 2019” ซึ่งจัดโดย LINE ประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์ธุรกิจค้าปลีกว่ากำลังก้าวเข้าสู่บริบทใหม่ที่เรียกว่า New Retail ได้อย่างชัดเจน เป็นการค้าปลีกใหม่ในโลกดิจิทัลที่นักการตลาดจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางการตลาดรูปแบบใหม่เข้ามาสนับสนุนเป้าหมายการสร้างยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง โดย “LINE OA Plus E-Commerce” จาก LINE ที่เปรียบเสมือนหน้าร้านให้กับผู้ผลิตสินค้าหรือเจ้าของแบรนด์ พร้อมเครื่องมือทางการตลาดใหม่ซึ่งจะเข้ามาช่วยแบรนด์ให้สามารถเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุดในแบบ personalization มากขึ้นนั้น จึงเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานแบบ All In One Solution สำหรับนักการตลาดยุคดิจิทัลนี้ได้อย่างครบถ้วน
คุณเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา LINE RETAIL TECH 2019 ว่า หลังจากเปิดตัวแนวคิด “LIFE Marketing Platform” เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ในการเป็นเครื่องมือสำหรับองค์กรธุรกิจทุกระดับใช้เป็นสื่อกลางทำการตลาดส่งตรงถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเริ่มจาก redesign พัฒนา LINE Official Account (LINE OA) รูปแบบใหม่ขึ้นมานั้น LINE ประเทศไทย ยังได้เดินหน้าพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องสู่แพลตฟอร์มใหม่ LINE OA Plus แพลตฟอร์มรวบรวมโซลูชั่นที่หลากหลายในการทำการตลาดดิจิทัลบน LINE สำหรับองค์กรธุรกิจ ประเดิมด้วย LINE OA Plus E-Commerce ซึ่งล่าสุดเตรียมจะเปิดให้บริการแบบทั่วไปได้แล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2563 นี้ เป็นต้นไป
LINE OA Plus E-Commerce คือกลุ่มโซลูชั่นสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการให้บริการช้อปปิงออนไลน์รูปแบบใหม่บน LINE OA โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหน้าจอไปมาหรือเข้าสู่แพลตฟอร์มอื่นให้เสียเวลาอีกต่อไป ทุกอย่างครบจบใน LINE OA ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบโปรโมชั่น ร่วมกิจกรรมแคมเปญต่าง ๆ และยังสามารถดูแคตตาล็อกสินค้า สอบถามข้อมูลสินค้ากับทางผู้ขายได้โดยตรง ตลอดจนการสั่งซื้อสินค้าและเลือกวิธีการชำระราคาได้ผ่านทาง LINE OA เป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการภายในช่องทางเดียว ที่สำคัญลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ และทุกเวลา นับเป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปปิงออนไลน์ที่แสนจะสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน LINE OA Plus E-Commerce ยังเปรียบเสมือนหน้าร้านหรือเป็นร้านค้าออนไลน์ให้กับเจ้าของสินค้า ตอบโจทย์การทำการตลาดดิจิทัลซึ่งเป็นเทรนด์ของการค้าปลีกใหม่ (new retail) เป็นเครื่องมือทางการตลาดในแบบ All In One Solution ช่วยนักการตลาดในการทำตลาดได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความรับรู้ให้กับแบรนด์ การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า รวมไปถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย การทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อให้สามารถเข้าถึงและตอบสนองตามความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและตรงจุด จนนำไปสู่การเพิ่มยอดการปิดการขายในที่สุด
“LINE มีจุดแข็งตรงที่จำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยมีมากถึง 44 ล้านคน เรายังมีวิสัยทัศน์ Life on LINE คือการเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันผู้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน LINE จึงมีทุกอย่างที่สามารถเติมเต็มและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน เช่น LINE MAN, LINE TODAY และ LINE SHOPPING เป็นต้น รวมถึง LINE OA ที่มาช่วยตอบโจทย์ด้านธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเรามีบัญชี LINE OA มากถึง 3 ล้านรายในประเทศไทย พฤติกรรมที่เราเห็นลูกค้าหรือผู้ใช้ไทยทำมากที่สุดก็คือการพูดคุยกับแบรนด์ผ่าน LINE ในทุก ๆ วัน ขณะที่ในโลกของ new retail แม้การซื้อขายจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ แต่การที่ลูกค้าได้มีโอกาสพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลกับทางแบรนด์เอง จะนำไปสู่การสั่งซื้อสินค้าได้มากกว่าการสื่อสารทางเดียวที่เป็นช่องทางเว็บไซต์ ทั้งหมดนี้จึงนำไปสู่การพัฒนาบริการ LINE OA Plus E-Commerce เพื่อให้ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้นทั้งกับแบรนด์และกลุ่มผู้บริโภค” คุณเลอทัด กล่าว
สำหรับจุดเด่นของ LINE OA Plus E-Commerce นั้น คือจะเป็นทั้งหน้าร้านและหลังร้านให้กับแบรนด์แบบครบวงจร ที่จะสามารถมีได้ทั้งบนเว็บไซต์ของแบรนด์เอง หรือทาง LINE OA นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นสูง ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเข้ามาสอบถามพูดคุยหรือสั่งซื้อสินค้าในช่องทางเว็บไซต์หรือทาง LINE OA และจะสามารถรู้ได้ว่าลูกค้าเข้ามาจากช่องทางใด อีกจุดเด่นที่สำคัญ คือสามารถช่วยเพิ่มอัตราการปิดการขายให้กับแบรนด์ได้มากขึ้น ผ่านเครื่องมือการขายรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแชต หรือ LINE Login ซึ่งช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำให้เสียเวลา และเป็นการรวมเครื่องมือต่าง ๆ ของ LINE ที่มีอยู่แล้วนำมาผูกกันให้เป็นแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็น LINE OA, Rabbit LINE Pay, LINE POINTS, LINE MAN เป็นต้น
วิธีการใช้งาน ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือผ่าน LINE OA โดยดูจากแคตาลอก และกดเลือก สั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย กรณีผู้ที่เคยสั่งซื้อสินค้ามาก่อนหรือเคยกรอกข้อมูลของตนเองก่อนแล้ว ระบบ LINE Login จะช่วยในการกรอบข้อมูลแบบอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเองซ้ำ เป็นการลดปัญหาความซ้ำซ้อน จากนั้นเลือกช่องทางการจัดส่ง และเลือกการวิธีการชำระเงินซึ่งสามารถชำระด้วยบัตรเครดิต หรือ Rabbit LINE Pay รวมถึงการเลือกรับข้อมูลข่าวสารจากทางร้านค้าเพิ่มเติม
ส่วนแบรนด์หรือทางร้านค้าจะมีทั้งระบบ e-commerce และระบบแชต อยู่ใน LINE OA และสามารถจัดแบ่งสถานะของลูกค้าได้ตามสถานะของคำสั่งซื้อสินค้า หรือกรณีลูกค้าไม่สะดวกยืนยันคำสั่งซื้อได้เองก็สามารถยืนยันคำสั่งซื้อแทนลูกค้าได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ยังมีระบบหลังบ้านที่ร้านค้าจะสามารถสรุปข้อมูลการปิดการขายของร้านได้ สามารถตรวจสอบปริมาณสต็อกสินค้า รวมถึงการตั้งระบบการชำระเงิน เป็นต้น ที่สำคัญระบบ LINE OA Plus E-Commerce ที่เป็นเหมือนร้านค้าของแบรนด์เอง แบรนด์จะสามารถเก็บสะสมข้อมูล (DATA) ของลูกค้าได้จากการที่ลูกค้าร่วมกิจกรรม ตอบคำถามและประวัติการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ เพื่อร้านค้าจะทำความเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ LINE ประเทศไทย ยังมี OA Plus Marketing Tools อีกหนึ่งกลุ่มโซลูชั่นด้านการตลาดตัวใหม่ที่จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถทำแคมเปญการตลาดได้ตามขนาดธุรกิจของตนเอง โดยช่วยจัดแบ่งกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาทิ All Friends, Active Friends หรือ Customers เพื่อที่ว่าเมื่อต้องการส่งข่าวสารใด ๆ จะสามารถเลือกส่งไปได้ตรงกลุ่มเป้าหมายโดยไม่จำเป็นต้องส่งทุกข้อความไปยังทุกคนที่ติดตาม กรณีต้องการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มก็สามารถทำได้ หรือกรณีที่ลูกค้าส่งคำถามเข้ามาสอบถามแต่ยังไม่ได้มีการสั่งซื้อ ก็สามารถเสนอประโยชน์หรือโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรง และระบบนี้ยังสามารถตั้งแบบอัตโนมัติ ในการส่งโปรโมชั่นไปยังลูกค้าที่ซื้อซ้ำหรือสั่งซื้อเป็นประจำ เป็นต้น
“ขณะนี้ เราเปิดบริการ LINE OA Plus E-Commerce ให้สามารถเริ่มใช้งานได้ในบางรายแล้ว และจะเปิดเป็นการทั่วไปภายในต้นปี 2563 นี้ ซึ่ง LINE ประเทศไทย มีความคาดหวังว่าบริการใหม่นี้จะช่วยให้ร้านค้าหรือแบรนด์ มีเครื่องมือในการเข้าถึงลูกค้า ตลอดจนมีบริการที่ดีขึ้นและปิดการขายได้ในอัตราที่มากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่า ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปเร็วแค่ไหน และมากขนาดไหนก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญคือ การที่แบรนด์จะสามารถให้การบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า และสามารถขายของได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า LINE OA จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้แบรนด์สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายเลอทัด กล่าวปิดท้าย
[ข่าวประชาสัมพันธ์]