[ข่าวประชาสัมพันธ์]
“เวลาที่ผ่านไป ไม่เคยทำให้ความตั้งใจลดน้อยลง” จนถึงวันนี้ เครือข่ายสานต่อที่พ่อทำ ยังคงเดินหน้าเจตนารมณ์ในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และแนวคิดการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้เรียนรู้ เข้าใจ และนำคำสอนของพระองค์ไปปฏิบัติ เพื่อสานต่อที่พ่อทำไว้ให้คงอยู่ชั่วลูกหลาน
ด้วยปณิธานอันแรงกล้าจึงนำมาซึ่งแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์โฆษณา ชุด “โครงการสานต่อที่พ่อทำ” โดยหยิบยกเรื่องราวของ 9 บุคคลที่ได้น้อมนำแนวทางของพ่อมาสานต่อในสายงานที่ตัวเองถนัด จนสามารถสร้างประโยชน์ต่อตนเองและสังคมส่วนรวม โดยงานนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดีระดับแถวหน้าของวงการ มาร่วมถ่ายทอดแง่มุมชีวิตของแต่ละบุคคลได้อย่างน่าสนใจ
เริ่มต้นด้วยภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรก ชื่อ “ธนาคารความดี” ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ศิวโรฒ จิตนิยม” ประธานสถาบันการเงินชุมชน ตำบาลหนองสาหร่าย จ. กาญจนบุรี ผู้ที่น้อมนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติเพื่อสร้างคนดีและความสุขให้กับสังคม ด้วยการก่อตั้งสถาบันการเงินชุมชน เพื่อสนับสนุนให้เพื่อนบ้านทำความดีและนำมาฝากที่ธนาคาร เพื่อใช้ความดีนั้นแลกเป็นเงินกู้ จนนำไปสู่การปลดหนี้นอกระบบได้อย่างเห็นผลจริง ชาวบ้านคืนเงินกู้ตามสัญญา และสามารถทำมาหากินได้อย่างมีความสุข ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าทำดีต้องได้ดี สำหรับภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ได้ผู้กำกับมือรางวัล อู๊ด วิทิต แห่งฟีโนมีนา มาถ่ายทอดเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีเพียงจิตใจที่ดี ช่วยคนอื่นกวาดใบไม้ ขุดดินทำสวน ไปวัด และเลิกเหล้า แต่เขาสามารถขอกู้เงินจากธนาคาร แต่เขาสามารถขอกู้เงินได้โดยไม่ต้องใช้ทะเบียนบ้านหรือโฉนดที่ดิน เพราะความดีนั้นเอง ทำให้เขาได้รับอนุมัติจากคนในหมู่บ้านจนสามารถกู้เงินได้ โดยภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “ธนาคารความดี” เริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่สอง ชื่อ “ครูคุณธรรม” โดยฝีมือการกำกับของ เอ๋ ธีระพล สุเนต์ตา ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของ “ครูโซ่ ยอดหทัย รีศรีคำ” อดีตเด็กเกเรที่พลิกชีวิตมาเป็นครูคณิตศาสตร์ และยังเป็นครูที่เข้าใจนิสัยดื้อดึงของนักเรียนมากที่สุด เพราะครูโซ่ใส่ใจใช้เวลาทำความเข้าใจความสนใจของลูกศิษย์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากเชื่อว่าเด็กดื้อหรือเกเร ถ้าตั้งใจจริงก็สามารถเรียนได้ดี เนื้อหาของภาพยนตร์โฆษณาจึงเปิดเรื่องด้วยการเล่าผ่านเสียงของเด็กนักเรียนที่พูดถึง “ครู” ของพวกเขา ซึ่งเป็นครูที่ดีที่สุด เข้าใจนักเรียน ไม่เห็นแก่อำนาจ จิตใจดี มีความอดทน และบทสรุปให้เห็นว่า “ครู” ใส่ใจ และตั้งใจทำเพื่อนักเรียนมากเพียงใด สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “ครูคุณธรรม” ได้ทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่สาม ชื่อ “Investment Talk” นำเสนอเรื่องราวของ “พ่อคำเดื่อง ภาษี” เกษตรกรที่เคยล้มเหลวจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ขาดทุนจนเป็นหนี้นับแสนบาท แต่สามารถตั้งตัวได้อีกครั้งเพราะแนวทางเกษตรทฤษฏีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้ตัดสินใจซื้อที่ดิน แล้วลงแรงลงใจพัฒนาจนกลายเป็นผืนดินสีเขียว มีทั้งนาข้าว บ่อปลา และเล้าหมู จนสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีภูมิคุ้มกัน โดยไม่ต้องง้อกระแสหลัก ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ได้ผู้กำกับดัง ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง” มาทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวโดยเปรียบเทียบระหว่างโลกกระแสหลักกับโลกที่เงินไม่ใช่พระเจ้าในแบบของพ่อคำเดื่องซึ่งเป็นตัวอย่างของการลงทุนตามแนวทางคำสอนของพ่อ ทำให้สามารถพึ่งพาธรรมชาติจนตั้งตัวได้อีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “Investment Talk” ออกอากาศทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่สี่ ชื่อ “ผูกปิ่นโตข้าว” ซึ่งได้ผู้กำกับพันล้าน โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล มาถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มคนยุคใหม่ที่ทำเพจจับคู่เจ้าบ่าวซึ่งเป็นชาวนาอินทรีย์กับเจ้าสาวผู้ซื้อ เพื่อสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ดูแลปากท้องซึ่งกันและกัน เสมือนคนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน โดยภาพยนตร์โฆษณาได้เล่าเรื่องราวงานแต่งของเจ้าบ่าวชาวนา ร่างกำยำ ผิวดำ หยาบกร้าน กับบรรดาเจ้าสาวผู้ซื้อที่มีทั้งหญิงสาววัยยี่สิบหน้าตาสวย รวมถึงคุณป้า คุณยาย หญิงสูงวัย และชายร่างใหญ่ในชุดเจ้าสาว ซึ่งโครงการผูกปิ่นโตข้าวเป็นแม่สื่อนำพาพวกเขามาพบกัน และตกลงทำการค้าขายข้าวอินทรีย์ร่วมกัน ตอกย้ำให้เห็นว่าการจับคู่ชาวนากับคนกินข้าวถือเป็นแนวทางการค้าที่สร้างความสุขให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ปัจจุบันมีคู่บ่าวสาวกว่า 4,000 คู่ ได้ตกลงความสัมพันธ์กันอย่างชื่นมื่น สำหรับภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “ผูกปิ่นโตข้าว” เริ่มออกอากาศต้อนรับเดือนแห่งความรัก ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่ห้า ว่าด้วยเรื่อง “ธุรกิจคุณธรรม” นำเสนอเรื่องราวของ “ดร. วัชรมงคล เบญจธนะฉัตร์” ผู้บริหารบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด ที่สามารถฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 มาได้ ด้วยการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินธุรกิจอย่างพอเหมาะ มีภูมิคุ้มกันตนเอง และที่สำคัญคือการดูแลพนักงานซึ่งเป็นฟันเฟืองของธุรกิจให้มีความสุข ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้มี อั๋น วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร จาก Factory 01 รับหน้าที่ผู้กำกับ เปรียบเทียบการทำธุรกิจเหมือนการแข่งขันพายเรือระหว่างทีมคนเก่งและทีมคนดี ซึ่งทีมคนเก่งจะคิดและวางแผนเพื่อหวังชัยชนะ โดยไม่สนใจกติกาหรือเพื่อนร่วมทีม ในขณะที่ทีมคนดีเลือกที่จะให้ความสำคัญกับเพื่อนร่วมทีม คิด วางแผน และแข่งขันอย่างมีคุณธรรม หนังสรุปให้เห็นว่าการใช้คุณธรรมนำความสามารถ คือ หนึ่งในหนทางสู่เศรษฐกิจพอเพียงและความยั่งยืน โดยภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง ว่าด้วยเรื่อง “ธุรกิจคุณธรรม” เริ่มเผยแพร่ทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่หก ชื่อ ว่าด้วยเรื่อง “พลังงาน” เรื่องราวของ “โกศล แสงทอง” ประธานเครือข่ายรวมใจตามรอยพ่อ เจ้าหน้าที่สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยผู้หลงใหลในงานเกษตรกรรม จึงตัดสินใจซื้อที่ดินที่ป่าเด็ง จังหวัดเพชรบุรี พื้นที่ห่างไกลความเจริญ ขาดแคลนน้ำ ไฟ และปัจจัยพื้นฐาน จึงจำเป็นต้องหาทางทำให้ชุมชนพึ่งพาตัวเองให้ได้ จนเกิดเป็นเครือข่ายดูแลกันและกันของคนในพื้นที่ ทั้งในด้านเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ร่วมทั้งผลักดันการพัฒนานวัตกรรมพลังงานทดแทน สร้างไฟฟ้า แก๊สใช้เองในหมู่บ้าน ช่วยให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ได้ หนัง พงศ์ไพบูลย์ สิทธิคู จาก Film Factory มาเป็นผู้กำกับ ตีแผ่เรื่องราวการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองของชาวบ้านป่าเด็งที่ดำเนินชีวิตตามแนวทางของพ่อ จนทำให้รอดพ้นจากวิกฤตด้านพลังงาน และสามารถพึ่งพาตนเองด้วยพลังงานทดแทนที่ผลิตขึ้นในครัวเรือน ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง ว่าด้วยเรื่อง “พลังงาน” เริ่มเผยแพร่ทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่เจ็ด ชื่อ ว่าด้วยเรื่อง “การท่องเที่ยว” บอกเล่าเรื่องราวของ “แสงเดือน ชัยเลิศ” ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีความประทับใจในวันที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสร็จฯ ไปเยี่ยมเยียนชาวเขา นับเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยก่อตั้ง Elephant Nature Park ศูนย์ช่วยพักพิง พัฒนา อนุรักษ์ และช่วยรักษาสิทธิ์ของช้างที่ถูกกระทำ ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นศูนย์ท่องเที่ยวที่ให้คนไทยและต่างประเทศเข้ามาเป็นอาสาสมัคร สำหรับผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ คือ เปา ธยา สุนทรวิภาต จาก Film Factory ซึ่งได้ตีความภาพการท่องเที่ยวปางช้างรูปแบบใหม่ที่ไม่มีบริการขี่ช้าง ช้างวาดรูป ลอดท้องช้าง หรือช้างนวดหลัง ซึ่งถูกแทนที่ด้วยกิจกรรมเชิงอนุรักษ์และดูแลช้างให้มีความสุข สร้างสรรค์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สานต่อแนวคิดเรื่องความยั่งยืนทางธรรมชาติอย่างแท้จริง สำหรับภาพยนตร์โฆษณา ว่าด้วยเรื่อง “การท่องเที่ยว” เริ่มเผยแพร่ทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่แปด ว่าด้วยเรื่อง “โรงพยาบาล” ถ่ายทอดแนวคิดและหลักการทำงานของ “นพ.เกศดา จันทร์สว่าง” รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลชลบุรี แพทย์ผู้ยึดมั่นในความรู้คู่คุณธรรมที่ได้นำน้อมนำแนวพระราชดำริตามโครงการโรงเรียนคุณธรรมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาสานต่อที่พ่อทำสู่การพัฒนาโรงพยาบาลคุณธรรม โดยยึดหลัก “ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และมีน้ำใจ” โดยภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ได้ ต้น หับ โห้ หิ้น เป็นผู้กำกับ สะท้อนเรื่องราวของโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลคุณธรรม ที่มีการบริหารองค์กรด้วยความโปร่งใส ตลอดจนการให้บริการด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาล ทั้งหมอ พยาบาล แม่บ้าน รปภ. ฯลฯ ล้วนเป็นฟันเฟืองขององค์กรสาธารณสุขที่ทำหน้าที่เดียวกัน คือ การดูแลรักษาสุขภาพของคนในสังคมอย่างเต็มที่ ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาว่าด้วยเรื่อง “โรงพยาบาล” เริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่เก้า ว่าด้วยเรื่อง “Real estate” ซึ่งมีความแตกต่างจากทุกเรื่องที่ผ่านมา เพราะเป็น ภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างสรรค์ด้วย ระบบ 3D Walk Through และ CG ที่ล้ำสมัย โดยฝีมือของ ทีม CGA Studio และ ทีม อิ๊กดราซิล บอกเล่าเรื่องราวของ “นคร ลิมปคุปตถาวร” เจ้าของฉายา เจ้าชายผัก ที่เป็นผู้ริเริ่มโครงการสวนผักคนเมือง และก่อตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง โดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับเรื่องเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะกับวิถีคนเมือง เนื้อหาของภาพยนตร์โฆษณาได้เล่าผ่านการวาดภาพที่อยู่อาศัยทางเลือกใหม่สำหรับคนเมือง ซึ่งได้น้อมนำ “บ้านของพระราชา” และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มาผสานการดีไซน์ไว้อย่างลงตัว ทำให้บ้านอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารและเจ้าของบ้านสามารถพึ่งพาตนเองได้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเรื่องราวของบุคคลสานต่อที่พ่อทำ ที่ตอกย้ำให้เห็นว่าแนวทางของพ่อล้วนก่อให้เกิดความสุขที่ยั่งยืน สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณาว่าด้วยเรื่อง “Real estate” ได้ทาง LINE TV และแฟนเพจ สานต่อที่พ่อทำ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามเรื่องราว แนวคิด หลักการดำเนินชีวิตของ9 บุคคลสานต่อที่พ่อทำได้ทาง www.สานต่อที่พ่อทำ.com
[ข่าวประชาสัมพันธ์]