[ข่าวประชาสัมพันธ์]
กลุ่มบริษัท เอ็นริช ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ รุกตลาดด้วยแนวคิด ‘Guiding You to Practical Living’ กับประสบการณ์กว่า 10 ปีในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ Enrich ได้พัฒนารูปแบบของที่อยู่อาศัยได้สอดคล้องกับความต้องการของคนในปัจจุบัน ส่งผลให้หลายโครงการของ Enrich ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จโดยไม่เน้นใช้สื่อ Mass Media พร้อมเตรียมขยายธุรกิจด้วยโครงการ ‘KUUN’ และอีกสองโครงการใหม่ในปีนี้ มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่
คุณสุพิชา พงศ์ศีลธน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัท เอ็นริช กล่าวว่า ‘‘ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างมากขึ้น โดยเฉพาะในการเลือกซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ที่ต้องโดดเด่น และฟังก์ชั่นที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้ หรือแม้การการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคก็มักจะนิยมใช้ Social Media ในการติดสินใจเป็นส่วนมาก ด้วยปัจจัยต่างๆนี้เอง ทำให้ Enrich ได้นำมาวางแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยแนวคิด ‘Guiding You to Practical Living’ หรือการเป็นคู่คิดสำหรับการใช้ชีวิตจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยได้อย่างตรงใจ และสร้างสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน’’
‘‘ในการพัฒนาธุรกิจของ Enrich เรายึดหลักการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค 3 ข้อ คือ 1) Newness & innovation ประยุกต์นวัตกรรม เพื่อที่จะทำให้ชีวิตประจำวันเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น 2) Practicality เป็นประโยชน์ ใช้ชีวิตได้จริง ด้วยอรรถประโยชน์ต่างๆ ที่มาจากการวิเคราะห์และสังเกตพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนในปัจจุบัน 3) Solution provider พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ด้วยการจัดการประเมินความพึงพอใจและแบบสอบถามเพื่อศึกษาความต้องการและพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง’’ คุณสุพิชากล่าว
ทั้งนี้ นอกจากหลักการดำเนินธุรกิจทั้งสามข้อที่ทาง Enrich ใช้เพื่อดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจแล้วนั้น ทาง Enrich ยังใส่ใจในการวางแผนธุรกิจอย่างรอบด้าน พร้อมเผยถึงแนวทางการปฏิบัติซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการใช้ได้จริงและทำได้จริง คือ
- วางแผนบนความจริง
การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของ Enrich นั้น ยึดถือการใช้งานจริงตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในแต่ละวัยเป็นหลัก โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการใช้ชีิวิตของคนในทุกวันนี้มากกว่าเน้นจำนวนยูนิตของโครงการ ได้แก่ ศักยภาพในแต่ละทำเล การวางแผนและจัดสรรผังโครงการ ฟังก์ชั่นที่ครบครัน วัสดุ และสิ่งอำนวยความสะดวก (facilities) ที่เลือกใช้ต้องทนทานและสามารถตอบรับกับการใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยในทุกโครงการทาง Enrich จะดูถึงความเหมาะสมและจุดเด่นในแต่ละพื้นที่ก่อนที่จะทำตลาด ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยของ Enrich สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เหมาะกับการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง - วางแผนจากประสบการณ์จริง
ในทุกๆ โครงการของ Enrich จะมีการประเมินความเห็นและความพึงพอใจจากผู้อยู่อาศัย ทำให้รู้ถึงจุดเด่นและโอกาสในการพัฒนาโครงการอยู่เสมอ และสามารถมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
วางแผนด้วยความใส่ใจจริง
นอกจากคุณภาพของวัสดุที่เลือกใช้แล้วนั้น คุณภาพของทีมงาน และการเลือกพาร์ทเนอร์ที่มีความเชียวชาญ ที่เหมาะสมกับแต่ละโครงการ ก็เป็นสิ่งที่ Enrich ให้ความสำคัญเช่นกัน พนักงานและทีมงานทุกคนจึงผ่านการฝึกอบรมและให้ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าอย่างดี นอกจากนี้ยังได้นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันมากที่สุด
‘‘จากแนวทางและหลักการดำเนินธุรกิจของ Enrich ที่กล่าวมา ทำให้เราต้องติดตามแนวโน้มของตลาดตลอดจนพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาโครงการให้เหมาะสมตรงกับการอยู่อาศัยที่แท้จริง จะเห็นได้จากการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่องของ Enrich ที่พัฒนามาเพื่อตอบรับความนิยมในการเลือกซื้อบ้านของคนในปัจจุบัน หรือแม้แต่การพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานในบ้านที่ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเท่านั้น แต่ยังพัฒนาบ้านด้วยแนวคิดแบบ Senior-friendly ด้วย เพราะ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวนี้ เกิดจากความใส่ใจและรับฟังความต้องการของผู้บริโภคของเราอย่างแท้จริง’’ คุณสุพิชา กล่าว
นอกจากการพัฒนาโครงการแล้วนั้น การสื่อสารก็เป็นสิ่งที่ Enrich ให้ความสำคัญเช่นกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละโครงการของ Enrich ไม่เน้นการใช้สื่อ Above The Line เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในปัจจุบัน นิยมใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก Social Media จึงเป็นช่องทางการสื่อสารหลักของแต่ละโครงการของ Enrich ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายหลักได้อย่างตรงจุด และเกิดการแชร์ได้ง่าย
คุณสุพิชา เสริมว่า ‘‘การสื่อสารเป็นสิ่งที่ทาง Enrich ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ด้วยพฤติกรรมในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมักจะใช้สื่อออนไลน์ในการหาข้อมูล เปรียบเทียบตลอดจนพูดคุย-สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทำให้เราเน้นการใช้ช่องทางดังกล่าวเพื่อช่วยให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆของเราไปยังกลุ่มเป้าหมาย อย่างโครงการ KUUN ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดที่ทาง Enrich ร่วมทุนกับ Ace Estate ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน เราก็ใช้สื่อ Social Media ในการให้ประชาสัมพันธ์โครงการรวมไปถึงสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น’’
โครงการ KUUN มาพร้อมแนวคิด Luxury Naturally นำเสนอบ้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สะท้อนความหรูหราเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี โดยมีจุดเด่น ได้แก่
- Location ด้วยทำเลติดถนนราชพฤกษ์เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก ด้วยเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
- Private Facilities ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น เพื่อความเป็นส่วนตัวด้วยเอกสิทธิ์เพียง 20 ยูนิต
- Home Innovation สะดวกสบายกว่า ด้วยระบบ Smart Home Devices ควบคุมฟังก์ชั่นในการใช้งานภายในบ้านผ่านระบบ Voice Control พร้อมรองรับการติดตั้ง Passenger Lift
- Security ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ที่มากถึง 6 ระดับ ให้คุณอุ่นใจทั้งส่วนกลางและภายในบ้าน
นอกจากนี้ โครงการ KUUN ยังสามารถตอบโจทย์ของคนในทุกวัยได้เป็นอย่างดี จากการสร้าง Co-Working Space สำหรับคนทำงานในยุคปัจจุบันรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานที่ยืดหยุ่น ไม่จำกัดแค่ที่ออฟฟิศของคนรุ่นใหม่, ห้องเก็บของ walk-in pantry สำหรับแม่บ้านยุคใหม่ รวมไปถึงลิฟท์ที่เตรียมไว้สำหรับผู้สูงอายุเพื่อเตรียมรับแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีมากขึ้นในทุกปี
‘‘ทั้งนี้ Enrich ยังคงเล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยอีกมาก จึงเตรียมแผนที่จะเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยอีก 2 โครงการภายในปี 2561 โดยยังคงยึดเอาแนวคิด ‘Guiding You to Practical Living’ หรือการเป็นคู่คิดสำหรับการใช้ชีวิตจริง มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้โครงการของ Enrich สร้างความพึงพอใจและตอบรับกับความต้องการในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยได้มากที่สุด’’ คุณสุพิชา กล่าวทิ้งท้าย
[ข่าวประชาสัมพันธ์]