บมจ.ซิกน่า ประกันภัย เผยผลสำรวจประจำปี 2561 ในหัวข้อ“คะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า” พบว่า คนไทยยังมีความกังวล เรื่องผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่วนใหญ่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านการเงิน รวมทั้งความสามารถในการดูแลครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียล รู้สึกเครียดเรื่องงานมากที่สุด กังวลเกี่ยวกับเรื่อง Work-life balance และเรื่องความมั่นคงของหน้าที่การงานตัวเองมากที่สุด
คนไทยถึง 91% บอกว่าตนอยู่ในภาวะเครียด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 86%
สาเหตุหลักของความเครียด มาจากปัญหาด้านการเงิน (43%) และด้านการงาน (35%) และเมื่อเทียบระหว่างกลุ่มอายุที่แตกต่างกัน พบว่ากลุ่มมิลเลนเนียล มีความกังวลเกี่ยวกับ Work-life balance และความมั่นคงเกี่ยวกับหน้าที่การงานของตนเองมากที่สุด
บมจ.ซิกน่า ประกันภัย เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีพันธกิจในการช่วยพัฒนาสุขภาพ ชีวิต และความเป็นอยู่ของลูกค้าให้ดีขึ้น เผยผลสำรวจโดยรวมแล้วคะแนนสุขภาพ และความเป็นอยู่ของคนไทยในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้ว เหลือเพียง 61.3 คะแนน จาก 65.2คะแนนในปีที่แล้ว
ที่กังวลมากที่สุด คือสุขภาพและความเป็นอยู่ด้านสังคม ตามมาด้วยด้านครอบครัว โดยคะแนนลดลงถึง 9.9 และ 3.5 คะแนนตามลำดับ โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุ 35 – 49 ปี รู้สึกว่ามีเวลาพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง และมีเวลาทำงานอดิเรกที่ตนเองรักน้อยลง
ด้านครอบครัว ก็รู้สึกว่าไม่มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างเพียงพอ รวมทั้งถึงไม่สามารถดูแลพ่อแม่ คู่สมรสและลูกๆ ได้ตามที่ตนเองคาดหวังไว้
ขณะเดียวกันกลุ่มวัยก่อนเกษียณ (อายุ 50 ปีขึ้นไป) รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายโดยรวมของตน คะแนนด้านนี้ลดลงจากปีที่แล้ว 2.7 คะแนนจากหลายปัจจัย เช่น การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การรับประทานอาหารที่ได้สัดส่วน การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
แม้ผลสำรวจฯ จะพบว่ากลุ่มมิลเลนเนียล (อายุ 18 – 34 ปี) รู้สึกว่าตนเองมีสุขภาพและความเป็นอยู่ด้านร่างกาย ด้านสังคมและด้านการเงินดีกว่ากลุ่มอื่น
แต่คนกลุ่มนี้กลับมองว่า ตนเองมีสมดุลด้านการงานและชีวิตส่วนตัว (Work-life balance) ที่ไม่ดีเท่ากลุ่มอื่นๆ โดยมีคะแนนอยู่ที่ 63 คะแนน เมื่อเทียบกับกลุ่มอายุ 35 – 49 ปีซึ่งมีคะแนนที่ 67 คะแนน และกลุ่มก่อนเกษียณที่มีคะแนนอยู่ที่ 68 คะแนน
คุณจูเลียน เมงกัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บมจ. ซิกน่าประกันภัยกล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้คนไทยยังคงมีความกังวล เรื่องความมั่นคงด้านการเงินของตนเอง ทั้งในส่วนของความพร้อมด้านการเงินสำหรับการเกษียณและการดูแลค่ารักษาพยาบาลของพ่อแม่
“มาจากสภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการวางแผนด้านการเงินและการวางแผนหลังเกษียณ”
“อย่างไรก็ดี ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ Work-life balance ในกลุ่มมิลเลนเนียล ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และชี้ให้เห็นถึงนัยยะที่สำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงาน และความคาดหวังสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งทำให้เราเชื่อว่า เรายังคงมีภารกิจในการช่วยสนับสนุนให้คนไทย มีคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”
กับดักอายุ: สูงวัย ไม่มั่นใจ
เรื่องการวางแผนหลังวัยเกษียณ คนไทยยังมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินของตนเอง
แนวโน้มอาจเกิดจากการขาดการวางแผนที่ดีพอ โดยคนไทย 40% คาดว่า เมื่อเกษียณแล้วจะต้องควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยเงินเก็บของตนเอง มีเพียง 23% เท่านั้น ที่มีความคุ้มครองที่เพียงพอ จากแผนประกันสุขภาพที่ทำไว้ ส่วนอีก 29% ที่เหลือคาดว่า ต้องพึ่งพาสวัสดิการจากภาครัฐในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ซึ่งคล้ายกับผลสำรวจฯของปีที่แล้วที่พบว่า 75% ของคนไทย ยังไม่มีเงินเพียงพอสำหรับใช้ในยามเกษียณ เพราะคิดว่า“ตนเองยังไม่แก่”ทำให้หลายคนตกสู่ “กับดักอายุ” (Age Trap) และขาดการเตรียมพร้อมด้านการเงิน
มิลเลนเนียลเครียดเรื่องงานเป็นที่หนึ่ง
คนไทยถึง 91% บอกว่าตนอยู่ในภาวะเครียด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 86%
สาเหตุหลักของความเครียด มาจากปัญหาด้านการเงิน (43%) และด้านการงาน (35%) และเมื่อเทียบระหว่างกลุ่มอายุที่แตกต่างกันพบว่า กลุ่มมิลเลนเนียลมีความกังวลเกี่ยวกับ Work-life balance และความมั่นคงเกี่ยวกับหน้าที่การงานของตนเองมากที่สุด โดยมีคะแนนอยู่ที่ 63 และ 58 คะแนนตามลำดับ ซึ่งถือว่าต่ำกว่ากลุ่มคนอายุ 35 – 49 ปีซึ่งมีคะแนนอยู่ที่ 67 คะแนนทั้งสองส่วน และกลุ่มวัยก่อนเกษียณที่มีคะแนนอยู่ที่ 67 และ 68 คะแนน
ปีนี้ซิกน่าได้ถามคนไทยเกี่ยวกับการเลือกที่จะมาทำงาน หรือเลือกที่จะหยุดงานเมื่อตนป่วย ผลสำรวจฯ พบว่า คนไทยถึง 89% ระบุว่าพวกเขาจะมาทำงานแม้ว่าจะมีอาการป่วย ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 67% เท่านั้น โดยคนไทยกว่า 63% มองว่า บริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ มีโครงการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน แต่ครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้บอกว่ายังมีไม่เพียงพอ ส่วนคนไทยอีก 37% กล่าวว่าบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ ไม่มีโครงการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงานเลย
เมื่อกล่าวถึงการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ในราคาที่สามารถจ่ายได้ คนไทยส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาบริการด้านสุขภาพจากภาครัฐแทบทุกด้าน จากปัจจัยหลักด้านราคาค่ารักษาพยาบาล
หนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระนี้ได้ คือการมีประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองตรงตามความต้องการ ในราคาที่สามารถจ่ายได้ โดยซิกน่าประกันภัยมีแผนประกันสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าว เช่น แผนประกันสุขภาพมิติใหม่ ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
นอกจากนี้ยังมีแผนความคุ้มครองเสริม สำหรับกลุ่มโรคร้ายแรงและกลุ่มโรคเรื้อรัง แผนประกันดังกล่าวให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม เช่น มอบเงินก้อนสูงสุด 500,000 บาท เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงอย่างต่อเนื่อง (รวมถึงการรักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก) และมีบริการสายด่วนสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้คำปรึกษาและคำแนะนำด้านสุขภาพ
การสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360°ของซิกน่า ได้ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่สี่แล้ว โดยได้สำรวจและติดตามทัศนคติของผู้คนเกี่ยวกับสุขภาพ และความเป็นอยู่ของตนเองใน 5 ด้านคือ ด้านร่างกาย ด้านสังคม ด้านครอบครัว ด้านการเงิน และด้านการทำงานใน 23 ประเทศทั่วโลก
โดยซิกน่าจะนำข้อมูลและผลที่ได้จากการสำรวจ ไปใช้ในการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีความเป็นอยู่ และความมั่นคงในชีวิตที่ดีขึ้น ในทุกช่วงเวลาของชีวิตต่อไป