Marketing Oops! Podcast: Oops! Unbox Idea ชวนฟังเรื่องราวสนุก เกี่ยวกับแวดวงโฆษณา แคมเปญการตลาด และการใช้ไอเดียสร้างสรรค์ผลักดันในการทำธุรกิจ ผ่านแง่มุมต่างๆ สำหรับ Ep. นี้พามาคุยกับ คุณจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย ถึงการทำงานในฐานะแบรนด์ หรือลูกค้า ที่จะทำงานร่วมกับเอเจนซี่และโปรดักส์ชั่นเฮาส์อย่างไรให้ผลงานออกมาดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
กระดุมเม็ดแรกก่อนจับคู่เอเจนซี่ – ดูที่ Marketing Objective
ก่อนที่จะไปหาว่าเอเจนซี่หรือเฮาส์ไหนที่เหมาะจะทำแคมเปญกับแบรนด์ คุณกุ๊กแนะนำว่า ควรพิจารณาที่ Marketing Objective ให้ชัดก่อนว่าเราทำไปเพื่ออะไร สำหรับ Grab หลักๆ มี 2 วัตถุประสงค์ด้วยกัน
1) Business Objective มีเป้าหมายที่อยากให้แคมเปญช่วยผลักดันในส่วนของยอดขาย เช่นปล่อยโฆษณาไปปุ๊บ สามารถสร้างยอดการซื้อ หรือเกิดการใช้จ่ายได้เลย
2) Brand Building สำหรับ Grab เป้าหมายคือการทำให้ ผู้คนในประเทศมีชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น วัตถุประสงค์ในส่วนนี้จึงไม่เหมือนกับเป้าหมายธุรกิจ เราอยากให้คนดูโฆษณานี้หรือแคมเปญนี้แล้วรู้สึกว่า Grab นี่เขาดีจัง ดีกับประเทศนี้จริงๆ แล้วค่อยมามองว่า เอเจนซี่หรือเฮาส์ไหนเหมาะกับแคมเปญที่เราจะทำ
หลักคิดในการเลือกเอเจนซี่ในการทำงาน
ต้องศึกษางานของเอเจนซี่หรือเฮาส์นั้นๆ เพื่อค้นหาว่า ลายเส้น/ซิกเนเจอร์ของที่ไหนเหมาะกับแคมเปญนั้นๆ ของเรา เช่น อยากได้งานขายของที่น่าสนใจ อยากได้งานอีโมชั่นที่ไม่ฟูมฟายเกินไป เป็นต้น โดยมีหลักคิดอยู่ 3 ข้อ ดังนี้
- สามารถบาลานซ์ได้ระหว่าง Creativity และ Business
- สามารถขยี้/ ต่อยอดได้ และไปได้แบบ O2O (Online to Offline) การทำงานแบบ one size fitall ไม่ตอบโจทย์โลกในปัจจุบันอีกต่อไป
- คาแร็คเตอร์หรือลายเส้นของ เอเจนซี่/เฮาส์ มีสิ่งที่เรียกว่า Playful with the course ในความหมายที่ว่า เล่นๆ นะแต่ว่ามีของ เพราะฉะนั้นลายเส้นของเรา (Grab Thailand) จะโบ๊ะบ๊ะนิดนึง
บรีฟงานอย่างไรให้ชัด
- บอก Business background ของคุณให้ชัดเจน
- มีเป้าหมายทางธุรกิจ (Business Objective) ที่ชัดเจน
- มีเป้าหมายของแคมเปญที่ชัดเจน (Marketing Objective)
ทั้งหมดนี้เราก็จะมาพิจารณาว่า เอเจนซีสามารถส่งมอบสิ่งที่แบรนด์ต้องการได้หรือไม่ และสามารถนำเสนอออกมาได้เป็นอะไรบ้าง และสิ่งสำคัญที่สุดคือสามารถเสนอ Identity ของแบรนด์ได้ด้วย
ทิปส์อีกสิ่งที่แบรนด์ต้องการจากเอเจนซี่ – ถ้าจุดไหนไม่เคลียร์ หรือสงสัยในประเด็นไหน ขอให้ถามเลย ยิ่งถามยิ่งจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น
ลิมิตของการทำงานโฆษณา หยาบคาย/ทะลึ่งได้มากน้อยแค่ไหน
Grab Thailand ให้ความเห็นว่า ต้องพิจารณาที่ Target audience ว่ากลุ่มเป้าหมายของแคมเปญนั้นคือใคร ถ้าเป็นกลุ่มผู้หญิง อาจจะเล่นไม่ได้มาก แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนที่เด็กลง เช่น Gen X, Gen Y ก็พอจะรับเรื่องของคำหยาบคายหรือมุกทะลึ่งตึงตังได้ สามารถใช้ กู/มึง ได้ในหนังหรือแคมเปญ แต่สุดท้ายก็ต้องพิจารณาที่แบรนด์ของคุณด้วยว่าเป็น ธุรกิจอะไร หรือมีโปรดักส์อะไร ถ้าเป็นสิ่งที่ต้องการความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารหรือกองทุน เรื่องพวกนี้อาจจะไม่ต้องเลยก็ได้
สรุปคือ อาจจะต้องขึ้นอยู่กับ กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มธุรกิจ และสินค้าที่เราจะต้องนำเสนอด้วยว่า เป็นอะไร
หัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่าง “แบรนด์ – เอเจนซี/เฮาส์”
- Brief ต้องชัดเจน เพื่อให้ Output ออกมาดีที่สุด
- กระบวนการในการทำงานต้องชัด สำคัญมากกับการที่ Decision maker ต้องเข้าร่วมมีทติ้งด้วย เพื่อร่วมกันในการตัดสินใจ
- สำคัญมากที่สุดคือ การ Trust ในความมืออาชีพของทีมงาน ทั้งหมดนี้จะทำให้การทำงาน Smooth และ Effective
