– Influencer เป็น Truth มากกว่าเป็น Trend เพียงแต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง
– ไม่ใช่ทุกโจทย์หรือทุกสินค้าต้องใช้Influencer Marketing หรือสามารถพึ่งพาแต่ Influencer เพียงอย่างเดียว
– ภายใต้คำว่า Influencer มีคำที่ใหญ่มากอยู่คำหนึ่งคือคำว่า “Influence”
– หลักคิด Influencer Marketing ไม่ควรใช้วิธีการหรือทฤษฎีเครื่องมือการตลาดแบบดั้งเดิมมาใช้
– หากอิงตามหลักคิดเรื่องการสื่อสารแบบ Tipping Point ที่ประกอบด้วยสามหลักคือ Content, Messenger และ Context จะเห็นว่าหลักคิดพื้นฐานกับเรื่อง Influencer Marketing จะไม่เหมือนกัน
– แนวคิดแรกเรื่องการสร้าง Content ในอดีตจะเน้นในการสร้าง attention ด้วย Key Message ที่หาเหตุผลที่ให้ชีวิตเราดีขึ้น
– แนวคิดที่สองเรื่อง Messenger ในอดีตคือสื่อ (Media) ที่ไม่มีชีวิต เน้นการ Push ให้เกิดความคุ้นชินเพื่อสร้าง Top of mind
– แนวคิดที่สามเรื่อง Context หรือเรื่องบริบท ในอดีตไม่ได้ถูกสนใจเท่าไหร่นัก เพราะตัวเลือกสื่อมีน้อย เรารอให้คนวิ่งเข้าหาเรา แต่ตอนนี้ทุกคนอยู่ในที่ๆเขาสนใจ เราจึงต้องวิ่งไปอยู่กับเขา
– น้ำหนักในการมอง อาจจะต้องมองกลับด้านกันคือจาก Content > Messenger > Context เป็น Context > Messenger > Content
– Influencer Marketing มีความคล้ายกับ Word of Mouth (WOM) Marketing หรือ ทฤษฎี Two Step Flow Theory เพียงแต่ในอดีตเราต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ แต่ Influencer Marketing เราเข้าถึงและจัดการได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
สามารถติดตามรับฟัง Marketing Oops! Podcast
ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ที่