[Special Episode COVID-19] 10 กลยุทธ์ “บริษัทจีน” ฝ่าวิกฤต “COVID-19” ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตท่ามกลางความท้าทาย

  • 3.4K
  •  
  •  
  •  
  •  

ในช่วงเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 โดยมีจุดเริ่มต้นที่เมืองอู่ฮั่น “ประเทศจีน” สามารถบริหารจัดการวิกฤตจนสถานการณ์คลี่คลาย ถึงวันนี้ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อลดลง และรัฐบาลจีนคลาย lockdown ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

Marketing Oops! Podcast China Market Insights ตอนนี้เป็น Special Episode ที่ว่าด้วย “Post COVID-19” จะพาผู้ฟังไปถอด 10 บทเรียนกลยุทธ์ “บริษัทจีน” ใช้ในการฝ่าวิกฤต เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้อยู่รอด และเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทาย

  1. “Survival Mode” ปกป้องพนักงานจากการแพร่ระบาดไวรัส – ลดความเสี่ยงบริษัท

นับตั้งแต่เกิดวิกฤต หนึ่งในสิ่งที่บริษัทจีนเร่งดำเนินการ คือ การปกป้องพนักงานจากความเสี่ยงไวรัส COVID-19 ทั้งการออกนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้าน, เช็คอุณหภูมิพนักงานอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เวลานี้สถานการณ์ไวรัสในจีนจะคลี่คลายแล้วก็ตาม

  1. ร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้า

ปัจจุบันเป็นยุค Collaboration จับมือสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 สร้างผลกระทบต่อธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง – เล็ก ทั้งกระแสเงินสด เงินทุน ไปจนถึงกระทบต่อพนักงาน

บริษัทใหญ่ในจีนที่มีเงินทุนมหาศาล ได้ออกนโยบายเพื่อให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SME เช่น Alibaba ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SME ที่เป็นคู่ค้า หรือในกรณีของ JD.com เปิดให้ร้านค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มสามารถ Live Stream ขายของออนไลน์ได้ฟรี

  1. รักษาฐานลูกค้าเก่า และดึงดูดลูกค้าใหม่

ถึงสถานการณ์ “COVID-19” จะหนักหนาอย่างไร แต่หลายบริษัทในจีนยังคงดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ทว่าใช้วิธีปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เช่น WeSure บริษัทประกันในจีน ใจป้ำด้วยการนำเสนอประกันฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ จากกลยุทธ์นี้ทำให้สามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้ถึง 25 ล้านคนภายใน 20 วัน

หรือกรณีของ Spring Airline ซึ่งเป็น Low Cost Airline รายใหญ่ของประเทศจีน ได้ลดราคาตั๋วเครื่องบินเหลือ 250 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากในการเดินทางข้ามเมือง

สิ่งที่ตามมาของการทำโปรโมชั่น คือ แบรนด์สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม ขณะเดียวกันสร้างฐานลูกค้าใหม่เข้ามาในช่วง COVID-19 และจาก Data ที่ได้มา ทำให้แบรนด์นำไปต่อยอดในการทำ Remarketing ได้ในอนาคต

  1. การเคลื่อนย้ายคน

บริษัทจีนมีการปรับย้ายพนักงานไปทำงานในส่วนที่มีปริมาณงานเยอะ หรืองานที่มี Demand เพิ่มขึ้น เช่น บริษัท Perfect Diary เป็นแบรนด์เครื่องสำอางของจีน ได้เปิด WeChat Group สำหรับขายสินค้าออนไลน์ พร้อมทั้งย้ายพนักงานส่วนหน้าร้าน ไปทำงานส่วนออนไลน์ เพื่อรองรับยอดสั่งซื้อทางออนไลน์

  1. สร้างโอกาสบนโลกดิจิทัล

ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ บริษัทต่างๆ ใช้จังหวะนี้ก้าวเข้าสู่ Digital Transformation

– Luxury Brand เช่น Gucci, Louis Vuitton ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์

– ByteDance เจ้าของแพลตฟอร์ม Douyin และ TikTok เปิดบริการสตรีมมิ่ง โดยจับมือกับค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ นำขึ้นฉายบนแพลตฟอร์ม เช่น หนังเรื่อง Lost in Russia ภายใน 3 วัน สามารถทำยอดวิวได้มากถึง 600 ล้านวิว

– ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยี VR เพื่อให้ผู้สนใจดูห้องเสมือนจริงผ่าน VR

  1. Upgrade ธุรกิจ – Upskill พนักงาน

หลายบริษัทในจีน ใช้ช่วงเวลาที่ลูกค้าน้อยลง – ธุรกิจเงียบเหงา ไปพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน เพื่อให้บุคลากรในองค์กรได้ Upskill ตัวเอง

เช่น บริษัท Spring Tour ได้ให้พนักงานกว่า 2,000 คน ลงคอร์สเรียนออนไลน์ เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงาน

หรืออีกตัวอย่างคือ สายการบิน China Eastern ได้ปรับโมเดลสร้างรายได้ใหม่ ด้วยการเอาที่นั่งในเครื่องบินออกหมด และเปลี่ยนเป็น Cargo Flight เพื่อให้บริการส่งของข้ามเมือง – ข้ามประเทศ พบว่าใน 1 อาทิตย์ สามารถขนส่งได้กว่า 1,000 เที่ยวบิน

  1. ภาครัฐ และภาคเอกชน จับมือฝ่าวิกฤต

ในสถานการณ์วิกฤต ภาครัฐ และภาคเอกชนผนึกกำลัง เพื่อฝ่าวิกฤตร่วมกัน เช่น รัฐบาลจีน จับมือกับ Alibaba และ Tencent พัฒนา QR Code ในการจับข้อมูลการเดินทางของคน และวิเคราะห์สถานะอาการคนนั้นๆ ซึ่งความร่วมมือกับภาคเอกชน ทำให้โปรเจคเฉพาะกิจที่พัฒนาขึ้นสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

  1. ใช้เทคโนโลยีทำงาน “Work From Home”

เมื่อต้องอยู่บ้าน บริษัทจีนให้พนักงาน “Work From Home” พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น หรือผลลัพธ์ดีขึ้น และสิ่งที่ตามมาจากนโยบาย Work From Home คือ แอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมเกี่ยวกับ Management เติบโตขึ้นมาก

  1. การขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ใหม่

เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วง COVID-19 อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโต ทำให้ผู้ให้บริการด้านนี้เร่งขยายธุรกิจ เช่น “SF Express” โลจิสติกส์ของจีน ได้ขยายเที่ยวบินขนส่ง และยอดขายเติบโตถึง 2 เท่า

หรืออีกรูปแบบการขยายธุรกิจคือ กลยุทธ์ M&A (Merge & Acquisition) เนื่องจากในช่วงวิกฤต หลายบริษัทขาดสภาพคล่อง ทำให้บริษัทที่มีเงินทุน ใช้จังหวะนี้ซื้อกิจการที่มีศักยภาพ แต่ขาดสภาพคล่องทางธุรกิจ

  1. “หุ่นยนต์” เทคโนโลยีแห่งอนาคต

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าในประเทศจีน เริ่มมีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเทคโนโลยี Smart Contact มาใช้ในกระบวนการธุรกิจ เช่น JD.com ใช้หุ่นยนต์ในการส่งของ แทนกำลังคน เพื่อลดความเสี่ยง หรือโรงแรมบางแห่งในจีน ใช้หุ่นยนต์ให้บริการลูกค้า เพื่อลดการสัมผัส

 

 

สามารถติดตามรับฟัง Marketing Oops! Podcast
ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ที่


  • 3.4K
  •  
  •  
  •  
  •  
Ittichai
ผู้ก่อตั้ง บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดจีน เจ้าของเพจ Level Up Thailand, Level Up China และ เว็บไซต์ Level Up Thailand (https://www.levelupthailand.com) มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ในจีน เป็นนักพูดสร้างสรรค์ และผู้เขียนหนังสือ “บุกตลาดจีนด้วยโซเชียลมีเดีย”