Google ประกาศรายชื่อโฆษณาที่ได้รับรางวัล YouTube Ads Leaderboard ประจำปี 2561 ซึ่งพิจารณาจากความนิยมและความชื่นชอบของคนไทย โดยมีด้วยกันทั้งหมด 10 เรื่อง ที่มีจำนวนการเข้าชมรวมกันมากกว่า 90 ล้านครั้ง
#1 ผมยาวไม่หยุด แล้วเดินตามฝันให้สุด – SunsilkThailand
#2 พี่หมื่นพาฟิน #ขายดีร้านแตก – True Smart Merchant
#3 คุณรู้สึกอย่างไรกับเด็กผู้ชายที่ชอบแต่งหน้า – S Mom Club
#4 ร็อคกี้เลิฟสตอรี่ – Magiclean TH
#5 ประกันติดรถ ต้องเงินติดล้อเท่านั้น!!! (Full Version) – เงินติดล้อ
#6 ภารกิจพิชิตใจแม่ผัว!! – CJ Supermarket
#7 Sun Shy Day นายน่ารัก…เราหน้าร้อน – CutepressThailand
#8 บุพเพสันนิวาสตอนพิเศษ…อยากกินเด็ก | แดนซ์มัดใจอโยธยาคิ้วท์บอย – AIS
#9 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าขึ้นรถบัสเกษตรแล้วเจอเจ้านาย เรื่องจริง ไม่เบลอ!! – BRANDS World Thailand
#10 แม่ที่ดีเป็นยังไง ? – Krungthai Care
สิ่งที่โฆษณาทั้ง 10 เรื่องสะท้อนให้เห็นถึงการทำตลาดในไทย
คนไทยชอบใช้สมาร์ทโฟนซึ่งทำให้พฤติกรรมการรับชมวิดีโอเปลี่ยนไป ปัจจุบันคนไทยสามารถรับชมวิดีโอได้ทุกที่ทุกเวลาทางอุปกรณ์เคลื่อนที่ โฆษณาที่ได้รับรางวัล YouTube Ads Leaderboard ประจำปี 2561 แสดงให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์และเอเจนซี่โฆษณา โดยมีโฆษณาหลากหลายรูปแบบจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ และเทรนด์ที่น่าสนใจจากโฆษณายอดนิยม มีดังนี้
- ประเด็นที่พูดถึงกันในโลกโซเชียลเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนา ซันซิล (อันดับ 1) และ S-Mom Club (อันดับ 3) เข้าใจความต้องการของผู้ชมในการรับรู้ข่าวสารที่เป็นปัจจุบันและตรงกับความสนใจ ทั้ง 2 แบรนด์สร้างสรรค์โฆษณาที่นำไปสู่การสนทนาในประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้คน อาทิ ประเด็นเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) และภาพเหมารวมด้านเพศภาวะ (Gender Stereotype) การชั่งน้ำหนักประเด็นต่างๆ นั้นมีความเสี่ยงอยู่เสมอ และใช่ว่าทุกแบรนด์จะหยิบยกมาพูดถึงได้ แต่ซันซิล และ S-Mom Club สามารถถ่ายทอดประเด็นอ่อนไหวออกมาได้อย่างดี
- การใช้ข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ บางแบรนด์เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างถ่องแท้โดยอาศัยงานวิจัยและข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ อาทิ ความเชื่อเรื่องโชคลาง (เงินติดล้อ อันดับ 5) กิจวัตรตอนเช้าของนักศึกษา (Brands World Thailand อันดับ 9) เพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้าและบริการของตนจะช่วยเปลี่ยนบรรทัดฐานเหล่านั้นได้อย่างไร
- การต่อยอดคอนเทนต์ทีวีบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โฆษณาบางเรื่องอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนว่ากำลังดูละครอยู่ ละครในอดีตจัดทำขึ้นมาเพื่อขายสบู่ โดยมีจุดเริ่มต้นจากละครที่ออกอากาศทางวิทยุในช่วงทศวรรษที่ 1930 จึงเป็นที่มาของคำว่า Soap Opera นั่นเอง True Smart Merchant (อันดับ 2) และ AIS (อันดับ 8) นำไอเดียการตลาดแบบดั้งเดิมนี้มาปรับให้เข้ากับยุดิจิทัลโดยนำละครมาทำเป็นตอนสั้นๆ และเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์