ต้องยอมรับว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายเป็นอย่างมากของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล จากสถานการณ์ราคาที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง จากเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนมิใช่น้อย ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนต้องประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่สินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลกลับโตสวนกระแส สามารถขยายตัวได้ดีเพราะยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่ต้องการอยู่
สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลมีการเติบโตค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะจากตัวเลขจากทาง ก.ล.ต. พบว่า บัญชีที่มีเข้ามาลงทุนในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 มีบัญชีสูงถึงเกือบ 3 ล้านบัญชี แต่จำนวนเคลื่อนไหวอาจจะลดน้อยลงไปบ้าง เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ตลาดคริปโตยังอาจจะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่มากเพราะนักลงทุนต่างให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำการสำรวจตัวเลขมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีส่วนหนึ่งมาจากคริปโตเคอร์เรนซี่ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่คนไทยฝากในเอ็กซ์เชนจ์เมืองไทยมีอยู่ประมาณ 70,000 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนหนึ่งยังมีบัญชีที่ในบัญชีต่างประเทศอีกด้วย จึงถือว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก
เอ็กซ์สปริง จับมือ KTC ออกสินเชื่อพร้อมใช้
บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Service ได้มองเห็นถึงโอกาสขยายธุรกิจในการขยายลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น จึงได้จับมือกับ เคทีซี เพื่อออกบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC – XSPRING) ซึ่งเป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเบิกใช้วงเงิน เป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยจะเริ่มให้ใช้บริการได้ช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
โดยหวังจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยสามารถนำสินทรัพย์ทุกประเภทมาเป็นหลักประกันได้ เช่น บิตคอยน์ หรืออิเทอร์เรียม เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ถือบัตรกดเงินสดนี้สามารถกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังสามารถนำบัตรกดเงินสด KTC – XSPRING รูดซื้อสินค้าได้จากทั่วโลกกว่า 80 ล้าน ร้านค้า รวมทั้งสามารถช้อปออนไลน์ได้ และสามารถโอนเงินเรียลไทม์ผ่านแอปฯ KTC Mobile เข้าบัญชีธนาคารได้ถึง 15 ธนาคาร
ภายใน 3 ปี ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเติบโตประมาณ 5 – 7 พันล้านบาท และจะขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5 – 10% จากทั้งหมดที่ซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย อีกทั้งยังเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลัง จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทได้
โดยในเฟสแรกผู้ที่จะมีบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC – XSPRING) จะต้องมีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด อยู่ก่อนการจึงใช้บริการเพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนเองถือครองอยู่มาเป็นหลักประกันได้ นอกจากนี้ ในอนาคต XSPRING ยังวางแผนที่จะเปิดรับเหรียญคริปโทฯ สกุลยอดนิยมและโทเคนอื่นมาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยนักลงทุนมีสินทรัพย์ตัวนี้อยู่ในบัญชี สามารถนำมาขอเปิดบริการใช้บัตรกดเงินสดกับทางเอ็กสปริงได้ สามารนำสินทรัพย์ตรงนี้มาฝากไว้ และลูกค้าจะได้การ์ดจากทาง KTC เพื่อนำไปใช้ จะเห็นได้ว่า แค่มีสินทรัพย์ที่ฝากเอาไว้เฉย ๆ ก็สามารถจะสร้างความสะดวกสบายให้แก่นักลงทุนได้ นำมารูดจ่ายผ่านอีโคซิสเต็มของ KTC ที่ครอบคลุมได้
อย่างไรก็ตาม นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับนักลงทุนในช่วงสภาวะที่เงินตรึงมือ นอกจากโอกาสที่มองว่า ตลาดคริปโตจะมีการขยายที่เพิ่มมากขึ้น โดยทางเอ็กซ์สปริงมองลูกค้าเป็นตัวตั้งเพื่อให้มีทางเลือกที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น