ณ เวลานี้ หน้าฟีดบน Facebook และ Twitter ของใครหลายคนคงเต็มไปด้วย มุกไวรัล “จุดแข็ง-จุดอ่อน” กันมากมายเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าถ้าไม่กระโดดมาตามเทรนด์นี้คงจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ด้วยกระแสไวรัลที่มาแรงมากขนาดนี้ ทางทีม บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE เพื่อหาที่มาของมุกสุดฮานี้ พร้อมส่องโพสต์จากแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ต่าง ว่ามีที่ไหนบ้าง ที่สร้างยอดเอ็นเกจเมนต์สูงที่สุด และมีการหยิบนำมาครีเอทได้อย่างน่าสนใจบ้าง ลองมาดูกัน
จุดสตาร์ท
จุดเริ่มต้นของกระแสไวรัลนี้ เกิดบน ‘ทวิตเตอร์แลนด์’ ดินแดนทวีตี่เอง โดยเริ่มมาจาก แอคเคาท์ @k_chunh บน Twitter ซึ่งได้โพสต์มุก ‘จุดแข็ง-จุดอ่อน’ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เนื้อหาเกี่ยวข้องกับคำถามในการสัมภาษณ์งาน ซึ่งหลายคนที่เคยเจอคำถามเช่นนี้น่าจะรู้สึกมีส่วนร่วมด้วยได้ไม่ยาก
เพจขยี้ต่อจนไวรัล
ซึ่งหลังจากนั้นก็เกิดกระแสสนทนากันมากมายบนทวิตเตอร์ ก่อนที่จะถูก แอคเคาท์ Salmon House @onsalmonlab ได้หยิบยกมุกเดียวกันนี้ไปเล่นต่อบน Twitter เช่นกัน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม จนกลายเป็นกระแสไปทั่วทั้งโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงสร้างกระแสครอสแพล็ตฟอร์มกันเลย
จุดแข็ง : เป็นคนจริงจัง ไม่ติดเล่น
จุดอ่อน : ของฉันอยู่ตรงที่หัวใจ— Salmon Lab (@onsalmonlab) March 11, 2022
(โพสต์ของ Salmon House ที่ทำให้มุกจุดแข็ง-จุดอ่อน เกิดเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย)
5 ล้าน Engagement บนโซเชียลฯ ฮิตเล่นกันทั้งปฐพีออนไลน์
และหลังจากนั้น ก็อย่างที่เราเห็นกันกระแสความไวรัลของ “จุดแข็ง-จุดอ่อน” ก็เริ่มระบาดไปทั่วทั้งโลกโซเชียลฯ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีไวรัลจนถึงปัจจุบัน (9-14 มีนาคม 2565) กระแสนี้มียอดเอ็นเกนเมนต์รวมอยู่ที่ 5,790,601 เอ็นเกจเมนต์ จากผู้ใช้งานทั้งหมด 8,474 แอคเคาท์
ทั้งนี้มี 2 ช่องทางหลักที่มีการเล่นมุกดังกล่าว ได้แก่
- Twitter 57.48%
- Facebook 40.43%
- ช่องทางอื่นๆ อาทิ Instagram, YouTube มีสัดส่วนคิดเป็น 09%
Influencer, User ร่วมเล่นมากกว่า 70%
เมื่อลองส่องโพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงสุด พบว่า ทั้งแบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ และบุคคลทั่วไปต่างนำมุกนี้มาเล่นอย่างแพร่หลาย คิดเป็นอินฟลูเอนเซอร์และคนทั่วไป 78.9% และแบรนด์ 21.1%
โดย 3 อันดับโพสต์จาก Influencer ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์สูงสุด ได้แก่
- เพจเท่ง เถิดเทิง แฟนคลับ 224,046 เอ็นเกจเมนต์
- แอคเคาท์ @kyokazuu ทาง Twitter 136,201 เอ็นเกจเมนต์
- แอคเคาท์ @tattoocolourth ทาง Twitter 121,553 เอ็นเกจเมนต์
ส่วน 3 อันดับโพสต์จาก Brand ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์สูงสุด ได้แก่
- เพจ 7-Eleven Thailand (18,790 เอ็นเกจเมนต์)
- เพจ LEO Thailand (16,239 เอ็นเกจเมนต์)
- เพจ Lazada (11,470 เอ็นเกจเมนต์)
บทสรุป
ทั้งหมดนี้ น่าจะพอทำให้เราเห็นภาพของเส้นทางไวรัลของ “จุดแข็ง-จุดอ่อน” ว่าเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร ซึ่งไวรัลนี้อาจจะไม่ได้เป็นเวทีของทางฝั่งแบรนด์มากนัก แต่อาจจะเป็นบทบาทของกลุ่ม Influencer หรือบรรดาแอดมินเพจดังต่างๆ มากกว่า แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังสะท้อนภาพว่า user ไทยยังคงชอบเล่นล้อไปกับกระแส Make fun มากที่สุด ซึ่งสามารถสร้าง Engagement ได้ค่อนข้างดี อย่างน้อยก็ได้พื้นที่สื่อเบียดมาอยู่บนกระแสข่าวการเสียชีวิตของคุณแตงโม และข่าวสงครามยูเครน-รัสเซีย ในช่วงนี้ได้ ก็นับว่าเป็นไวรัลที่ไม่เบาเลยทีเดียว แบรนด์ก็สามารถหามุมหยิบมาครีเอทสร้างสรรค์ได้น่าสนใจได้ดีเลย ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์คอนเทนต์ด้วยเช่นกัน.