หลังจากที่มีความฮือฮาเรื่องการซื้อตั๋วโดยสารเพิ่มให้กับ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ของสายการบินไทยสมายล์ ทำให้เกิดข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงระเบียบและข้อปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากลว่าการเดินทางพร้อม “ตุ๊กตาลูกเทพ” โดยใช้ข้อปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้โดยสารปกตินั้นถูกต้องหรือไม่
ล่าสุด หลังการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตัวแทนสายการบิน และสนามบิน มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการในการนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องบิน นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยานและรักษาการผู้อำนวยการ กพท. แถลงถึงแนวทางวิธีปฏิบัติในการนำ “ตุ๊กตาลูกเทพ” ขึ้นเครื่องเพื่อให้สายการบินและสนามบินใช้แนวทางเดียวกัน ว่า ได้ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจวิธีการปฏิบัติในการนำสัมภาระติดตัวผู้โดยสารไปกับอากาศยาน และมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป ดังนี้
1.สถานะตุ๊กตาลูกเทพ ว่าคือ สัมภาระติดตัว ไม่ถือว่าเป็นผู้โดยสาร ซึ่งในการปฏิบัติสากล ผู้โดยสารจะต้องเป็นบุคคลเท่านั้น
2.เรื่องความปลอดภัยบนห้องโดยสาร การจัดเก็บตุ๊กตาลูกเทพในห้องโดยสาร ผู้โดยสารมีหน้าที่จัดเก็บและปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานในการเก็บสัมภาระ ซึ่งหลักปฏิบัติสากลนั้นในระหว่างอากาศยานทำการขึ้น (Take off) หรือลง (Landing) สัมภาระจะจัดเก็บได้ 2 ที่คือ ที่เก็บเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่ง โดยกำหนดให้ปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำแนะนำของพนักงานบนเครื่องบิน เนื่องจากเครื่องบินในแต่ละรุ่นจะมีขนาดที่แตกต่างกัน และยังเปิดให้มีการตกลงกับสายการบินได้ เช่น สามารถซื้อที่นั่งให้กับตุ๊กตาลูกเทพได้ ซึ่งเป็นไปตามปกติ ที่สัมภาระประเภทอื่น เช่น ผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งเพิ่มเพื่อวางสัมภาระที่ไม่ต้องการโหลดใต้ท้องเครื่องบิน
3.เป็นมาตรฐานรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสัมภาระที่ท่าอากาศยาน ก่อนขึ้นเครื่องบิน ซึ่งจะต้องตรวจค้นสัมภาระทุกประเภทตามปกติ เพื่อตรวจสอบเรื่องวัตถุอันตราย วัตถุระเบิดต่างๆ ซึ่งตุ๊กตาลูกเทพต้องผ่านการตรวจค้นตามมาตรฐาน หากไม่ยอมรับการตรวจค้นหรือตรวจแล้วไม่ผ่าน จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
ทั้งนี้ สาเหตุที่จะต้องออกประกาศก็เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับทราบถึงหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อการนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องบินเหมือนกัน เพื่อให้ผู้โดยสารที่มีตุ๊กตาและไม่มีตุ๊กตาสามารถเดินทางไปด้วยกันได้ และเพื่อซักซ้อมความเข้าใจวิธีการปฏิบัติในการนำสัมภาระติดตัวผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน โดยข้อปฏิบัติต่างๆ เป็นระเบียบที่มีอยู่แล้ว แต่นำมากำหนดให้ทราบตรงกัน อีกทั้งจะทำให้พนักงานของสายการบินและสนามบิน ได้รับรู้แนวทางปฏิบัติที่เหมือนกัน และผู้โดยสารจะรับทราบถึงสิทธิของตัวเอง ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ โทษปรับ หรือจำคุก ตามมาตรการความสงบเรียบร้อยบนเครื่องบินและมาตรการความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ขนาดที่เก็บสัมภาระขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบิน และขึ้นกับดุลพินิจของแต่ละสายการบินที่จะให้บริการต่อผู้โดยสาร บางแห่งอาจจะมีที่เก็บเฉพาะให้ ส่วนกรณีซื้อที่นั่งเพิ่มจะกำหนดที่ตรงไหนนั้นขึ้นกับสายการบินซึ่งจะมีมาตรฐานความปลอดภัยกำหนดไว้อยู่แล้ว เช่น ติดประตูฉุกเฉิน ใครนั่งไม่ได้บ้าง หรือหากมีผู้โดยสารอื่นไม่สบายใจที่จะติดกับตุ๊กตาลูกเทพสายการบินจะพิจารณาในการย้ายที่นั่งให้
ส่วนบริการต่างๆ ที่จะขอเพิ่มเติม เช่น ขอเครื่องดื่มหรืออาหารให้ตุ๊กตาลูกเทพนั้นเป็นเรื่องของแต่ละสายการบินที่จะให้บริการต่อผู้โดยสาร กพท.เน้นในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและบริการที่เป็นไปตามกำหนดเท่านั้น.