เกิดประเด็นร้อนขึ้นมาทั้งแวดวงธุรกิจและบันเทิง ที่จู่ๆ มีข่าวว่าแบรนด์นาฬิกาหรู ตัดสินใจปลดนางเอกแถวหน้าของวงการออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์แบบฟ้าแล่บ
สืบเนื่องจากกรณี ทางนาฬิกา OMEGA ได้ส่งจดหมายชี้แจงถึงสื่อมวลชน เกี่ยวกับเรื่องประกาศปลด “ปู-ไปรยา” ออกจากตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากประพฤติผิดไปจากสัญญาที่ได้ตกลงไว้กับทางแบรนด์ โดยแถลงการณ์ระบุใจความสำคัญว่า หากทาง ปู-ไปรยา และ นายเกียรติศักดิ์ เหลืองรุ่งโรจน์ มีการแอบอ้างหาผลประโยชน์จากชื่อเสียงของแบรนด์ ทางแบรนด์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่า อินสตาแกรมส่วนตัวของ ปู ก็ได้ลบภาพตอนไปร่วมงานฉลองครบรอบ 60 ปี นาฬิกาโอเมก้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ยังคงทำงานที่ต่างประเทศพร้อมด้วยผู้จัดการส่วนตัว
ด้าน นายวุฒินันท์ ทองเนื้อดี ผู้บริหารการตลาด บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ชี้แจงเรื่องนี้เพียงสั้นๆว่า “เรื่องนี้เกิดจากความผิดพลาดทางธุรกิจ และทางโอเมก้าเองก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นประเด็น เพราะกลัวจะทำให้เกิดเสียชื่อเสียงกับทางคุณปูและทางโอเมก้าด้วย”
ล่าสุด ทาง “ปู ไปรยา” ได้ออกมาชี้แจงผ่าน Facebook ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยใจความสำคัญยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำผิดสัญญาแต่อย่างใดกับ OMEGA เพราะยังไม่ได้มีการเซ็นตกลงจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือ Brand Ambassador แต่อย่างใด แค่ไปร่วมงานในฐานะ Influencer เท่านั้น ดังนั้น ตนยังสามารถใส่นาฬิกาแบรนด์อื่นได้ อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะคืนสินค้าและค่าจ้างในงานนั้นทันที ตามเงื่อนไขของ OMEGA แต่ติดใจตรงที่ทางแบรนด์ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดให้ครบถ้วนสร้างความเข้าใจผิดให้กับตนเอง และยังไม่มีทีท่าที่จะแถลงให้ชัดเจนต่อสาธารณะ ดังนั้น จะขอใช้วิธีทางกฎหมายเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
Praya Lundberg
รบกวน share นะค่ะ เรียน ท่านสื่อมวลชนที่เคารพทุกท่านค่ะ
ก่อนอื่นปูต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและแฟนคลับทุกท่านมากๆ เลยนะคะ นับแต่มีเหตุการณ์การส่งหนังสือถึงสื่อต่างๆตามที่ปรากฏในข่าว จนถึงวันนี้ ทางทีมงานของปูก็ได้กำลังใจจากทุกท่านมาโดยตลอด ซึ่งทำให้ปูตระหนักและตัดสินใจที่จะออกมาพูดถึงที่มาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและออกมาแสดงจุดยืนในฐานะที่เป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึงและถูกกระทบสิทธิโดยตรงนะคะ
1. ปูขอเริ่มอธิบายจากเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ทาง บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้มอบหมายให้คุณวุฒินันท์ หรือคุณโอม มาเสนอให้ปูดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งใน Friends of Omega โดยจะให้สิทธิในการเป็นเจ้าของนาฬิกา Omega เพื่อให้ปูสวมใส่และประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯ ได้เสนอเงื่อนไขว่าปูจะต้องร่วมกิจกรรมของทางแบรนด์และทางบริษัทที่จะจัดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อปูพิจารณาถึงเงื่อนไขที่เสนอมาแล้ว ไม่ได้มีลักษณะผูกพันตัวปูให้เป็น presenter หรือ brand ambassadorโดยตรง แต่จะออกเป็นไปในลักษณะที่เป็น Influencer เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าในตลาดไทย ปูจึงตอบตกลงตามเงื่อนไขที่เสนอมา (ตามรูป) และก็ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงกันอย่างเคร่งครัด
2. หลังจากนั้น ปูก็ได้เข้าร่วมอีเวนท์ The Lost in Space ที่ลอนดอนตามเงื่อนไขในสัญญา พร้อมใส่นาฬิกาของโอเมก้าและโพสใน IG ของปูตามที่ได้ตกลงกัน ทุกฝ่ายก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร
3. ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ปูได้ร่วมงานที่ลอนดอนและทำการประชาสัมพันธ์สินค้าให้กับโอเมก้าแล้ว ทางโอเมก้ากลับขอให้ปูเซ็นสัญญาที่ทางโอเมก้าจัดทำขึ้นมาใหม่โดยให้เหตุผลว่าทางทีมบริหารต่างประเทศของโอเมก้าต้องการให้เปลี่ยนสัญญา
4. เมื่อปูตรวจสอบเนื้อหาในสัญญา ก็พบว่ามีข้อตกลงใหม่ที่ไม่ได้ตกลงกันมาก่อน ซึ่งได้เพิ่มขึ้นในสัญญาและเป็นไปในลักษณะที่จะให้ปูเป็น Brand Ambassador ที่มีข้อผูกมัดห้ามไม่ให้ใส่นาฬิกายี่ห้ออื่นออกสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ปูไม่อาจตกลงด้วยได้ เนื่องจากตอนนั้นปูได้เซ็นสัญญากับแบรนด์อื่นที่มีสินค้าประเภทนาฬิกาไว้อยู่ก่อนแล้ว ปูจึงไม่ได้เซ็นหรือลงนามในสัญญาที่โอเมก้าส่งมาให้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาเดิมที่เราไม่สามารถทำได้ ซึ่งทางโอเมก้านั้นรับทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้วเป็นอย่างดี
5. แต่ด้วยความที่ปูต้องทำงานอย่างมืออาชีพ และให้เกียรติโอเมก้า ปูก็ยังคงไม่ได้รับเป็น Brand Ambassador หรือเข้าเป็น Influencer ให้กับแบรนด์นาฬิกาอื่นซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าของโอเมก้าจนถึงปัจจุบัน
6. ปัญหามาเกิดตอนที่ ปูโพสต์ IG เพื่อโฆษณาเสื้อผ้าของแบรนด์หนึ่ง ซึ่งมีนาฬิกาเป็น Accessory ด้วย แต่บริบทของโฆษณานั้นเป็นการขายตัวเสื้อผ้า ไม่ได้เน้นขายนาฬิกา ซึ่งเมื่อรูปนี้เผยแพร่ไปใน IG ของปู ก็ทำให้โอเมก้าไม่พอใจและบอกว่าเราละเมิดข้อสัญญา ซึ่งทางปูได้อธิบายไปแล้วว่าเราไม่ได้ตกลงเรื่องการเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาที่เขาขอมา
7. ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าจะมองกัน อย่างเป็นกลาง แม้หากปูจะไปโฆษณานาฬิกาแบรนด์อื่นก็ยังสามารถทำได้เพราะเราไม่ได้ตกลงกันเรื่องการโฆษณาสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน
8. เมื่อทางโอเมก้า ติดต่อมาว่าทางบริษัทฯ ต้องการให้ปูคืนนาฬิกา พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือถึงสื่อมวลชนต่างๆ ที่ไม่สามารถรู้ถึงการตกลงระหว่างปูกับโอเมก้าได้เลย จึงทำให้ปูเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เนื่องจากเรารักษามาตรฐานในการทำงานและคงความซื่อสัตย์ต่ออาชีพ แต่กลับได้รับความเสียหายจากการให้ข่าวดังกล่าว ปูจึงแจ้งกับทางโอเมก้าว่าปูยินดีคืนนาฬิกาและค่าจ้างที่ได้รับจากการทำงานกับโอเมก้าที่ปูได้ทำให้แล้ว และยังยืนยันว่าปูไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาใดๆ แต่ปูก็ได้ขอความเป็นธรรมจากโอเมก้า ให้ช่วยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อให้สาธารณชนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งคุณวุฒินันท์ก็ออกมายอมรับแล้วว่าเกิดจากความผิดพลาดของโอเมก้าเอง แต่ถึงวันนี้ปูก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่เป็นรูปธรรมจากโอเมก้าแต่อย่างใดค่ะ
9. ขั้นตอนต่อจากนี้ ก็คงจะต้องให้ทีมกฎหมายของปูประสานกับทีมกฏหมายของทางโอเมก้า เพื่อหาทางออกกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปค่ะ
จากนี้คงต้องติดตามว่าบทสรุปส่งท้ายจะเป็นอย่างไร แต่จากเรื่องนี้ก็น่าทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องการทำสัญญาให้ชัดเจนพร้อมตกลงร่วมงานกันให้ดีก่อนที่จะมีเรื่องบานปลายได้.
Copyright © MarketingOops.com
