“โรงแรมดุสิตธานี” ถือเป็นโรงแรมระดับห้าดาวในประเทศไทยช่วงแรกๆ ที่มีจุดเด่นยอดแหลมทองด้านบนสุดของอาคาร นอกจากนี้โรงแรมดุสิตธานียังมีร้านอาหาร ภัตตาคารและไนท์คลับที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทยช่วงยุคเวลาหนึ่ง ถึงขนาดที่ส่งให้มีกรแจ้งเกิดของศิลปิน ดารา นักร้อง นักดนตรีจำนวนมากจากที่นี่ เป็นที่ทราบกันว่าโรงแรมดุสิตธานีเกิดจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและเป็นการบุกเบิกโดย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย
โดย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ได้ถึงแก่อนิจกรรมในวัย 99 ปี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 โดยมีกำหนดพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม ณ ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโรงแรมไทยและการท่องเที่ยวไทย
สำหรับท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ได้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานีในช่วงวัย 28 ปี หลังกลับจากการศึกษาที่สหรัฐอเมริกาจนมีประสบการณ์ในการบริการของโรงแรมต่างๆ และเกิดความสนใจที่จะกลับมาทำธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวในประเทศไทย โดยโรงแรมแรกที่ท่านผู้หญิงลงมือทำอย่างจริงจังคือ “โรงแรมปริ๊สเซส” ริมถนนเจริญกรุง แต่ด้วยข้อจำกัดหลายด้านจึงยุติกิจการลง
และมีการมองหาที่ตั้งทำเลโรงแรมแห่งใหม่ โดยเลือกที่ดินบริเวณหัวถนนสีลม หรืออดีตบ้านศาลาแดงที่พระยายมราช (ปั้นสุขุม) ราชเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ซึ่งต่อมาอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยได้รับสัมปทานเช่าระยะยาวถึง 30 ปี และให้ชื่อโรงแรมนี้ว่า “โรงแรมดุสิตธานี” ถือว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวและสูงที่สุดในประเทศ และกลายเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร
หลังได้ที่ดินแล้ว ก็เป็นเรื่องของการลงทุนโดยท่านผู้หญิงใช้วิธีขายทรัพย์สินของตัวเองในเวลานั้น ตั้งแต่เครื่องประดับไปจนถึงการจำนองบ้านของตัวเอง เพื่อนำเงินมาลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาวตามที่เคยใฝ่ฝันไว้ แต่การสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ซึ่งเงินลงทุนก้อนแรกหมดไปกับการก่อร่างสร้างโรงแรมเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
แต่ท่านผู้หญิงก็ไม่ย่อท้อ นำโปรเจ็กต์โรงแรมระดับ 5 ดาวของประเทศไทยไปเสนอเพื่อขอกู้ยืมเงินระยะยาวกับสถานบันการเงินอย่างธนาคาร ซึ่งการกู้เงินจำนวนมหาศาลในอดีตไม่ใช่เรื่องง่าย เรียกว่าไม่มีธนาคารไหนใจถึงให้กู้ยืมเงิน แต่สุดท้ายท่านผู้หญิงก็หาแหล่งเงินทุนจากธนาคารในต่างประเทศได้ ทั้งจากญี่ปุ่นและเยอรมนี โดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์ของไทยเป็นผู้ช่วยค้ำประกัน อย่างธนาคารแหลมทอง (ปัจจุบันคือธนาคาร UOB จำกัด (มหาชน)) และธนาคารกรุงไทย
สำหรับโรงแรมดุสิตธานีเปิดให้บริการวันแรก 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2513 โดยมี สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยแขกร่วมงานกว่า 3,000 คน โดยชื่อของโรงแรม ท่านผู้หญิงได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อโครงการเมืองในฝันของรัชกาลที่ 6 ในปี 2461 ที่ทรงพระราชทานเรียกเมืองจำลองต้นแบบประชาธิปไตยเอาไว้ว่า “ดุสิตธานี” และถือเป็นชื่อมงคลที่หมายถึง “สวรรค์ชั้นที่ 4”
ในเวลาต่อมาท่านผู้หญิงได้ก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านการโรงแรมและบริหารการท่องเที่ยว รวมถึงการร่วมธุรกิจกับสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอของประเทศฝรั่งเศส ในการตั้งโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานี ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมทั้งหมด 33 แห่ง และมีโรงแรมที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก ขณะนี้โรงแรมดุสิตธานีกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อก้าวสู่ความยิ่งใหญ่และทันสมัยมากขึ้น โดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เชื่อว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว การสร้างโรงแรมที่มีความโดดเด่นและดีที่สุดตามมาตรฐานสากล ที่กลมกลืนไปกับขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยที่มีเสน่ห์จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
Source: Sanook
