เมื่อเทคโนโลยีมือถือพัฒนามากขึ้น ทั้งกล้องหน้ากล้องหลังที่ออกแบบให้สามารถถ่ายภาพได้ดีราวกับกล้องโปร ทำให้กิจกรรมเซลฟี่เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่หนึ่งผู้คนเริ่มกังวลกันมากขึ้นคือการถ่ายภาพเซลฟี่ในจุดอันตรายต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ และบานปลายกลายเป็นปัญหาในหลายประเทศ
ทั้งนี้เว็บ Thenextweb.com ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เสียชีวิตจากการตกมาจากที่สูง โดยสาเหตุเกิดจากโพสต์ภาพเพื่อกระโดดลงมาจากซากปรักหักพังของโบราณสถาน Machu Picchu ในเปรู (อ่านข่าวเพิ่มเติม) และก่อนหน้านั้นเพียงแค่วันเดีว ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากความพยายามโพสต์ภาพเซลฟี่บนยอดสุดของน้ำตก Gocta ในเปรูเช่นกัน
การเซลฟี่ อาจจะไม่ใช่สาเหตุอย่างเป็นทางการที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ตัวเลขของเหตุที่เกิดขึ้นก็เริ่มมีจำนวนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกการตายในลักษณะนี้เป็นคำเฉพาะว่า risky selfies
ภาพด้านบนนี้ คือหนุ่มวัยรุ่นชาวรัสเซีย ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะพยายามที่จะถ่ายรูปเซลฟี่ตามจุดต่างๆ (อ่านข่าวเพิ่มเติม)
ทั้งนี้จากข้อมูลของ Priceonomics (บริษัทผู้ให้บริการด้าน data) เปิดเผยว่า สาเหตุการรเสียชีวิตที่เกิดจากการเซลฟี่ส่วนใหญ่เป็นเพราะตกลงมาจากที่สูง ตามมาด้วยการจมน้ำ ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 21 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ 75% ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ชอบสร้างสรรค์การเซลฟ่ในแบบที่เสี่ยงอันตรายมากกว่าผู้หญิง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงมีตัวเลขในการเซลฟี่สูงกว่า
ประเด็นการเซลฟี่ที่เสี่ยงอันตรายนี้ส่งผลกระทบต่ออัตราประชากรโลกด้วย โดยในเดือนมกราคมปี 2016 The Washington Post รายงานว่า ประเทศอินเดียมีจำนวนของการเสียชีวิตเพราะการเซลฟี่สูงที่สุดในโลก ดังนั้น ทางรัฐบาลอินเดียจึงได้ตัดสินใจเพิ่มโซน “no selfie” หลายจุดในพื้นที่ท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ประเทศรัสเซีย รัฐบาลได้ให้คำแนะนำในที่สาธารณะเพื่อความปลอดภัยในการเซลฟี่เมื่อปีที่แล้ว
และยังมีอีกหลายประเทศที่มีประชากรเสียชีวิตเนื่องจากถ่ายภาพในจุดเสี่ยงอันตราย อย่างเมื่อปีที่แล้ว ในวันก่อนวันขึ้นปีใหม่นักศึกษาวิทยาลัยหนึ่งตกลงมาจากโรงแรม Four Seasons Hotel เสียชีวิตทันทีสาเหตุเพราะต้องการถ่ายภาพจากจุดสูงของอาคาร
ที่อึ้งไปกว่านั้นคือยังพบว่า ตัวเลขในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีสัญญาณเลยว่า สาเหตุการตายอันเกิดจากการถ่ายภาพในจุดเสี่ยงจะมีทีท่าลดลง ซึ่งน่าวิตกอย่างยิ่ง และจากรายงานทั้งหมดนี้คงเห็นแล้วคนส่วนใหญ่ตายเพราะอยากจะทำในสิ่งที่ชอบ แต่ไม่ว่าจะเป็นจำนวนไลค์ จำนวนแชร์ หรือการรีทวีตภาพ มันคุ้มค่าแล้วหรือที่คุณจะทำเพื่อให้ looking cool!