กลายเป็นอีกหนึ่งกระแสดราม่าเล็กๆหลังจากงาน “Apple Event” ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นด้วยกันโดยหนึ่งในนั้นก็คือ iPad Pro ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยชิพ M4 ที่บางลงกว่าเดิม แต่ที่ดราม่ามันกลับไม่ใช่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่เป็นโฆษณา iPad Pro ที่ปล่อยออกมาพร้อมกัน ที่ต้องเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนรองประธานฝ่ายการตลาดของ Apple ต้องออกมาขอโทษเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา Apple เปิดตัว iPad Pro ที่บอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมา และเพื่อสื่อสารจุดเด่นนี้ Apple จึงปล่อยคลิปโฆษณาที่มีชื่อว่า Crush! ออกมา ในคลิปโชว์ให้เห็นอุปกรณ์ต่างๆตั้งแต่เครื่องดนตรีเช่นเปียโน เครื่องเกม กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ อุปกรณ์เกี่ยวกับการวาดเขียน ถูกเครื่อง Hydroric Crusher ขนาดยักษ์บีบอัดจนแบนเละ และเหลือไว้แค่ iPad Pro ในตอนจบเท่านั้น
ก่อนจะอ่านต่อลองดูคลิปโฆษณา Crush! ด้านล่างนี้ดูก่อน
หลังปล่อยคลิปออกมากลายเป็นว่าโฆษณาตัวนี้กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์จากโลกออนไลน์โดยเฉพาะในชุมชนชาว X ในต่างประเทศโดยเฉพาะดารารุ่นใหญ่อย่าง Hugh Grant ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับครีเอทีฟโฆษณาตัวนี้โดยแสดงความเห็นเชิงเสียดสีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่ง Sillicon Valley ว่าเป็น “การทำลายล้างประสบการณ์ของมนุษย์ ผลผลิตจาก Silicon Valley”
The destruction of the human experience. Courtesy of Silicon Valley. https://t.co/273XB3CfnF
— Hugh Grant (@HackedOffHugh) May 8, 2024
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ Hugh Grant เท่านั้นแต่ยังมีความคิดเห็นจากทั่วโลกโดยเฉพาะสารพัด Reply ที่เข้าไปแสดงความเห็นในโพสต์ของ Tim Cook ที่เผยแพร่คลิปโฆษณา iPad Pro ตัวนี้
Meet the new iPad Pro: the thinnest product we’ve ever created, the most advanced display we’ve ever produced, with the incredible power of the M4 chip. Just imagine all the things it’ll be used to create. pic.twitter.com/6PeGXNoKgG
— Tim Cook (@tim_cook) May 7, 2024
ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้ X จากประเทศญี่ปุ่นรายหนึ่งบอกว่า “คุณทำลายเครื่องมือแห่งความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของมนุษย์ โฆษณาที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
ผู้ใช้ X อีกรายออกความคิดเห็นแนวเสียดสีว่า “สัญญะของการบดทำลายอุปกรณ์แห่งการสร้างสรรค์แบบไม่เลือกหน้าดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจนะเนี่ย” อีกบางส่วนบอกว่า “ไม่รู้สึกอินกับวิดีโอนี้เลย มันเป็นการไม่เคารพเครื่องมือสร้างสรรค์เหล่านี้และเหมือนเป็นการล้อเลียนครีเอเตอร์ทั้งหลายเลย”
ชาว X บางคนระบุว่า คลิปนี้ดูเหมือนว่า “iPad กำลังบดขยี้จิตวิญญาณของมนุษย์” ส่วนอีกความเห็นบอกว่า “เมื่อ 40 ปีก่อน Apple ปล่อยโฆษณาในปี 1984 ที่สื่อสารถึงการต่อต้านโลกดิสโทเปียในอนาคต แต่ตอนนี้ คุณกำลังเป็นโลกดิสโทเปียนั้นซะเองแล้ว ยินดีด้วย”
เรียกได้ว่าความเห็นเกี่ยวกับครีเอทีฟ ของโฆษณาตัวนี้ดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด บางส่วนถึงกับช่วยคิดครีเอทีฟโฆษณาให้ใหม่โดยบอกว่า โฆษณาตัวนี้จะสื่อสารได้ดีกว่าถ้าลองเล่นคลิปวิดีโอย้อนกลับ ให้อุปกรณ์สร้างสรรค์ทุกอย่างค่อยๆขยายออกมาจาก iPad Pro
I think the ad would work much better if it was reversed. All the objects should be expanding out of the iPad rather than being crushed into it
made this edited version in five minutes (thanks iMovie!) pic.twitter.com/TZxzpuYzXu
— kepano (@kepano) May 8, 2024
บางความเห็นใน X ยังชี้ให้เห็นว่า ไอเดียเรื่องการบดอัดอุปกรณ์ต่างๆและหลงเหลือไว้ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็เคยเป็นไอเดียที่เคยนำเสนอกันมาแล้วในโฆษณาสมาร์ทโฟน LG เมื่อ 15 ปีก่อน
คลิปโฆษณาสมาร์ทโฟน LG KC910 Renoir ความยาว 30 วินาที
สำหรับคลิปวิดีโอตัวนี้ในมุมของ Apple น่าจะพยายามสื่อสารในเรื่องของประสิทธิภาพของ iPad Pro รุ่นใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยความสามารถของเครื่องมือในการทำงานสร้างสรรค์ผลงานด้านต่างๆได้ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ วิดีโอ การวาดภาพ การสร้างงานดนตรี หรือแม้แต่งานเขียน ความสามารถที่สะท้อนออกมาในรูปของเครื่องมือที่มนุษย์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ โดยผสมผสานเอาแนวคิดจากคอนเทนต์แนว Hydroric Press ที่สร้างความบันเทิงให้กับโลกออนไลน์มายาวนานหลายปี
แต่กลายเป็นว่าผู้ชมโฆษณาตัวบางส่วนกลับรู้สึกว่า iPad Pro รุ่นใหม่กำลังทำลายอุปกรณ์สร้างสรรค์ของมนุษย์ที่มีมาอย่างยาวนาน ทำลายจิตวิญญาณนักสร้างสรรค์ และเปรียบเทียบมุมมองที่มีต่อโลกเทคโนโลยี ที่ก้าวเข้ามาทำลายความสวยงามจากวิธีการสร้างสรรค์แบบเดิมไป หรือที่บางคนมองว่าเป็นการสร้างโลก ดิสโทเปีย ขึ้นนั่นเอง
หลังเกิดเสียงตอบในแง่ลบต่อครีเอทีฟของโฆษณาตัวนี้ขึ้นมาอย่างกว้างขวาง Tor Myhren รองประธานด้านการตลาดของ Apple ก็ต้องออกแถลงการณ์ผ่านเว็บ Ad Age โดยยอมรับตรงๆเลยว่าบริษัททำผลิดพลาด
“ความคิดสร้างสรรค์อยู่ในดีเอ็นเอของพวกเราที่ Apple และมันสำคัญอย่างมากสำหรับเราในการออกแบบสินค้าที่ช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรไปทั่วโลก” Myhren ระบุ และบอกต่อว่า “เป้าหมายของเราที่มีมาเสมอก็คือการเฉลิมฉลองกับวิธีการอันหลากหลายของผู้ใช้งานในการแสดงตัวตนและนำไอเดียของพวกเข้าออกมาโลดแล่นผ่าน iPad เราทำผิดพลาดไปกับวิดีโอตัวนี้ และเราต้องขอโทษ”
นี่คือดราม่าเล็กๆที่เกิดขึ้นใน Apple Event ที่ผ่านมาที่น่าจะเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำหรับคนในวงการโฆษณา หรือคนที่อยู่ในสายงานครีเอทีฟ ที่อาจต้องหามุมคิดให้รอบด้านเพื่อปิดจุดบอดบางอย่างที่อาจซ่อนอยู่หรือคิดไปไม่ถึงนั่นเอง