ใครๆ ก็อยากเจาะตลาดจีน เพราะถือเป็นตลาดใหญ่เม็ดเงินมหาศาล แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นงานยากสำหรับ Balenciaga แบรนด์แฟชั่นหรู เพราะกำลังจะกลายเป็นแบรนด์ที่ไม่เข้าตาชาวจีนแล้ว เมื่อเกิดปัญหาข่าวฉาวที่ปารีส ฝรั่งเศส จนถึงกับเกิด #BoycottBalenciagaDiscriminatesChinese ซึ่งจากเหตุนี้มีแววส่อว่าจะบานปลายกลายเป็นการเจาะตลาดจีนจะล้มเหลว
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเผยแพร่คลิปวิดิโอเหตุการณ์ชาวจีนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากตัวออกจากร้านบาเลนเซียกา (Balenciaga)ในห้าง Printemps ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเหตุการณืดังกล่าวเกิดจาก หญิงชาวจีนคนหนึ่งเกิดทะเลาะกับชาวฝรั่งเศส-แอลบาเนีย ราว 5 คน โดยอ้างว่าเธอถูกแซงคิวจ่ายเงิน แต่กลุ่มคนดังกล่าวก็ไม่ฟังเธอและผลักเธอล้มลง จนลูกชายของเธอเห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ถูกคนกลุ่มดังกล่าวรุมอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาจัดการ ซึ่งแทนที่จะเป็นการแยกทั้งสองฝ่ายออกไป กลับกลายเป็นว่าเลือกที่จะนำตัวฝ่ายชาวจีนออกไปจากร้านแทน ในขณะที่ทางร้านก็ให้ลูกค้าชาวจีนไปยืนรอต่อคิวใหม่
httpv://youtu.be/DzdyJk6P3FE
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วและกลายเป็นไวรัลในเวลาไม่นาน และมียอดวิวใน Weibo สูงถึง 23 ล้านวิว (ยอดวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา) สร้างความโกรธเคืองให้กับชาวจีนอย่างมาก เพราะเหมือนกันว่าเพื่อนร่วมชาตินั้นถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จนกระทั่งเกิดแฮชแท็ก #BoycottBalenciagaDiscriminatesChinese ดังกล่าว และที่สำคัญคือยังกลายเป็นแฮชแท็กอันดับหนึ่งของ Weibo(แพล็ทฟอร์มคล้ายทวิตเตอร์ของจีน) อีกด้วย
โดยชาวจีนที่โพสต์ใน Weibo แสดงความคิดเห็นเต็มไปด้วยความกราดเกรียว บ้างบอกว่า “คุณ (Balenciaga)บอกลาตลาดจีนได้เลย” หรือ “Balenciaga รองเท้าก็สวยอยู่หรอกนะ แต่เรื่องนี้รับไม่ได้ #BoycottBalenciaga ที่เลือกปฏิบัติกับชาวจีน”
ต่อมาทั้งทางแบรนด์ Balenciaga และห้าง Printemps ก็ออกแถลงการณ์ขอโทษกับเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับลูกค้าชาวจีน ผ่าน Weibo รวมทั้งแอคเคาท์ทวิตเตอร์ด้วย
แต่แถลงการณ์ขอโทษดังกล่าว ดูเหมือนว่าจะออกหลังเกิดเหตุช้ามาก 3-4 วันหลังเกิดเหตุ ซึ่งหลายเสียงวิจารณ์ว่าเป็นความล่าช้าอย่างรุนแรง ของการแก้วิกฤติแบรนด์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้ทำให้ชาวจีนพึงพอใจเท่าใดนัก
ซึ่งหากวิเคราะห์เทียบกับเหตุการณ์ สตาร์บัค ที่ซีอีโอ เข้ามาเทคแอ็คชั่นทันทีหลังเกิดเหตุ (อ่านบทความสตาร์บัค) ดูจะทำให้ปัญหาและผู้บริโภคพอใจกับการเข้ามาจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้นมากกว่า
ทั้งนี้ ประเทศฝรั่งเศส เป็นประเทศทางยุโรปที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไปมากที่สุด และสินค้าลักซ์ชัวรี่แบรนด์เนมก็เป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวชาวจีนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวจีนก็เป็นที่หมายตาของโจรฝรั่งเศสเช่นกัน จนถึงขนาดที่สถานทูตจีนในฝรั่งเศสยังเคยออกแถลงการณ์เตือนเมื่อปีที่แล้ว ถึงอันตรายของอาชญกรรมจากการจี้ปล้นในเมืองน้ำหอมแห่งนี้.
ที่มา asiaone.com straitimes.com
