ทุกคนต่างรู้ดีว่าปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ไม่ง่ายสำหรับภาคธุรกิจ เช่นเดียวกับ กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ที่แม้จะดำเนินธุรกิจในไทยครบรอบ 88 ปี ในอีกไม่กี่วัน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย โดย คุณโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยและอาเซียน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของเราอยู่ในครัวเรือนไทยถึง 99%
คุณโรเบิร์ต อธิบายถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจอีกว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดสำคัญสำหรับยูนิลีเวอร์ และภายใต้การบริหารงานในไทยราว 4 ปี มองว่าประเทศไทยยังมีความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจอยู่มาก ซึ่ง COVID-19 ทำให้มิติดังกล่าวกว้างขึ้น และยังส่งผลให้ตลาดถูกแบ่งออกจากกันอย่างชัดเจนตามความต้องการของผู้บริโภค เช่น กลุ่มแมสกับกลุ่มซูเปอร์พรีเมี่ยม ซึ่งกลายเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจว่าจะทำโฆษณาอย่างไร โดยเฉพาะยูนิลีเวอร์ที่ใช้งบโฆษณาระดับสูงมาโดยตลอด
“ปีนี้ยอดขายของเราเป็นบวก เรียกว่าสูงสุดในรอบทศวรรษก็ได้ เพราะเราปรับตัวทั้งส่วนการทำโฆษณาและราคาผลิตภัณฑ์ โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่เราลงทุนด้านมีเดียเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมาและมีการปรับลดราคาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีบางกลุ่มที่ยอดขายลดลงจากเคย เช่น ไอศกรีม ซึ่งขาดรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เติบโตขึ้น เช่น สเปรดทาขนมปังเพราะผู้คนมองหาเมนูกินง่าย สะดวก ในช่วงที่ต้องอยู่บ้าน เป็นต้น”
นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ ยังได้นำแบรนด์ที่เคยประสบความสำเร็จในประเทศไทยกลับมาทำตลาดอีกครั้ง เช่น ไอศกรีม เวียนเน็ตต้า และผลิตภัณฑ์ดูแลความสะอาด ไลฟ์บอย ทั้งยังมีการปฏิวัติรูปแบบอาหาร เช่น ส่งเสริมอาหารกลุ่ม Plant Based ให้มากขึ้น รวมถึงการลดปริมาณน้ำตาลและเพิ่มสารอาหารในบางผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ยูนิลีเวอร์ยังคงยึดแนวคิด Growing Together เช่นเดิม โดยในปี 2563 ได้บริจาคผลิตภัณฑ์รวมมูลค่า 200 ล้านบาท เช่น เจลทำความสะอาด ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์คนอร์และวอลล์ ชุดตรวจหาเชื้อโควิด และเครื่องช่วยหายใจ พร้อมกับการดูแลพนักงาน ซึ่งบริษัทนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ทั้งการดำเนินธุรกิจและการดูแลพนักงาน ควบคู่กับการลงทุนในกองทุนสิ่งแวดล้อมอีก 1,000 ล้านยูโร พร้อมกับลดใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ พลาสติก รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีเป้าหมาย Zero Emission ในปี 2582
ในแง่ของพันธมิตรทางธุรกิจ ยูนิลีเวอร์ได้สนับสนุนสภาพคล่องทางการเงินของพันธมิตรทางธุรกิจด้วยการยืดระยะเวลาชำระเงิน ด้วยการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โชห่วยผ่านโครงการร้านติดดาว รวมถึงการสร้างการจ้างงานผ่านโครงการ Wall’s man (พี่ติมวอลล์) ส่งต่อความสุขผ่านไอศกรีมแก่ผู้บริโภค