ตั้งแต่เกิดกระแส Trade War ระหว่าง “สหรัฐฯ” กับพี่ใหญ่แบรนด์จีนอย่าง “หัวเว่ย” เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก็มีข่าวเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่าง 2 รายนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่วงที่สถานการณ์ร้อนแรงและเริ่มอ่อนลง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงท่าทีประนีประนอม โดยชะลอการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และเปิดทางให้บริษัทในสหรัฐฯ สามารถทำธุรกิจร่วมกับหัวเว่ยได้ตามปกติ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ เคยประกาศห้ามดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ยในช่วงก่อนหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเบาใจว่า สหรัฐฯ ส่งสัญญาณดีต่อประเด็นดังกล่าว กระทั่งล่าสุด…รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศ “ห้ามทำธุรกิจ” ร่วมกับบริษัทจีนอีกครั้ง แน่นอนชื่อของหัวเว่ยอยู่ในลิสต์ดังกล่าวด้วย รวมถึงอีก 4 บริษัท ได้แก่ Hikvision, ZTE, Hytera, Dahua โดยรัฐบาลสหรัฐฯ มีมาตรการห้ามหน่วยงานรัฐซื้อเครื่องมือเกี่ยวกับโทรคมนาคม วิดีโอสื่อสาร รวมถึงกล้องวงจรปิดจากทั้ง 5 บริษัท ซึ่งมีผลบังคับใช้ชั่วคราวตั้งแต่ 13 สิงหาคมนี้
การแบนดังกล่าวเป็นประเด็นต่อเนื่องจากกรณีก่อนหน้านี้ รวมถึงเรื่องความปลอดภัยข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐฯ กังวลว่าการใช้อุปกรณ์แบรนด์จีนอาจทำให้เกิดช่องโหว่เข้าถึงข้อมูลสำคัญกลายเป็นภัยคุกคามประเทศ รวมถึงประเด็นที่สหรัฐฯ กล่าวหาหัวเว่ยว่าขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ท่ามกลางความร้อนแรงนี้ บรรดาบริษัทที่มีรายชื่อติดโผต่างออกมายืนยันคุณภาพของผลิคภัณฑ์และบริการของตนเอง และการันตีว่าการดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนด
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการประกาศแบนครั้งนี้แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงกรอบเวลาในการห้ามทำธุรกิจกับหัวเว่ยโดยเด็ดขาด ซึ่งระบุไว้ว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวดภายในสิงหาคม 2020
ที่มา : Reuters