ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาด COVID-19 อุตสาหกรรมจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ และต้องปรับตัว และอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดก็คงเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ตั้งแต่สายการบินไปจนถึงที่พัก โรงแรมต่างๆ
แต่เมื่อไม่นานมานี้ Airbnb แพลตฟอร์มการจองห้องพักแบบโฮสเทล หรือ home-sharing ที่ได้รับความนิยมแพลตฟอร์มหนึ่งในกลุ่มนักเดินทาง ได้ประกาศผลประกอบการของไตรมาส 4/2021 ระบุว่า รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 80% เทียบแบบปีต่อปี อยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น่าสนใจก็คือ รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นสูงกว่าช่วงปี 2019 ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดเข้ามาด้วยซ้ำ
เพราะอะไรผลประกอบการ Airbnb ถึงยังเติบโตทั้งที่มีการระบาดของไวรัส? และนี่คือ 3 พฤติกรรมคนชอบเที่ยวที่ Airbnb ได้ศึกษาและเจาะตลาดนี้โดยเฉพาะ เพื่อสร้างรายได้ชดเชยจากช่วง 2 ปีเต็มๆ ที่มี COVID-19 ที่ผ่านมา
-
ท่องเที่ยวแถบชนบทได้รับความนิยม
พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิมที่คนนิยมเข้าไปในเมือง (ช่วงที่ไม่มี COVID-19) หรือไปเมืองชายฝั่ง/ชายทะเลซึ่งจะมีคนพลุกพล่านมากกว่าปกติ
แต่สำหรับอินไซต์ของ Airbnb ในหลายประเทศพบว่า มีการเดินทางออกนอกเมืองมากขึ้นถึง 45% โดยเฉลี่ยทั้งโลก ขณะที่การเดินทางเข้าเมืองที่มีคนอาศัยอยู่เยอะ แออัด ลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหม่ๆ ในช่วงไตรมาส 4/2019
-
การเดินทางเข้าเมืองเริ่มกลับมา
แต่มีข้อมูลน่าสนใจในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่นักเดินทางเริ่มจองที่พักที่อยู่ในตัวเมืองมากขึ้น และเป็นสถานที่ที่เคยได้รับความนิยมในช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาด เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะว่ามาตรการภาครัฐเริ่มผ่อนคลาย บางสถานที่เปิดให้เข้าบริการได้แล้ว (ในช่วงหนึ่ง) เช่น บาร์และร้านอาหารแบบปิด
อย่างไรก็ตาม Airbnb ได้ระบุว่าข้อมูลการเดินทางเข้าเมืองแม้ว่าจะเริ่มเห็นปรากฏการณ์นี้บ้างแต่เฉพาะในประเทศตะวันตกที่โดดเด่นที่สุด
-
เลือกพักระยะยาวมากขึ้น
ตั้งแต่ที่คนทั่วโลกใช้มาตรการทำงานระยะไกล (Remote Working) มากขึ้น หรือทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ดังนั้น ปรากฏการณ์ใหม่ที่เห็นชัดขึ้นจากอินไซต์ของ Airbnb ก็คือ นักเดินทางเลือกที่จะจองห้องพัก/บ้านพักแบบระยะยาวมากขึ้น
โดยประมาณ 1 ใน 5 ของคนที่จองที่พักผ่านแพลตฟอร์ม Airbnb จะเลือกบุกกิ้งที่พักประมาณ 28 วัน (หรือมากกว่านั้น)
สิ่งที่น่าสนใจในการทำการตลาดของ Airbnb ช่วงที่มีการแพร่ระบาดก็คือ เลือกเจาะไปที่กลุ่มที่ต้องการ ‘พักระยะยาว’ บ่อยๆ remind พวกเขาซ้ำๆ เพื่อทำให้พวกเห็นว่าสามารถทำงานและพักผ่อนไปพร้อมๆ กันได้ โดยราคาที่พักจะถูกลงเหมือนเราจองห้องพักแบบ 3 เดือนสำหรับการจองระยะ 1 เดือน เป็นต้น
ที่สำคัญในแถลงการณ์ของ Airbnb ได้พูดถึงเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจที่จำเป็นต้องอัพเกรดสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับนักเดินทาง โดยในปี 2021 มีที่พักที่แปลกใหม่กว่า 150 รายการที่ถูกปล่อยเข้าไปในแพลตฟอร์ม เช่น ที่พักในถ้ำ, ที่พักในป่า เป็นต้น
การปรับตัวในยุคที่ต้องรอดเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะขนาดที่ผู้คนยังโหยหาการท่องเที่ยว หรือการพักผ่อนตลอดเวลาแม้ว่าจะเผชิญกับช่วงล็อกดาวน์ หรือการแพร่ะระบาดที่รุนแรงขึ้น หมายความว่าธุรกิจที่พัก โรงแรมอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่อย่างน้อยๆ เราต้องมีกลยุทธ์น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าได้ และต้องปรับตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคให้ทัน
ที่มา: fastcompany, Airbnb