กลายเป็นกระแสฮือฮาของวงการยานยนต์โลกทีเดียว หลังจากที่ Tesla คว้าตำแหน่งเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลกไปแล้ว แซงหน้ารถสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Toyota และรถยนต์ high class จากเยอรมนีอย่าง Volkswagen
โดยราคาหุ้น Tesla ทะลุ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัวในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
Tesla is now officially the most valuable automaker of all the world!! Congrats!! 🎉🎉🚀 @elonmusk @tesla pic.twitter.com/BSovZVTGJ3
— Elon's World (@ElonsWorld) June 10, 2020
เรียกได้ว่าการเติบโตของ Tesla ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 3 เดือนก่อน ที่มูลค่าของ Tesla แซงหน้าบริษัทรถยนต์ระดับโลกหลายราย เช่น Honda, BMW, General Motors และ Daimler ก่อนที่จะขึ้นแซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ Volkswagen
ทั้งนี้ รายงานชี้ว่า การที่มูลค่าหุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ได้รับแรงหนุนหลังจากที่ ‘อีลอน มัสก์’ ส่งอีเมล์ถึงพนักงานส่งสัญญาณพร้อมสำหรับการผลิตแบบ ‘volume production’ หรือในปริมาณมากๆ โดย มัสก์ ได้อธิบายเพิ่มทีหลังว่า เขาหมายถึง “การผลิตแบตเตอรี่ในปริมาณมากๆ ที่โรงงาน Giga Nevada”
คำยืนยันดังกล่าวของ อีลอน มัสก์ สามารถยืนยันข่าวลือก่อนหน้านี้ได้ว่า Tesla เตรียมผลิตแบตเตอรี่ ‘ล้านไมล์’ ซึ่งกำลังทำงานร่วมกับบริษัทรายหนึ่ง
จนล่าสุด BloombergNEF ได้สัมภาษณ์ ‘Zheng Yuqin’ ประธานบริษัท CATL ในประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทกำลังผลิตแบตเตอรี่ ที่มีอายุการใช้งานนานขึ้นถึง 2 ล้านกม. ครอบคลุมระยะเวลาการใช้งาน 16 ปี (จากเดิมที่สามารถวิ่งได้ 241,000 กม. /8 ปี) ทั้งยังพูดถึง Tesla ว่าเป็นคู่ค้าที่ดีมาตลอด รวมไปถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับ อีลอน มัสก์ อีกด้วย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities บริษัทให้บริการด้านการเงินและการลงทุนของวอลล์สตรีท ประเมินว่า ความสำเร็จของ Tesla ที่ขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก น่าติดตามต่อว่าทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์จะเป็นอย่างไรต่อไป เชื่อว่ากระแสรถยนต์ไฟฟ้าจะมาแรงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ สิ่งที่สังเกตได้ก็คือ Tesla มีความเชื่อมโยงกับตลาดจีนมากขึ้น ดังนั้น เป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่า ดีมานด์รถยนต์ในอนาคตจะยังมาจากจีน เป็นรายใหญ่ของโลกอย่างชัดเจน
ขณะที่ Forbes ระบุว่า การปรับขึ้นของหุ้น Tesla ที่ผ่านมา ทำให้ อีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีทรัพย์สินรวมทั้งหมด 42,900 ล้านดอลลาร์ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุด อันดับ 23 ของโลกในปัจจุบัน
ที่มา : telegraph, teslarati, bloomberg