เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่บริษัท Startup เล็กๆ จะก้าวขึ้นสู่ระดับความเป็น Unicorn ได้นั้นเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งแม้แต่บริษัทในสหรัฐฯ เองก็มีเพียงส่วนน้อยที่ก้าวขึ้นเป็น Unicorn ได้ อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มคนไทยที่เริ่มต้นธุรกิจจากคนเพียงแค่ 2 คน กับการทำงานภายในระยะเวลา 4 ปี วันนี้พวกเขากล้าที่จะประกาศตัวแล้วว่า จะก้าวขึ้นเป็น Unicorn ให้ได้ ใน 2 ปี ภายใต้บริษัทชื่อไทยน่ารักว่า“แสนรู้” (Zanroo) มาร์เท็คสตาร์ทอัพ (MarTech Startup) แห่งแรกของคนไทย
สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า มาร์เท็ค หรือ Marketing Technology คือการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยในการทำงานด้านการตลาดต่างๆ นั่นเอง เช่น การทำ Social Listening, Data Analytics, Sales Automation, Campaign/Lead Management เป็นต้น
ระดมทุน Series A
“แสนรู้” เป็น มาร์เท็คสตาร์ทอัพ ที่ให้บริการด้าน Insight Discovery, Social Listening, Social Engagement และ Consult Service ที่เติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็วมาก ก่อตั้งเมื่อปี 2556 จากผู้ก่อตั้งเพียง 2 คน ได้แก่ ไฟท์-ชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง (CEO and Founder) และ อ๋อม-อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง (CTO and Founder) จากบริษัทเล็กๆ ในเมืองไทยจนปัจจุบันมีผู้ร่วมก่อตั้งเพิ่มอีก 3 คน มีพนักงานมากกว่า 150 คน มีสำนักงานใน 6 ประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สำนักงานใหญ่) กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ จาการ์ตา โตเกียว และลอนดอน และมีพื้นที่ให้บริการถึง 15 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย ศรีลังกา ปากีสถาน และอังกฤษ พร้อมกับอัตราเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 200-400% ต่อปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
ล่าสุด กับอีกก้าวของความสำเร็จเมื่อ “แสนรู้” ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Shift Ventures ระดมทุน Series A เป็นเงินจำนวน 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 259 ล้านบาท (เป็นการระดมทุนครั้งแรก) จากกองทุน สถาบันการเงิน เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนหลายราย เพื่อรุกตลาด MarTech ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย สหรัฐฯ และยุโรป โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานพื้นที่การให้บริการจาก 15 ประเทศ สู่ 40 ประเทศทั่วโลก
จุดแข็ง “แสนรู้”
ไฟท์-ชิตพล กล่าวถึง ความแข็งแกร่งที่สำคัญที่ทำให้ “แสนรู้” ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 300 รายทั่วโลกว่า เป็นเพราะเรามีจุดแข็งที่สำคัญคือ ให้บริการซอฟท์แวร์ที่ครบวงจร ได้แก่ Social Listening, Social Engagement ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเจาะลึก บนแพล็ทฟอร์มยอดนิยม Social Network ของแต่ละท้องถิ่น มีความแม่นยำในการตีความภาษาท้องถิ่นทั่วโลก นอกจากนี้ ในด้านการ consultant ที่นอกจากจะประมวลและวิเคราะห์ผลอย่างแม่นยำแล้ว เรายังนำ Insight ไปต่อยอดให้กับแบรนด์ได้ เพื่อใช้ในการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดหรือป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติกับองค์กร ที่สำคัญคือ เรายังเป็นบริษัทแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 ทางด้านการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของลูกค้า ยิ่งทำให้บริษัทของเราได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลกเพิ่มขึ้น
“เรารู้ Journal ของคนในโซเชียลฯ และนำข้อมูลนั้นช่วยสร้างรายได้ให้กับแบรนด์ได้ ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับแบรนด์ ถ้าได้ทำงานกับเรา จะช่วยได้ทั้งการปรับแคมเปญและแก้วิกฤติได้อย่างทันท่วงที”
วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Shift Ventures กล่าวถึง การระดมทุนในครั้งนี้ว่า เรามั่นใจที่จะร่วมขยายธุรกิจไปกับ “แสนรู้” เพราะมั่นใจใน 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ 1.มั่นใจในเทคโนโลยีที่บริษัทแห่งนี้มี 2.มั่นใจในตัวผู้ก่อตั้งและทีมงาน และ 3.คือเรามองเห็นโอกาสการเติบโตในระดับโลก ทั้งนี้ สิ่งที่เราจะนำเงินทุนไปพัฒนาต่อยอดได้แก่ 3 ด้านด้วยกันดังนี้
- 40% ใช้เพื่อพัฒนาโปรดักส์
- 30% ใช้เพื่อพัฒนาทีม
- 30% ใช้เพื่อการตลาด
เปิดตัว “อรุณ”
ด้าน อ๋อม-อุดมศักดิ์ CTO กล่าวเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ล่าสุด ได้แก่ “อรุณ” (ARUN) ว่า เพื่อทำให้ “แสนรู้” ก้าวสู่ระดับโลก เราได้คิดค้นนวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลกขึ้นมาชื่อ “อรุณ” ชื่อไทยๆ มีแรงบันดาลใจจาก “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” หรือวัดอรุณ นั่นเอง เพื่อสื่อถึงความเป็นไทยที่ชัดเจน
ความโดดเด่นของ “อรุณ” อ๋อม-อุดมศักดิ์ กล่าวว่า สามารถประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากทั้ง Paid Media, Owned Media และ Earned Media ได้รวมกันอย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยวัดผลการตอบแทนการลงทุน (ROI) ในโลกดิจิทัลเป็นครั้งแรก ซึ่งจะช่วยให้สามารถวัดผลกิจกรรมการตลาดในช่องทางดิจิทัลได้อย่างละเอียดขึ้น ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดบนความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำและตรงจุดที่สุด และด้วยศักยภาพของ “อรุณ” จะเป็น Game Changer ในการช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก
เป้าหมาย Unicorn บริษัทแรกของไทย
ไฟท์-ชิตพล กล่าวถึงกลยุทธ์การบุกตลาดโลกว่า มีจุดเด่นด้วยกัน 4 ประการคือ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- มีทีมขายที่เข้มแข็งในแต่ละประเทศ
- มีแผนการตลาดที่ตรงจุด
- พร้อมทั้งดูแลลูกค้าและบริหารหลงการขายอย่างดี
นอกจากนี้ จะเดินหน้าด้านการตลาดแบบเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะมีการเดินสายโรดโชว์ตั้งแต่ปลายปีนี้และต้นปีหน้าทั้งที่สหรัฐฯ และจีน ก่อนที่จะก้าวไปสู่ยุโรปในอีกหลายเมือง
“ตั้งแต่กลยุทธ์ จุดแข็งของทีมงานและ Tools ที่เรามี รวมทั้งเงินทุนที่ได้ ทำให้เรามั่นใจว่า “แสนรู้” จะสร้างยอดรายได้ 260 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ และภายในปี 2562 จะขยายตลาดไปยัง 40 ประเทศทั่วโลกได้ และมียอดรายได้แตะที่ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 10,000 ล้านบาท นั่นหมายความว่า เราตั้งเป้าที่จะเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ที่ขึ้นเป็น Unicorn Startup และติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัท MarTech ระดับโลก”
น่าจับตาว่านี่อาจจะเป็นบริษัทไทยของคนไทยที่กลายเป็น Unicorn รายแรก และอาจจะเป็นรายแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย นับเป็นความสำเร็จที่น่ายินดียิ่งของ 2 เด็กหนุ่มไทย ที่สามารถทำก้าวเล็กๆ ไปสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ได้ในที่สุด.. และบางทีม้าที่มีเพียงในเทพนิยาย อาจจะได้ถือกำเนิดอีกตัวที่ไทยก็ได้ใครจะรู้.
Copyright © MarketingOops.com