ประเด็นการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้เทคโนโลยี 3 จี ในประเทศไทย ดูร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ตั้งตารอดูท่าทีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกทช. มานานตั้งแต่วันแรกที่มีคณะกรรมการขึ้นมา เมื่อทาง “ทรูมูฟ” ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบจีเอสเอ็มที่เป็นผู้เล่นเบอร์ 3 ชิงประกาศเปิดขาย “ไอโฟน” เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ของแอปเปิล อิงก์ อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
กระแสข่าวการขาย “ไอโฟน” ในประเทศไทยโดย “ทรูมูฟ” นั้น มีข่าวลือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า ทรูมฟจะได้สิทธิขายไอโฟนในประเทศไทย ไม่ใช่ “เอไอเอส” ผู้เล่นเบอร์ 1 ในตลาดมือถือไทยที่มียอดผู้ใช้อยู่ในมือ 26 ล้านราย ทั้งๆ ที่ “สรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาดของเอไอเอสออกมาให้ข่าวว่า เอไอเอสกำลังเจรจากับแอปเปิล อิงก์ที่จะนำไอโฟนเข้ามาขายในประเทศไทยก่อนหน้า “ทรูมูฟ” หลายเดือน น่าจะมีความได้เปรียบในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้ใช้บริการ เครือข่าย ช่องทางจัดจำหน่าย รวมไปถึงแอปพลิเคชั่น
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเจรจายืดเยื้อกันน่าจะเป็นความไม่ลงตัวในเรื่อง “โมเดลทางธุรกิจ” ที่ไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากโมเดลธุรกิจของแอปเปิลเป็นเรื่องของการมีเอี่ยวในรายได้จากการใช้บริการ “รายเดือน” ขณะที่โมเดลธุรกิจหลักของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยเป็นลักษณะ “เติมเงิน” มากกว่า “จ่ายเป็นรายเดือน” มากถึง 80-90% ของตลาดรวม จึงทำให้การเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้
หลังจากที่มีข่าวลือในตลาดกับการที่ทรูมูฟจะได้ขายไอโฟนมีอยู่นานนับเดือน ถึงแม้พยายามยามสอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปยังผู้บริหารของทรูมูฟกลับได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบรายละเอียด และก็ไม่ได้ยืนยันว่า ข่าวลือดังกล่าวจริงเท็จเพียงใด จนกระทั่งช่วงต้นๆ เดือนธันวาคม 2551 ก็มีข่าวประชาสัมพันธ์ออกมาจากทางทรูมูฟว่า ทรูมูฟได้รับสิทธิขายไอโฟนจริง แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ ออกมา จึงทำให้สาวกที่ต้องการใช้ไอโฟนในประเทศไทย รวมถึงสาวกแฟนพันธุ์แท้ “แอปเปิล” ต่างพากันหยุดการซื้อไอโฟนในตลาดมืดที่ลูกตู้ขายโทรศัพท์เคลื่อนที่เคยลักลอบนำไอโฟนจากต่างประเทศเข้ามาขายไปชั่วขณะ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ก่อนวันคริสต์มาส 1 วัน ทางทรูมูฟได้ออกข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดราคาและวันเวลาที่จะขายไอโฟนออกมา
ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กล่าวว่า ทรูมูฟรู้สึกยินดีที่ได้นำนวัตกรรม ไอโฟน 3จีเข้ามาให้บริการแก่คนไทย และการเปิดตัวของ ไอโฟน 3จี ครั้งนี้ แสดงชัดถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มทรูที่จะให้บริการ 3จี ในประเทศเพื่อให้ประชาชน ผู้สนใจสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติ และความสามารถที่โดดเด่นด้านบริการ ไอโฟน 3จี อย่างเต็มที่
บริการครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ทรูมูฟมีความมุ่งมั่น 3จี ในประเทศ โดยในการเปิดตัวในเฟสแรกนี้ จะให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ ที่ทำสัญญาร่วมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ซึ่งขณะนี้ทรูมูฟ ได้นำเข้าอุปกรณ์และติดตั้งทดสอบระบบไปบ้างแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในที่มีการใช้งานดาต้าสูง
“ผมดีใจที่ได้นำไอโฟน 3จี มาให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งผู้สนใจสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติและความสามารถที่โดดเด่นด้านบริการไอโฟน 3จี ผนวกกับบริการไว-ไฟ ที่ให้ความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีจีพีเอสในตัว เพื่อขยายการให้บริการระบุตำแหน่งผ่านมือถือ และซอฟต์แวร์ของไอโฟนเวอร์ชั่น 2.2”
โดยทางทรูมูฟ ประกาศเปิดให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนสั่งจองเครื่องโทรศัพท์ ไอโฟน 3จี อย่างเป็นทางการได้ผ่านทาง www.truemove.com หรือ www.weloveshopping.com เฉพาะผู้ที่มีการลงทะเบียนสั่งจองสมบูรณ์ครบถ้วนเท่านั้นจะสามารถมารับเครื่องไอโฟน 3จี ได้ในงานเปิดตัวที่จะมีขึ้นในวันที่ 16-18 มกราคมศกนี้ ณ ห้องรอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
“การเพิ่งเปิดตัวล่าช้านั้น เป็นเพราะติดปัญหาทางด้านการเมืองในช่วงเดือนธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา”
สาเหตุที่ทำไมทรูมูฟถึงนำไอโฟนเข้ามานั้น ศุภชัยเล่าให้ฟังว่า สืบเนื่องจากฟีเจอร์ของไอโฟนนั้น สอดคล้องกับกลยุทธ์ทรูมูฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทของกลุ่มทรู ซึ่งทรูเป็นผู้ให้บริการสื่อสารครบวงจรหนึ่งเดียวของไทย และเป็นผู้นำชีวิตคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ มีความพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของไอโฟน 3จี ผ่านเครือข่ายความหลากหลายของกลุ่มทรูทั้งเครือข่าย 3จี ไวไฟ และเอดจ์/จีพีอาร์เอส
โดยเฉพาะเครือข่ายไวไฟ ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์สำคัญในการเข้าถึงข้อมูลของไอโฟน โดยทางกลุ่มทรูนับเป็นผู้นำการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในประเทศ เพราะมีฮอตสปอตให้บริการไวไฟมากกว่า 16,000 จุดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานครและกว่า 50 จังหวัด
“จริงๆ ไอโฟนจะมองหาสัญญาณไวไฟก่อน ซึ่งจะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูง”
เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าไอโฟน 3จี ทางทรูมูฟได้เซตค่าในระบบให้ทำการล็อกอินเชื่อมต่อไวไฟให้อัตโนมัติ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องใส่ยูสเซอร์เนมและรหัสผ่านใหม่ทุกครั้งที่ต้องการเชื่อมต่อบริการไวไฟ เมื่อใดก็ตามที่ต้องการใช้ ในพื้นที่ให้บริการของไวไฟ บาย ทรูมูฟ
ศุภชัย กล่าวอีกว่า จากการที่ทรูมูฟได้ลงทุนในการขยายเครือข่ายการให้บริการ ผนวกกับความล้ำสมัยที่พลิกโฉมเครื่องโทรศัพท์มือถือไอโฟน 3จี ของแอปเปิล จะทำให้ผู้ใช้บริการของทรูมูฟ สามารถเข้าถึงสุดยอดประสบการณ์การท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสมบูรณ์แบบราคาและตารางแพกเกจเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวของไอโฟน 3จี ในประเทศไทย
ศุภชัย กล่าวว่า จากความได้เปรียบที่ทรูมูฟสามารถขายไอโฟนได้ก่อนคู่แข่ง น่าจะทำให้การใช้งานด้านนอนวอยซ์ปี 2552 สูงขึ้น แต่ตนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด ต้องรอดูกระแสตอบรับจากลูกค้าในช่วงแรกก่อน
แต่จากเป้าหมายที่ทรูมูฟตั้งเป้าหมายในส่วนของบริการเสริมในปี 2552 ไว้ประมาณ 2,200-2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,000 ล้านบาท โดยรายได้จากนอนวอยซ์อยู่ที่ประมาณ 11-12% ของรายได้รวมที่ผ่านมา
“ทั้งตลาดในขณะนี้น่าจะมีคนใช้ไอโฟนอยู่แล้ว 150,000 เครื่อง เป็นตัวเลขคนใช้ที่ปราศจากการทำตลาด และการขายที่เป็นแมส มีบริการหลังการขาย และการันตี จึงเชื่อว่า ถ้าทำให้ถูกต้องโดยเรานำเข้ามาทำตลาดจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”
เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้ที่ใช้ไอโฟนในประเทศไทยอาจจะมีจำนวนไม่สูงมาก ที่คาดคะแนว่า น่าจะมีอยู่ประมาณ 100,000-150,000 เครื่อง นักวิเคราะห์ตลาดได้ให้มุมมองว่า ไอโฟนอาจจะไม่ได้เป็นแรงเสริมให้กับทรูมูฟมากนัก หนึ่ง เป็นผลจากราคาเครื่องไอโฟนที่ทรูมูฟตั้งขึ้นมาสูงกว่าเครื่องที่หาซื้อจากตลาดมืด สอง ปัญหาเรื่องศักยภาพของเครือข่ายที่ทรูมูฟดูด้อยกว่าโอเปอเรเตอร์รายอื่นๆ จึงทำให้เป้าหมายที่ทรูมูฟหมายมั่นปั้นมือจะเข้าไปสร้างส่วนแบ่งตลาดในตลาดแบบเหมาจ่ายรายเดือนคงจะไม่ง่ายดังที่คิด
ซึ่งเรื่องนี้ทางทรูมูฟมีแผนที่จะลงทุนทางด้านเครือข่ายเพิ่มเติม ศุภชัย กล่าวว่า ทรูมูฟ มีแผนสำหรับแผนการลงทุนในปี 2552 จำนวน 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบพัฒนา 3 จี บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 5,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายเดิม โดยงบประมาณลงทุนที่ทำต่อเนื่องส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดจำนวน 3,000 ล้านบาท สำหรับงบลงทุน 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ต้องขึ้นอยู่กับว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมจะประมูลใบอนุญาตได้เมื่อไร ซึ่งทางทรูมูฟพร้อมที่จะลงทุน
ศุภชัย กล่าวอีกว่า ในแง่ของโครงข่ายการให้บริการ 3จี ขณะนี้ทางทรูมูฟเริ่มติดตั้งสถานีฐาน และทดสอบระบบไปบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ได้รับการแบ่งคลื่นของดีแทคจากบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เชื่อว่า ในช่วงเดือนมกราคมปีนี้จะเริ่มใช้ได้ในบางพื้นที่ อาทิ สีลม สยาม สุวรรณภูมิ และสาท
Source: นิตยสารผู้จัดการ