เพราะในโลกธุรกิจ ผู้บริโภคยิ่งมาก ยิ่งมีความต้องการที่ซับซ้อน ดังนั้นเป้าหมายของคนทำการค้าคือ การเอาใจให้ได้ทุกคน แต่ความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมาก เพราะปัจจุบันเรามักทำธุรกรรมต่างๆในโลกออนไลน์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม ซื้อของและจ่ายเงินผ่านมือถือ
ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาใด ๆ คนที่ต้องรองรับอารมณ์ก็มักเป็นคอลเซ็นเตอร์คนจริงๆ (ที่ก็มีอารมณ์ขึ้นเป็นเหมือนกัน)
จุดนี้เองจึงพบช่องโหว่ในการเอาใจลูกค้าที่ทำธุรกรรมออนไลน์ ที่เมืองจีนเอง ซึ่งวันนี้เรื่องเทคโนโลยีล้ำหน้า และไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของลูกค้ากำลังปรับทัพสู่โลกดิจิตอลอย่างเต็มกำลัง จึงมีคนคิดแก้ปัญหานี้ขึ้น ในที่สุดจึงเกิดเป็น “EmotiBot” ระบบสมองกลวิเคราะห์อัจฉริยะ ที่ผสานหลากเทคโนโลยี อาทิ image recognition และ a deep-learning AI เพื่อทำการวิเคราะห์ สีหน้า น้ำเสียงของลูกค้า เพื่อแบ่งออกมาเป็นอารมณ์ต่างๆ ถึง 7 แบบ อาทิ มีความสุข เซอร์ไพรส์ โกรธ เฉยๆ เป็นต้น
โดยทีมงานได้เปิดระบบให้คนทั่วไปนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งานและต่อยอดได้ฟรี โดยหวังว่าในอนาคต จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจมากมาย อาทิ
* คนทำแอปฯ เกม เมื่อเห็นภาพลูกค้าขณะเล่นเกมซึ่งเป็นสีหน้าที่สุดตื่นเต้น ก็สามารถแนะนำให้ผ่อนคลายด้วยบริการฟังเพลง หรือการพักหน้าจอสักพัก เป็นต้น
* คนขายของออนไลน์ สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ตอนที่ลูกค้าดูภาพสินค้าตื่นเต้น แต่พอไม่มีรหัสส่วนลดก็จะเริ่มโกรธ ระบบก็สามารถส่งคูปองส่วนลดเฉพาะกิจเป็นข้อความป็อปอัปขึ้นมาที่หน้าจอได้
* ธุรกิจค้าปลีก ที่เมื่อใช้เทคโนโลยีนี้กับตู้โชว์หน้าห้าง ก็สามารถนำเสนอภาพเสื้อผ้าสวยๆ ที่สวยกว่าที่ลูกค้าใส่อยู่ได้ เพื่อจะได้นำไปสู่การกระตุ้นให้คนเข้ามาเดินห้างมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
อย่างไรก็ดีระบบนี้เริ่มทดลองใช้แล้วกับคลิปวิดีโอสุดฮอตที่นักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกจีนคนดัง “ฟู่ หยวนฮุ่ย” ซึ่งมีบุคคลิกโดดเด่นและมีการแสดงออกทางสีหน้าที่ยอดเยี่ยม ตลอดระยะเวลาการจับคลิปการสัมภาษณ์ของเธอ ระบบก็สามารถวิเคราะห์อารมณ์อันหลากหลายของเธอในแต่ละวินาทีได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว ดูคลิปวิดีโอได้ที่นี่
เห็นแบบนี้แล้ว มั่นใจเลยว่าโลกแห่งธุรกิจวันข้างหน้าจะถูกขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์ที่ฉลาดพอๆ หรือมากกว่าเรานั่นเอง